• ข่าวฟุตบอล
• พรีเมียร์ลีก

0

ดูจะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากของ ลิเวอร์พูล เกี่ยวกับผลงานของบรรดาผู้เล่นกองหลังที่ผลงานตกต่ำในเวลานี้ซึ่งมันแสดงออกให้เห็นถึงผลงานของทีมลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันในการลงสนามไปแล้วในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 6 เกมพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 เกมและเสมอ 3 เกมแพ้ 1 เกมซึ่งผลงานในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็แพ้ให้กับทีม นาโปลี ในเกมเยือนแบบย่อยยับด้วยสกอร์ 1-4 ผลงานเช่นนี้มันมีสิ่งที่แฟนบอลมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากก็คือเรื่องของแผนเกมรับ ที่ไม่เหมือนเดิมซึ่งถือเป็นปัญหาที่ทำให้ลิเวอร์พูลนั้นพ่ายแพ้และเสียประตูได้ง่ายในปัจจุบันนี้ สาเหตุหลายอย่างทำให้ผลงาน กองหลัง ลิเวอร์พูล มีปัญหา                 ผู้เล่นกองหลังตัวหลักของลิเวอร์พูล ที่ไม่สามารถลงสนามได้ ข่าวกีฬาทั่วโลก ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บของลิเวอร์พูล มีแทบจะทุกตำแหน่งเลยในตอนนี้ตั้งแต่กองหน้ายันต์ผู้รักษาประตู และกองหลังก็มีหลายคนที่เป็นตัวหลักที่ไม่สามารถลงช่วยทีมได้ไม่ว่าจะเป็น อิบราฮิม โกนาเต้, โจเอล มาติป ซึ่งสองคนนี้ถือเป็นผู้เล่นกองหลังคนสำคัญของลิเวอร์พูล ความอ่อนล้าจากการทำศึกหนักในช่วงที่ผ่านมา หลังพักเบรคฤดูกาลล่าสุดนักเตะ แต่ละคนนั้นก็ต้องไปลงเล่นในระดับทีมชาติ ซึ่งมีเวลาพักน้อยมาก การกลับมาลงเล่นใน ศึก พรีเมียร์ลีก จึงทำให้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนล้าของสภาพร่างกายอย่างชัดเจน ของบรรดาผู้เล่นกองหลังของทีมลิเวอร์พูล ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในเกมรับของลิเวอร์พูล นั้นลดน้อยถอยลงไป                 ฟอร์มการเล่นของตัวผู้เล่นที่ตกต่ำลงอย่างชัดเจนในปัจจุบัน กองหลังตัวหลักที่หลงเหลืออยู่ของลิเวอร์พูล ก็คือ เวอร์จิล ฟานไดค์, เทรน อเล็ก ซานเดอร์- อาร์โนลด์ และ แอนดรู โรเบิร์ตสัน ซึ่งถือได้ว่าแต่ละคนนั้นก็เป็นตัวหลักของทีมลิเวอร์พูลมาโดยตลอดในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ฟอร์มของพวกเขานั้นดูต่ำกว่ามาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ผลที่ออกมานั้นน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมากกับผลงานของลิเวอร์พูล ในตอนนี้  ฟูแล่ม จ่อคว้า “ไคลเวิร์ต” ปีกจาก โรม่า เสริมทัพสัญญายืมตัวพ่วงซื้อขาด“อาร์เซนอล” ย้อนรอยนักเตะที่ไม่รุ่ง แต่ดันเก่งเมื่อเล่นให้ทีมอื่นนักเตะระดับเทพ ที่ย้ายกลับมามาเล่นให้กับทีมเก่าของตัวเองยูเวนตุส นักฟุตบอลที่ ได้มาแบบไม่เสียเงิน และทำผลงานดีสุดๆ

