You are here
Home > Search Results for "พรีเมียร์ลีก" (Page 2)

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 12 ฟูแล่ม เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

ฟูแล่ม เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

        เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษนัดที่ 12 คู่วันอาทิตย์ ฟูแล่ม ที่อยู่ในโซนท้ายตารางเปิดบ้านรับ ลิเวอร์พูล ที่ก่อนเกมมีข่าวดีเนื่องจาทีมหัวตารางด้วยกันพร้อมใจกันสะดุดหมด ฉะนั้นหากเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ได้จะขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแบบเดี่ยว ๆ สำหรับผังการเล่นเจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-2-1 ส่วนทีมเยือนวางผังที่คุ้นเคย 4-3-3 ต้นเกม ฟูแล่ม เริ่มต้นด้วยความคึกคัก ทำให้มีโอกาสจบสกอร์ได้หลายจังหวะ         แต่ยังยิงไปติดเซฟอลิสซง ทำให้ 10 นาทีแรก ลิเวอร์พูลครองเกมไม่ได้เลย กระทั่งหลังจากนั้นเริ่มมีจังหวะครองบอล แต่ก็เป็นในลักษณะการถ่ายบอลในแดน ยามพาบอลเข้าไปในแดนของเจ้าบ้านก็จะเสียบอลง่าย ทำให้บางจังหวะเลือกโยนยาวไปให้ซาลาห์กับมาเน่ แต่ก็ถูกสกัดไว้ได้ทั้งหมด จนทำให้กล่าวได้ว่านี่เป็นรูปเกมที่แย่เกมหนึ่งของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ ดังจะเห็นได้จากปฏิกิริยาของเยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ออกอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง เนื่องจากลูกทีมครองบอลไม่ได้ ทั้งที่เจ้าถิ่นไม่ได้บีบหรือเพรสซิ่งหนักอะไรเลย ซึ่งฟูแล่มมีเพียงการตั้งโซนรับ 2 ชั้นเท่านั้น พลางรอดักบอลแล้วสวนลับ กระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0         ลิเวอร์พูล เริ่มตั้งหลักได้ในนาทีที่ 40 เป็นต้นมาจนจบครึ่งแรก และออกมาเล่นครึ่งหลังด้วยการขึงเกมบุกใส่ฟูแล่ม ซึ่งในครึ่งหลังนั้นลูกทีมของสก็อต พาร์กเกอร์ ซื้อเกมรับเต็มตัว โดยถือว่าทำได้ดีเพราะสามารถยันเกมรุกของทีมเยือนอยู่หมัด ดังจะเห็นได้ว่าผู้รักษาประตูแทบไม่มีลูกเซฟอันตราย         กระทั่งท้ายเกม จังหวะฟรีคิกของลิเวอร์พูลที่ปั่นไปติดแขนผู้เล่นของฟูแล่มจนกลายเป็นจุดโทษ ซึ่งซาลาห์เองก็ยิงไม่ค่อยดี จนผู้รักษาประตูเกือบเซฟได้ ยังโชคดีที่บอลยังแรงพอที่จะเข้าประตูไป ทำให้เกมหลังจากนั้นโมเมนตัมหันเหไปทางลิเวอร์พูลแบบเต็มๆ แต่ยังดีที่ว่าฟูแล่มมีแรงฮึดสุดท้ายอยู่ ทำให้เป็นเพียงไม่กี่ทีมที่ซื้อเกมรับแล้วยันเสมอลิเวอร์พูลได้สำเร็จ         บทสรุปจากเกมฟูแล่ม ถือว่าเป็นทีมที่เล่นดีมีทรงอยู่แล้ว และในเกมนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าการซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาผนึกกับนักเตะเดิม สก็อต พาร์กเกอร์ได้ทีมที่ลงตัวแล้ว ฉะนั้นนับจากนี้หากใครประมาทเจ้าสัวน้อย ย่อมมีสิทธิ์ถือฆาตด้วยความปราชัย ส่วนลิเวอร์พูล เกมนี้มาตรฐานค่อนข้างตกลงไป อีกทั้งยังเสียเวลาไปกับการตั้งหลักอยู่นาน ทำให้การได้ 1 แต้มในวันนี้ถือว่ายุติธรรมแล้ว     สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้  แฟนหมาป่าขับเครื่องบินพร้อมป้ายผ้าให้ “ราอูล” หายโดยเร็ว“คาร์ราเกอร์” ออกมาเตือน “อาร์เตต้า” อย่าพยายามเลียนแบบทัพเรือ“เวนเกอร์” อดีตกุนซือ แนะ “อาร์เตต้า” คุมโอซิลง่ายนิดเดียว

“โซลชา” กร้าว! ผีชุดนี้มีโอกาส วนลูปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้