• ข่าวฟุตบอล

0

                ถ้าหากจะพูดถึงทีมฟุตบอลระดับทีมชาติที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดมาโดยตลอดนั้น ชื่อของทีมชาติฝรั่งเศสก็ต้องอยู่ในรายลิสอย่างแน่นอน พวกเขาถือได้ว่าเป็นทีมฟุตบอลที่มีบรรดานักเตะฝีเท้าดีอยู่ในทีมมากมายมาทุกๆสมัย ซึ่งนักฟุตบอลแต่ละคนฝีเท้ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และ วันนี้เราจะมาพูดถึงนักฟุตบอลของทัมชาติฝรั่งเศสในตำแหน่งเกมรับ ที่เรียกได้ว่า ทีมชาติฝรั่งเศสมีผู้เล่นในตำแหน่งนี้ที่ฝีเท้านั้นจัดอยู่ในระดับ World Class มาโดยตลอด โดยวันนี้เราจะมาดู นักเตะเกมรับ ที่ดีที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศสในช่วงยุค 2000 จะมีใครบ้าง  3 นักเตะเกมรับ ที่ดี่ที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศสช่วง ยุค 2000                 พาทริค วิเอร่า กองกลางตัวรับทีมชาติฝรั่งเศสที่ผลงานโดดเด่นมาก โด่งดังตั้งแต่ช่วงปลายยุค 90 จนถึงเข้าสู่ยุค 2000 ถือได้ว่าเขานั้นเป็นส่วนสำคัญมากๆ ข่าวกีฬาทั่วโลก ของทีมชาติฝรั่งเศสในการประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และฟุตบอลยูโร 2000 เรียกได้ว่าในยุคนั้นเขานั้นถือเป็นเบอร์หนึ่งเลยก็ว่าได้ในตำแหน่งกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดของโลก  ลิลิยง ตูราม ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ถ้าหากจะพูดถึงนักฟุตบอลในตำแหน่งแบ็คขวาที่ดีที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศสนั้น ก็ยังคงเป็นเขาผู้นี้ ถือได้ว่าเป็นนักฟุตบอลที่เล่นแบ็คขวาที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด เขามีความโดดเด่นมากๆในเรื่องของเกมรับและเกมรุก ที่เรียกได้ว่าฝีเท้านั้นจัดอยู่ในระดับ World Class  เลยทีเดียว จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีใครสามารถมาโค่นล้มความสุดยอดของเขาได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสคนไหนที่จะโดดเด่นเท่ากับเขาอีกแล้วในตำแหน่งนี้ โคล้ด มาเกเลเล่ กองกลางตัวรับทีมชาติฝรั่งเศส ที่เขานั้นอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆกับทีมชาติฝรั่งเศส แต่ผลงานของเขานั้นโดดเด่นมากๆในระดับสโมสร ซึ่งมีโอกาสที่เขาได้ติดทีมชาติฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ทีมชาติฝรั่งเศสได้แชมป์รายการใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ถูกยกย่องมากๆว่าคือกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดอีกหนึ่งคนของทีมชาติฝรั่งเศสตลอดกาล  บีญาร์เรอัล ชนะ บาเลนเซีย 2-0 จองที่ 7“สโมสรฟุตบอล” เสี่ยงตกชั้นสูงมากใน ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 นี้ ทีมลุ้นแชมป์ใน มีทีมไหนบ้าง“อาร์เซน่อล” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำนายจบท็อปโฟร์