โซลชา

โอเลย์ กุนนาร์ โซลชา กุนซือเทพวนลูปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ทีมปีศาจแดงที่เขาคุมทัพอยู่ มีดีมากพอที่จะสามารถปาดหน้าทุกทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้ แม้ผลงานในฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนลีก จะวางแผนเนียนด้วยการขอจบแค่ที่ 3 เพื่อเป้าหมายการลงไปคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก แก้มือจากฤดูกาลที่แล้ว ที่ตกรอบรองชนะเลิศอย่างเหลือ แต่ผลงานในลีก พวกเขาเก็บชัยชนะ 4 นัดติดต่อกัน ขึ้นมาอยู่กลุ่มบนของตาราง ไล่หลังทีมจ่าฝูง ทอตแนมฮอต สเปอร์ 5 คะแนน แต่ลงสนามน้อยกว่า 1 นัด โดยทีมปีศาจแดง มีคิวลงสนามวัดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถ้าสามารถเก็บสามคะแนนเต็มได้ จะขยับเข้าใกล้ทัพไก่เดือยทอง 2 คะแนน เข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว โซลชา ได้กล่าวว่า "สามฤดูกาลที่ผ่านมา มีเพียงแค่ม้า 2 ตัว" ซึ่งทาง โอเลย์ กุนนาร์ โซลชา ได้กล่าวว่า “สามฤดูกาลที่ผ่านมา มีเพียงแค่ม้า 2 ตัวที่ตีคู่เบียดเข้าเส้นชัยแบบทิ้งห่างคู่แข่งหลายเสาไฟฟ้า แต่ทีมของเราเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว และกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ และแน่นอนคือเรามีดีมากพอ ที่จะเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ และผมคิดว่า แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ จะเบียดแย่งกันอย่างมัน ไม่มีทีมใดทำคะแนนทิ้งห่างแบบฤดูกาลที่ผ่านมาได้อีกแล้ว ผมคุมลูกทีมลงสนาม เป้าหมายที่ชัดเจนคือสามคะแนนเต็มไม่ว่าจะเจอกับทีมไหน นี่แหละคือคำตอบในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สิ่งง่ายๆก็คือหากชนะทุกนัด ก็เอาแชมป์ไปก็แค่นั้น” ผลล่าสุดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 แบ่งกันไปฝั่งละ 1 คะแนน ทำให้ผ่าน 11 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 20 คะแนน อยู่ที่ 7 ตามหลังจ่าฝูง ทอตแนมฮอต สเปอร์ 4 คะแนน ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 19 คะแนน อยู่ที่ 8 สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “เวนเกอร์” อดีตกุนซือ แนะ “อาร์เตต้า” คุมโอซิลง่ายนิดเดียววิเคราะห์-ฟันธงฟุตบอลเกม ไทยลีก 1 นัดที่ 14 คู่วันศุกร์-เสาร์“ปิร์โล่”กุนซือ ยูเวนตุส ชี้! เพราะคุมแดนกลางได้ ทำให้ยำต่างดาวขาดลอย

“บราวน์” มั่น! ผีเก่งพอ วนลูปกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แน่นอน

เวส บราวน์

เวส บราวน์ อดีตกองหลังมหาเทพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ทีมปีศาจแดง จะสามารถทำอันดับเหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมือง และเจ๋งพอสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาครองได้ บราวน์ ได้กล่าวว่า “ผมเชื่อเหลือเกินว่า แมนยู จะทำอันดับเหนือกว่า แมนซิตี้ " แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ผลงานในพรีเมียร์ลีกแบบวนลูป แต่ก็สามารถขึ้นมาอยู่กลุ่มบนของตาราง มีแต้มตามหลัง ทอตแนมฮอต สเปอร์ 5 คะแนน แต่ลงสนามน้อยกว่า 1 นัด ซึ่งทาง เวส บราวน์ ได้กล่าวว่า “จากผลงานที่ผ่านมา ผมเชื่อเหลือเกินว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำอันดับเหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างแน่นอน ฤดูกาลนี้มีทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกมากถึง 6 ทีม แต่ตัด อาเซน่อล ออกไปได้เลย และแน่นอนเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ พวกเขาจบในอันดับที่ 3 ในฤดูกาลที่แล้วได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะมีแต้มตามหลังเยอะมากในช่วง 10 นัดสุดท้าย ขออย่างเดียวตอนนี้ ผมภาวนาให้พวกเขาเล่นอย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะยามเล่นในรังโอลแทรฟฟอร์ด ขอชนะสัก 6 หรือ 7 นัด ติดต่อกัน ถ้าพวกเขาทำได้แบบนั้น จะไม่มีใครสงสัยเลยว่าพลพรรคปีศาจแดง จะสามารถเก่งกาจถึงขั้นก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ยูโรป้าลีก หลังจากบุกพ่าย แอร์เบ ไลป์ซิกต์ 2-3 โดยพวกเขามีเกมสำคัญในพรีเมียร์ลีกรออยู่ โดยต้องลงสนามดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากชนะได้จะไล่ตามหลังจ่าฝูง เหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น โดยเกมนี้จะเล่นที่สนามโอลแทรฟฟอร์ด ในวันที่ 13 ธันวาคม 2563  เวลา 00.30 ตามเวลาประเทศไทย เวส บราวน์ วัย 41 ปี เคยค้าแข้งอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงปี 1996-2011 ลงสนามให้ทีมไปทั้งหมด 362 นัด ยิงได้ 5 ประตู ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย แชมป์ลีกคัพ 2 สมัย ติดทีมชาติอังกฤษ

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 เลสเตอร์ เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

เลสเตอร์ เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

       เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 คู่วันอาทิตย์ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังฟอร์มดีจนขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวตารางได้สำเร็จ วันนี้ต้องเปิดรังคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม รับเจ้าหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ฟอร์มร้อนแรงไม่แพ้กัน สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-2-1 ส่วนทีมเยือนวางผัง 5-4-1         ทั้งสองทีมพยายามจะลำเลียงบอลเพื่อบุกเข้าใส่กันแต่ยังไม่ทันไร วูล์ฟแฮมป์ตันก็มาเสียจุดโทษจากแฮนด์บอล ก่อนที่วาร์ดี้จะยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ช่วงท้ายครึ่งแรกจะมาได้จุดโทษที่ 2 โชคดีว่ายิงไม่เข้า มิเช่นนั้นจะเป็นงานที่งานลำบากของทีมเยือนในการกลับคืนสู่เกม แต่ก็เอื้อความได้เปรียบทางแท็กติกแก่เจ้าบ้านที่จะเล่นง่ายขึ้น         ครึ่งแรกวูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในแดนเขตโทษของเลสเตอร์ได้เลย เพราะเจ้าบ้านวางแท็กติกยืนซ้อน 2 ชั้น ทำให้เจ้าหมาป่าไม่สามารถใช้จุดเด่นในลูกโต้กลับได้ อีกทั้งไม่มีความเชี่ยวชาญในการขึงบุก ภาพที่เห็นคือการถ่ายบอลไปมาจนเสียบอลคืนให้เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ก็มีสไตล์เกมบุกไม่ต่างจากทีมเยือน         เพราะเมื่อใดที่ได้เซตบอลก็จะไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากเปิดโด่งเข้ามา หรือฉวยโอกาสยิงเร็ว ส่วนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม ทีมเยือนใช้วิธีการบุกด้วยการเปิดบอลโด่ง เพื่อให้แถว 2 ได้ยิงเก็บตก ซึ่งถือว่าได้ผลดี เพียงแต่ไม่เป็นประตูเท่านั้น         บทสรุปของเกม เลสเตอร์ ถือว่าโชคดีที่ได้จุดโทษช่วงต้นเกม ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญในการคว้า 3 แต้มในวันนี้ แต่ส่วนที่ต้องปรับปรุงคือแท็กติกเกมรุก ที่การเซตเพลย์ใช้ไม่ได้ผลเลยในเกมนี้ แถมช่วงท้ายเกมจะโดนยิงตีเสมอหลายครั้ง ขณะที่วูล์ฟแฮมป์ตัน เสียลูกจุดโทษถึง 2 ลูกในเกมเดียว ซึ่งโชคดีที่โดนไปเพียงเม็ดเดียว ทำให้มีโอกาสกลับคืนสู่เกมได้ถ้ายิงตีเสมอ โดยในครึ่งหลังแท็กติกเกมบุกทำได้ดี แต่ไม่ใกล้เคียงนัก เพราะล้วนแต่เป็นลูกยิงนอกกรอบเขตโทษ ไม่ใช่การยิงเหน่งๆในระยะเผาขน สิ่งสำคัญของเจ้าหมาป่า คือการเพิ่มิติความหลากหลายในเกมรุกนับจากนี้     สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1

พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1

        ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ค่ำคืนวันเสาร์ ในส่วนนี้ขอพาไปที่เซาท์เฮิรท์พาร์ค คริสตัล พาเลซ ที่กำลังฟอร์มดี ต้องเปิดบ้านพบกับทีมน้องใหม่หน้าคุ้นเคยที่ชอบโชว์ของกับทีมใหญ่อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของเจ้าบ้านมาในระบบคุ้นเคยอย่าง  4-4-2 ส่วนทีมเยือนก็เช่นกันในระบบ 4-1-4-1            ลีดส์ ครองบอลเข้าใส่พาเลซ ตามสไตล์ของบิเอลซ่า แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ กระทั่งพาเลซ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุม ซึ่งไม่สามารถโทษใครได้เลยเพราะแนวรับยูงทองเองก็ยืนประกบชิดมากแล้ว แต่สกอตต์ แดนน์ ก็ยังโหม่งได้ อีกทั้งวิถีบอลยังย้อยเข้าสามเหลี่ยม หมดสิทธิ์สำหรับผู้รักษาประตูที่จะป้องกัน พาเลซ ขึ้นนำ 1-0 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ         การขึ้นนำ 1-0 ของเจ้าบ้านน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รูปเกมของลีดส์ ต้องเร่งเครื่องมากขึ้น อีกทั้งยังเข้าทางแท็กติกของพาเลซ ที่ขอเน้นรับแน่นๆ แล้วรอสวน แต่กลายเป็นว่าจังหวะแขนล้ำหน้าของแบมฟอร์ด คือจุดเปลี่ยนที่แท้จริงของเกม เพราะหากได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วก็จะทำให้การบุกของลีดส์ไม่ต้องรีบเร่งนัก แต่ถึงกระนั้นงานของลีดส์กลับหนักขึ้นเมื่อเจอลูกฟรีคลิกที่ยิงเช็ดคานเข้าไปเป็น 2-0         ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ลีดส์ ตีตื้นเป็น 2-1 จากการเข้าทำเร็ว แต่หลังจากนั้นลูกทีมของบิเอซ่าก็เล่นแบบเดิม คือเซตบอลไปมาจนเสียบอลให้พาเลซโต้ ก่อนจะมาโดนลูกยิงทิ้งห่าง 3-1 ซึ่งจังหวะดังกล่าวอาจมองได้ว่าโชคร้าย แต่ในอีกมุมผู้รักษาประตูอย่างเมส์ลิเยร์ ก็มีส่วนผิดพลาดจากความประมาทและปฏิกิริยาที่ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ทำให้กลับตัวมาควักบอลออกจากเสาแรกไม่ทัน         ครึ่งหลัง เริ่มเห็นได้ชัดแล้วว่าผู้เล่นลีดส์ โชว์ฟอร์มโหดไม่ออกเลย เพราะได้แต่เซตบอลไปมา ซึ่งไม่มีประโยชน์ แถมยังไม่สามารถสร้างจังหวะยิงประตูได้ ตรงข้ามกับพาเลซ ที่บุกน้อยแต่ได้ยิงแบบมีลุ้น จนขึ้นนำ 4-1 เกมจึงแทบจะจบนับตั้งแต่นาทีที่ 70 อีกทั้งสถานการณ์หลังจากนั้นยังย่ำแย่ จากการที่แนวรับประกบหลวมจนจะโดนลูกที่ 5 อยู่บ่อยครั้ง                 บทสรุปเกมนี้ ฝั่งเจ้าบ้านอย่างพาเลซเล่นเกมรับได้ดี เมื่อมีโอกาสบุกสามารถยิงประตูได้แถมมีโชคเข้าข้างเล็กน้อย ส่วนลีดส์ เกมนี้ฟอร์มหลุดอีกครั้ง เกมรุกเล่นกันช้าและมากจังหวะเกินควร ทำให้ไม่สามารถเจาะแผงเกมรับเจ้าบ้านได้ ซึ่งการเล่นเร็วและน้อยจังหวะที่ควรนำมาใช้ในเกมนี้กลับทำได้ไม่กี่ครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้พ่ายแพ้วันนี้ นอกเหนือจากความโชคร้าย     สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “ไรซ์” หวังย้ายสู่ สิงห์บลูส์ คว้าโทรฟี่เพื่อความสมบูรณ์แบบ“ดาบิด บีย่า” ฉาว! หลังถูกเด็กฝึกงานแฉแอบแต๊ะอั๋งสมัยค้าแข้งที่อเมริกาวิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 8 ไบรท์ตัน เจ๊าจืด เบิร์นลีย์ 0-0

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 8 ไบรท์ตัน เจ๊าจืด เบิร์นลีย์ 0-0