• ข่าวฟุตบอล
• ลาลีกา

0

            บาร์เซโลน่า สโมสรดังแห่งศึก ลา ลิกา สเปน ตกเป็นข่าวว่า พร้อมที่จะปล่อย “แซร์จินโญ่ เดสต์” แนวรับวัย 21 ปี ออกจากทีมในช่วงตลาดหน้าหนาวที่จะถึงนี้ หลังไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในทัพ “อาซูลกราน่า” ได้ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 โดยสื่อดังแดนกระทิงดุออกมารายงานว่า “เจ้าบุญทุ่ม” พร้อมจะรับฟังข้อเสนอจากทุกสโมสรที่มีตัวเลขไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท เพื่อแลกกับการยอมปล่อยกองหลังทีมชาติสหรัฐฯ ออกจากถิ่น คัมป์ นู บาร์เซโลน่า พร้อมขาย “แซร์จินโญ่ เดสต์” แลกเงิน 30 ล้านยูโร             เอล นาซิโอนาล สื่อชั้นนำของสเปนออกมารายงานว่า “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า มีแผนที่จะขาย “แซร์จินโญ่ เดสต์” ฟูลแบ็กดาวรุ่งวัย 21 ปี ออกจากทีมในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ หลังไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในทัพ “อาซูลกราน่า” ได้ แม้แต่ย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2020 โดยตามรายงานล่าสุดระบุว่า “ชาบี เอร์นานเดซ” ผู้จัดการทีมหนุ่มของยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันไม่มีความเชื่อมั่นในตัวกองหลังชาวอเมริกัน แม้จะได้รับโอกาสลงเล่นในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ข่าวกีฬาทั่วโลกรอบแบ่งกลุ่มกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แต่ก็ทำผลงานได้น่าผิดหวัง จนมีส่วนให้ทีมเป็นฝ่ายปราชัยย่อยยับ 0 – 3 ตกรอบไปแบบไม่เหลือเค้า บาร์ซ่า ในอดีต             นอกจากนี้บาร์เซโลน่า ยังมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก และต้องปล่อยแข้งหลายรายที่ไม่ได้ใช้งานออกจากทีม ซึ่ง เดสต์ ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว โดยคาดกันว่า “เจ้าบุญทุ่ม” พร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกสโมสรที่ให้ตัวเลขไม่น้อยกว่า 30 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,130 บ้านบาท แลกกับการยอมปล่อยตัวดาวเตะทีมชาติสหรัฐฯ ออกจากทีม             สำหรับ แซร์จินโญ่ เดสต์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม มาค้าแข้งในถิ่น คัมป์นู เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 21 ล้านยูโร หรือประมาณ 790 ล้านบาท ลงเล่นไปแล้ว 57 นัด ทำได้ 3 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์” กับ 2 เหตุการณ์เลวร้าย ช่วงเวลากับทีมแมนยูกุนซือชาวอิตาลี 3

• ข่าวฟุตบอล
• พรีเมียร์ลีก

0

            คริสตัล พาเลซ สโมสรดังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยันคว้าตัว “มาร์ค เกฮี” ปราการหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี จาก เชลซี มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะเซ็นสัญญาร่วมงานกันเป็นเวลาถึง 5 ปี นับเป็นแข้งใหม่รายที่ 3 ที่ย้ายเข้ามาร่วมทีม “ปราสาทเรือนแก้ว” ในยุคของกุนซือ “ปาทริค วิเอร่า” คริสตัล พาเลซ ควัก 20 ล้านปอนด์ คว้าตัว “เกฮี” ร่วมทีม             คริสตัล พาเลซ ได้บรรลุข้อตกลงคว้าตัว “มาร์ค เกฮี” เซ็นเตอร์แบ็กอนาคตไกลวัย 21 ปี จากทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี คู่แข่งร่วมลีกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจากการย้ายไปเล่นให้กับ สวอนซี ซิตี้ แบบยืมตัว ลงสนามไปถึง 45 นัด และเป็นกำลังสำคัญพาทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนพลาดท่าพ่าย เบรนท์ฟอร์ด อดเลื่อนชั้นไปอย่างน่าเสียหาย โดยคาดกันว่า เชลซี ยอมขายแนวรับรายนี้ออกจากทีมด้วยค่าตัวราว 20 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 900 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขส่วนแบ่งสำหรับการขายนักเตะในอนาคตด้วย แถมยังได้สิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอซื้อตัวแข้งรายนี้กลับไปร่วมทีมได้ก่อนทีมอื่น ๆ ในอนาคตอีกต่างหาก             ทั้งนี้ คริสตัล พาเลซจะเซ็นสัญญาร่วมงานกับ เกฮี เป็นเวลาถึง 5 ปี จนถึงช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2026 และยังถือเป็นการเซ็นนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพเป็นรายที่ 3 ในยุคของกุนซือ “ปาทริค วิเอร่า” ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเข้ามากุมบังเหียนทีมเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาอีกด้วย             สำหรับ มาร์ค เกฮี โดดเด่นขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” แต่ไม่สามารถเบียดแย่งพื้นที่ในทีมชุดใหญ่ได้ โดยได้รับโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไปเพียง 2 นัดเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้ สวอนซี ซิตี้ ยืมตัวไปใช้งานเมื่อซีซัน 2019/2020 และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฤดูกาล 2020/2021 ลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 59 นัดรวมทุกรายการ  สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ อาเจนติน่า หักด่านโคลัมเบีย 3-2 เข้าชิงแซมบ้า “มาร์ติเนซ” เซฟ 3