ไบรท์ตัน เจ๊า เบิร์นลีย์

        เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คู่เปิดหัวนัดที่ 8 ในค่ำคืนวันศุกร์ เป็นการพบกันของทีมท้ายตารางที่ต้องมาตัดแต้มกันเอง โดยสถานการณ์ของเจ้านกนางนวล ไบรท์ตัน อาจสดใสกว่าเล็กน้อยกับการเล่นบอลที่มีทรงแต่มักได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดี ขณะที่ทีมเยือนกำลังเผชิญกับสถานการณ์อันยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมา เนื่องจากยังไม่ชนะใครแถมยังยิงประตูคู่แข่งได้น้อยที่สุดในลีก สำหรับเจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-2-1 ส่วนทีมเยือนวางระบบ 4-4-2          เกมเริ่มต้นขึ้นมาไม่ถึงนาที แนวรับเบิร์นลีย์แสดงความผิดพลาดทันทีจน เวลเบ็ค ได้เปิดป้อน แต่แรมตี้ยิงข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวัง ซึ่งถ้ายิงขึ้นนำได้ก่อนจะสร้างความได้เปรียบอย่างมหาศาล ไบรท์ตัน เล่นดีมีทรงเหมือนเคย แต่การขึงบุกคู่แข่งยังมีปัญหา         ในเรื่องของการพาบอลเข้าพื้นที่เขตโทษ เพราะบอลไม่ถูกพาไปในมุมที่เหมาะสมสำหรับการยิงประตู จังหวะที่เห็นจึงกลายเป็นว่าไบรท์ตันพาบอลเข้าไปอยู่ในดงผู้เล่นเบิร์นลีย์เสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่มีช่องว่างอันเหมาะสมกว่านี้         ช่วง 10 นาที สุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก เป็นช่วงเวลาที่ไบรท์ตันควรฉกฉวยโอกาสเพื่อทำประตูมากที่สุด เนื่องจากแนวรับทีมเยือนออกอากการแกว่งชัดเจน ซึ่งมีจังหวะเหน่งๆที่เวลเบ็คได้เข้าไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูถึง 2 ครั้ง แต่ก็ต้องชม นิค โป๊ป ด้วยที่ทำหน้าที่ได้ดีทั้งปฏิกิริยาการเซฟและการออกมาปิดมุม         ทรงบอลในครึ่งหลังไม่ต่างจากครึ่งแรกเท่าไรนัก แต่ที่แตกต่างออกไปมากที่สุด คือ เบิร์นลีย์มีความผิดพลาดมากมาย ไล่ตั้งแต่การขึ้นเกมบุกที่เสียบอลกลางสนามจนโดนโต้กลับบ่อยครั้ง ขณะที่แผงเกมรับเปิดช่องว่างมากมายนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของทีมเยือนที่ไม่ถูกส่องประตู         บทสรุปจากเกม สำหรับไบร์ทตัน การได้เพียงแต้มเดียวจากเกมนี้ถือว่าเสียหาย เพราะมีโอกาสทำประตูมากมายมหาศาล ทั้งจากการเล่นที่มีทรงของตัวเองกับความผิดพลาดที่คู่แข่งหยิบยื่นให้ตลอด 90 นาที โดยที่อย่างน้อยควรได้สัก 1-2 ประตู ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะหากเล่นดีมีทรงแต่ผลการแข่งขันไม่ดี ความมั่นใจของนักเตะจะถดถอยไปเรื่อย ๆ ส่วนเบิร์นลีย์ การได้แต้มกลับบ้านแบบนี้ไม่น่าพึงพอใจ เพราะมีจุดที่ต้องแก้ไขทั้งทีม ไล่ตั้งแต่หลังหลุดรั่วพร้อมโดนยิงตลอดเวลา แนวรุกที่เคยมีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางโชว์ฟอร์มไม่ออกในปีนี้ อีกทั้งยังไม่มีทีเด็ดการเข้าทำแบบอื่นมาทดแทน  ทำให้กล่าวได้ว่าทรงบอลแบบนี้ เบิร์นลีย์ คือทีมหนีตกชั้นเต็มตัว           สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ ปีศาจแดงอาจได้ “เตเลส” และ “ตวนเซเบ้” ลงสนามบู๊ WBA“โควัช” แฮปปี้แข้ง โมนาโก คว้าพลิกคว้าชัยเหนือเปแอสเชอยากให้ไปแขวนสตั๊ดทีมไหน! “เป๊ป” เผยฝันอยากร่วมงานกับดาวยิงอีกครั้ง

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล ไบรท์ตัน พ่ายคาบ้านต่อ เชลซี 1-3

ไบรท์ตัน พ่ายคาบ้านต่อ เชลซี 1-3

        เกมพรีเมียร์ลีกนักเปิดฤดูกาลในคู่วันจันทร์ ที่สนามฟัลเสมอร์ ไบรท์ตัน ทีมระดับกลางค่อนท้ายของตาราง ที่ต้องการอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดไปอีกหนึ่งฤดูกาล เปิดบ้านพบกับ เชลซี ทีมที่ได้รับการจับตามองว่าจะเป็น 1 ในทีมที่มีลุ้นแชมป์ลีกซีซั่นนี้ ภายหลังการเสริมทัพผู้เล่นที่อุดมไปด้วยแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์หลายราย         ไบรท์ตัน เล่นดีมีทรงจนดูเหนือกว่า เชลซี ตลอดทั้งเกมเลยก็ว่าได้ แต่จุดที่เห็นได้คือการเล่นในพื้นที่สุดท้ายกับการจบสกอร์ใช้โอกาสเปลื้อง จนทำให้ทั้งเกมนี้ยิงประตูได้ลูกเดียว เกมนี้ เชลซี คว้า 3 แต้ม ออกมาด้วยจังหวะฟุตบอลและโชคที่เข้าข้าง         เพราะตลอดเกมทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง สิงห์บูลไม่ได้ขึงบุก หรือโต้กลับแบบสวยๆ ใส่ไบรท์ตัน ได้เลย ประตูที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดของผู้เล่นแนวรับกับผู้รักษาประตูอย่างแม็ท ไรอัน จนเชลซีได้จุดโทษ ส่วนลูกถัดมาได้จากลูกผีจับยัดที่หากให้ยิงใหม่ก็อาจไม่เข้า ส่วนลูกปิดท้ายบอลแฉลบเข้า         แม้ว่าเกมนี้แนวรับเชลซีจะต้องทำงานในรับมือกับแนวรุกไบรท์ตัน แต่ผู้รักษาประตูอย่าง เกปา ก็ไม่ต้องออกแรงเซฟ แต่มันก็เท่านั้นเมื่อเกมนี้เจ้าตัวแสดงความผิดพลาดออกมาอีกครั้ง จากจังหวะตีเสมอของไบรท์ตันที่บอลไม่มีอะไร กล่าวคือ ไม่ได้ยิงด้วยน้ำหนักที่รุนแรง บอลไม่ได้กระดอนหนีตัว และที่สำคัญอยู่ในวิสัยมองเห็นลูกบอลชัด แต่กลับปัดไม่โดนจนเข้าประตูไป         บทสรุปเกมนี้ ไบรท์ตัน เล่นดีมีทรงและมีอนาคตว่าจะไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น สำหรับวันนี้แพ้โชคและจังหวะฟุตบอลมากกว่า สำหรับส่วนที่ต้องไปปรับคือการจสกอร์ที่มีโอกาสต้องเฉียบคมกว่านี้ ส่วนเชลซี การซื้อผู้เล่นใหม่ยังไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม เพราะจากรูปเกมนัดนี้ที่ดันเป็นรองไบรท์ตัน ทีมรองบ่อน จนโอกาสยิงแทบไม่มี แต่โชคดีที่มีจังหวะกับดวงเข้ามาเกื้อหนุน   สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ ไขเหตุผล ทำไม? ฟุตบอลถ้วย FA Cup จึงเป็นทัวร์นาเมนต์แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ?“ซีดาน” ลั่น ลูกทีมยังเหนี่ยวแน่น ไม่สนกระแสดราม่า แต่อย่างใด“โรเมโร่” ชวดร่วมงาน “เบ็คแฮม” สื่อดังแฉสาเหตุเพราะ ดีลล่ม

เอฟเวอร์ตัน พ่ายแพ้เป็นเกมแรกแล้วใน พรีเมียร์ลีก ให้กับเซาธ์แฮมป์ตัน!!

พรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน แพ้นัดแรก

การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก 2020/2021  เป็นฤดูกาลการแข่งขันที่เปิดฤดูกาลมาไม่เหมือนกับฤดูกาลอื่นๆที่ผ่านมา เพราะมีทีมเล็กมากมายที่ขึ้นไปอยู่หัวตารางเกาะกลุ่มเป็นกลุ่มผู้นำของลีก และก็มีทีมใหญ่บางส่วนที่ตกไปอยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนน และนี่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตลอด 20 ปีของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ การที่ทีมเล็กจะมีโอกาสขึ้นไปยืนอยู่ในอันดับที่ 1-6 ของตารางนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะว่าทีมใหญ่นั้นต่างมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมีผู้จัดการที่ดีเยี่ยมทำให้ความพ่ายแพ้แต่ละนัดของทีมใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเลยทีเดียว แต่ว่าในช่วงหลังของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ในช่วง 7 ปีให้หลังที่ผ่านมาทีมเล็กก็ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งการที่ทีมอย่างเลสเตอร์ซิตี้ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด หรือการมาเกาะอยู่หัวตารางของทีมวูล์ฟแฮมป์ตันก็เป็นสิ่งที่แปลกหน้าแปลกตาไปมากทีเดียว และในปีนี้ทีมเล็กก็ได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่อีกเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเอฟเวอร์ตันที่ยังไม่เคยแพ้ใครมาเลยในสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือแอสตันวิลล่าที่กำลังโชว์ฟอร์มอย่างเทพในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือวูล์ฟแฮมป์ตันที่มีตัวจี๊ดจ๊าดอยู่ไหนทีมและคอยช่วยเหลือทีม และทีมใหญ่บางส่วนก็มีผลงานที่กระสับกระส่ายรวมถึงตัวผู้เล่นที่เจ็บ ทำให้การขึ้นมาอยู่หัวตารางของทีมเล็กก็คงมีความเป็นไปได้อยู่ ทีมที่น่าจับตามองในฤดูกาลนี้ก็คงหนีไม่พ้นเอฟเวอร์ตันหลังจากเปลี่ยนโค้ชมาเป็นคาร์โล อันเชล็อตติ ในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วก็ยังไม่ได้ทำผลงานได้ดีเด่นมากอะไร แต่พอเปิดฤดูกาลนี้มาและได้ซื้อนักเตะเข้ามาเพิ่มบางส่วนก็ทำให้เอฟเวอร์ตันกลายเป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นมาเลยทีเดียวแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านๆมาความพ่ายแพ้ก็ยังไม่เคยมาเยือนเอฟเวอร์ตันเลยสักครั้งก็จะมีเสมอกับลิเวอร์พูล 2 ประตูต่อ 2 ที่เหลือเป็นการชนะทั้งหมด แต่ชัยชนะก็ไม่ได้มีอยู่เสมอไปในที่สุดทีมที่เป็นจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษตอนนี้ ก็ได้พบเจอกับความพ่ายแพ้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในค่ำคืนวันที่ 25 ตุลาคมเอฟเวอร์ตันได้เจอกับเซาธ์แฮมป์ตัน และเอฟเวอร์ตันก็ทำผลงานได้ดีไม่เท่าที่ควรถูกยิงไป 2 ประตูต่อ 0 รวมถึงมีผู้เล่นถูกไล่ออกอีกด้วย แต่การพ่ายแพ้ของเอฟเวอร์ตันก็ยังไม่ทำให้เขาตกจากตำแหน่งจ่าฝูงไปเลยทีเดียวเพราะว่าทีมใหญ่บางส่วนก็พากันเสมอและพากันแพ้ ทำให้เอฟเวอร์ตันครองตำแหน่งจ่าฝูงได้อีก 1 สัปดาห์ และแน่นอนว่าหลังจากที่ประสบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คงต้องกลับไปแก้เกมอย่างหนักเพื่อที่จะกลับมาคว้าชัยชนะในนัดต่อไป  ในการแข่งขันนัดต่อไปยังถือว่าเป็นงานที่ไม่ยากมากสำหรับเอฟเวอร์ตันเพราะว่าเป็นการเจอทีมเล็กอย่างนิวคาสเซิลในวันที่  1 พฤศจิกายนเวลา 21:00 น ตามเวลาประเทศไทย สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “ฮอดจ์สัน” เชื่อว่า ฟูแล่ม จะรอดตกชั้นได้ ถึงแม้จะอยู่ท้ายตาราง“บิลิช” เชื่อ “จอห์นสโตน” ช่วย WBA อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1

“บิลิช” เชื่อ “จอห์นสโตน” ช่วย WBA อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้

"บิลิช" เชื่อ "จอห์นสโตน" ช่วย WBA

สลาเวน บิลิช เขื่อว่า แซม จอห์นสโตนสามารถสร้างความแตกต่างในการเสนอราคาเพื่อเอาชีวิตรอดของเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ผู้รักษาประตูพร้อมที่จะลงสนามเกที่ 100 ให้เดอะ แบ๊กกี้ส์ ที่พบไบรท์ตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จอห์นสโตนย้ายจากแมนยูมาเมื่อสองปีก่อน เก็บคลีนชีตแรกของฤดูกาลกับเบิร์นลีย์ในเกมเสมออัลเบี้ยน 0-0 ที่เดอะฮอว์ ธ อร์นเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เวสต์บรอมกำลังมองหาชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาลที่เอเม็กซ์และกุนซือ WBA สลาเวน บิลิชกล่าวว่า หากทีมไหนโกลเก่งๆ ทีมนั้นก็ยากที่จะได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการ แน่นอนว่าแซม จอห์นสโตนเคยเป็นลูกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมาก่อนด้วย เราต้องการเขานั่นคือเหตุผลที่เรามีผู้ดูแลที่ดีและผมมีความสุขมาก ในช่วงแรกไม่ใช่เพราะคุณภาพของเขา แต่เป็นเพราะเขายังใหม่ในพรีเมียร์ลีกมันเป็นความท้าทายใหม่สำหรับเขา หลังเกมเอฟเวอร์ตันและเชลซีมีเรื่องเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มีเกมที่ดีสองสามเกม เขาเซฟได้ดีกับเซาแธมป์ตันและเบิร์นลีย์และเขาก็มั่นใจ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เราต้องการการแสดงแบบนั้นทุกสัปดาห์เพื่อติดตามและหวังว่าเขาจะให้มัน ตอนนี้เขามีความมั่นใจมากและเราจะทำทุกอย่างเพื่อท้าทายโดยผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ ของเรา แต่เราต้องการให้เขารักษาระดับนี้ไว้และปรับปรุงให้ดีขึ้น บิลิชสามารถรักษาความเชื่อมั่นกับทีมที่ร่วมกับเบิร์นลีย์ได้หลังจากผลงานดีขึ้นหลังจากพ่ายแพ้เซาแธมป์ตัน 2-0 สลาเวน บิลิชเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงกว่า 6 คนเมื่อวันจันทร์ที่แล้วกล่าวว่า ผู้เล่นที่เล่นกับเบิร์นลีย์ทำเช่นนั้นเพราะพวกเขาแสดงให้ผมเห็นมากกว่าคนอื่น ๆ  ทุกอย่างเกี่ยวกับการแข่งขันในสนามฝึกซ้อมหรือในสนามและมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอในความโปรดปรานของคุณ ผมคิดว่าทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายของแฟนบอล เดอะ แบ๊กกี้ส์ WBA ก่อนที่จะบุกไปเยือนไบรท์ตันที่สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยมคือ กองกลาง แซม ฟิลด์ จะพลาดการซ้อมนานถึง 5 สัปดาห์หลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าในการฝึกซ้อมก่อนพักเบรกที่ไปแข่งทีมชาติ ฟิลด์วัย 22 ปีเป็นนักเตะจากชุดอาคาเดมี่ของ WBA ตกเป็นข่าวว่าจะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเขายังคงอยู่ที่เดอะ ฮอว์ธอร์นและมีส่วนสำคัญต่อการลงสนามของทีมในเวลานี้ บิลิชกล่าวว่า กองหน้าชาวสัญชาติเวลส์ ฮัล ร็อบสัน-คานู ก็ยังไม่พร้อมลงสนามหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บข้อมือหักระหว่างการพ่ายแพ้ 2-0 ที่ เซาแธมป์ตันเมื่อต้นเดือนนี้ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1ไม่ปิดโอกาส!เสือเหลืองเผยเกือบปล่อยตัว “ซานโช่” หากดีลไม่ล่มก่อนกำลังใจล้น! บรรดาเพื่อนนักเตะโพสเอาใจช่วย “ฟาน ไดค์” หลังเจ็บพักยาว

สปอตไลท์ต้องส่อง – เหล่านักเตะน่าจับตามองจากทีมท็อป 6 พรีเมียร์ลีก

นักเตะน่าจับตามองจากทีมท็อป 6 พรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือได้ว่าได้รับความนิยมสูงมากในโลกของเรา เหล่านักเตะในทีม พรีเมียร์ลีก ก็เช่นกันที่น่าจับตา ลองไปส่องดูสิว่านักเตะที่น่าจับตาจากทีมท็อป 6 มีคนที่คุณชอบอยู่หรือไม่ เหล่านักเตะน่าจับตามองจากทีมท็อป 6 พรีเมียร์ลีก 1. โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล) เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ แฟร์มิโน่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์, เวอร์กิล ฟานไดจ์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน รวมถึง อลิซซอน เบคเกอร์ คือเหล่าสุดยอดขุมกำลังของลิเวอร์พูล เขาเหล่านี้คือนักเตะคนสำคัญในช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของสโมสรในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในรายของ ‘โจ โกเมซ’ นั้น ดูเหมือนจะมี ‘ของ’ ที่ยังไม่ปล่อยออกมาให้แฟนบอลได้เห็นอีกเยอะ ซึ่งในฤดูกาลนี้เหล่า เดอะ ค็อป ก็คงได้แต่หวังว่า ฟานไดจ์ จะได้มีคู่หูปราการหลังที่ไว้ใจได้อย่างเป็นตัวเป็นตนเสียที 2. ฟีล โฟเด้น (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ฟีล โฟเด้น ถือเป็นสุดยอดดาวรุ่งของ แมนฯ ซิตี้ ที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตั้งใจจะปั้นขึ้นมาเพื่อเป็นสตาร์ของสโมสรในอนาคต แต่หลังจากที่ได้ให้โอกาสมาพอสมควรในฤดูกาลที่ผ่านมา จนถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษ นี่จึงเป็นฤดูกาลที่ โฟเด้น จะต้องพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่ดาวรุ่งที่รอวันเกิดอีกต่อไปแล้ว 3. พอล ป๊อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ตกอยู่ในมรสุมอยู่นานสำหรับ พอล ป๊อกบา ยอดมิดฟิลด์สายแฟชั่น ไล่ตั้งแต่มีประเด็นที่เขาแสดงออกชัดเจนว่าต้องการออกจากสโมสร ก่อนจะมาเจ็บเรื้อรังในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่การเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันเดส ก็เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้เจ้าตัวลุกขึ้นมาสู้ต่ออีกครั้ง โดยฤดูกาล 2020/21 นี้ ป๊อกบาในวัย 27 ปี ต้องโชว์ของออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการตอบแทนสโมสร และพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า เขาคือมิดฟิลด์อันดับ 1 ของโลก 4. ติโม แวร์เนอร์ (เชลซี) ศูนย์หน้าชาวเยอรมันที่ถูกดึงตัวมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ในตลาดซื้อขายรอบนี้ ถูกคาดหวังว่าจะเข้ามาผลิตสกอร์ให้กับทีม จนสามารถยกระดับไปวัดกับทีมแย่งแชมป์อย่าง หงส์แดง และ เรือใบ ที่ทำประตูกันได้เป็นกอบเป็นกำในฤดูกาลที่ผ่านมา และเราน่าจะได้เห็นเจ้าตัวในสนามได้บ่อยที่สุดในบรรดานักเตะที่เชลซีเสริมเข้ามา จากการที่เป็นนักเตะอเนกประสงค์ในแนวรุกนั่นเอง 5. บูกาโย่ ซาก้า (อาร์เซนอล) ด้วยความที่ บูกาโย่ ซาก้า สามารถเล่นได้ทั้ง แบคซ้าย และปีกซ้าย รวมถึงในบางครั้งยังเห็นอาร์เตต้าโยกเขาไปเล่นด้านขวาอีกด้วย เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์สุด ๆ สำหรับสุดยอดดาวรุ่งรายนี้ ซาก้า ไม่เหมือนกับดาวรุ่งรายอื่น ๆ เขามีพรสวรรค์ในตัวที่ชัดเจน และได้รับความไว้ใจจาก อาร์เตต้า ขั้นสุด

Top