• ข่าวฟุตบอล
• พรีเมียร์ลีก

0

                เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งของลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก เผยยึดเอา โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลกจากสวิสเซอร์แลนด์ เป็นแบบอย่างในการข่มขวัญคู่แข่งให้เกิดอาการกลัว โดยที่ไม่ต้องตามไปเล่นหนักหรือตามสบถใส่แต่อย่างใด พร้อมยอมรับการเจอกับกองหน้าทุกทีมเป็นงานที่ยากมากๆ "ฟาน ไดค์" ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังแห่งวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบัน                 ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ดุดันและเหนียวแน่น จนกลายเป็นฝันร้ายของบรรดากองหน้าหลายๆ ทีมในพรีเมียร์ลีก แต่อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของเขาที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ทำให้แนวรับของ “หงส์แดง” อ่อนลงอย่างมากจนหมดลุ้นแชมป์และต้องมาลุ้นโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าอย่างทุลักทุเล                 โดยฟาน ไดค์ เปิดเผยเรื่องนี้ว่า “หลายๆ คนชอบพูดว่าผมทำให้ทุกอย่างมันดูง่าย ทำให้ทีมเล่นง่ายขึ้น มีเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น แต่ผมบอกเลยว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย การได้เจอกับกองหน้ามากมายหลายรูปแบบ มันเป็นงานยากของผมในการรับมือกับพวกเขา แต่ผมพยายามทุกอย่างที่จะให้พวกเขาคิดแบบนั้น (คิดว่าฟาน ไดค์ สามารถจัดการกับกองหน้าทุกทีมได้อย่างง่าย)”                 จากนั้นเมื่อถามถึงต้นแบบของการข่มขวัญคู่แข่งฟาน ไดค์ ตอบว่า “ในเรื่องนี้ผมมี โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เป็นต้นแบบ หากคุณได้เคยดูเขา (เฟเดอเรอร์) ลงเล่นในการแข่งขันหรือได้ร่วมตีเทนนิสด้วยกัน เฟเดอเรอร์ ไม่ได้วิ่งมาขู่คุณมาถากถางหรือทำอะไรให้คุณกลัว แต่เขาทำตัวปกติ และสร้างจิตวิทยาบางอย่างออกมาว่า เขาสามารถจัดการกับพวกคุณได้อย่างสบายๆ ซึ่งนั่นทำให้คู่แข่งของเขาเกิดอาการกลัวและคิดไปเองว่า เฟเดอเรอร์ สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งนั้นแหละที่ผมเอาจากเขามาปรับใช้ในการแข่งขันฟุตบอล”                 “สิ่งที่ผมพยายามทำเพื่อข่มขวัญคู่แข่ง นั่นคือการฟิตซ้อมและสร้างผลงานให้ออกมาดี ผมต้องยกระดับฟอร์มการเล่นของผมเอง เพื่อให้คู่แข่งในเกมต่อไปได้เห็นว่า พวกเขาไม่สามารถผ่านผมเข้าไปยิงประตูได้ง่ายๆ นะ ซึ่งตรงนี้สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีความมั่นใจในตัวเองสูง และถ้าคุณทำได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปวิ่งไล่เข้าบอลหนักหรือตามสบถใส่พวกเขาแต่อย่างใด” ฟาน ไดค์กล่าวปิดท้าย สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ สล็อตpp เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “อิบราฮิโมวิช” ไม่ได้รับใช้ชาติ สวีเดน เซ็งอดใช้งาน ลุยยูโร 2020“Edinson Cavani” ผู้ไม่ชอบระบบ วีเออาร์ และซูเปอร์ลีก“Kante” คือนักเตะฉลาดแกมโกงเสมอ “Paul Pogba” กล่าว!!

• ข่าวฟุตบอล

0

อีกหนึ่งนักเตะอาภัพคนหนึ่งของวงวการฟุตบอล วิลเลี่ยน ซาลิบา ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสของอาร์เซน่อล ที่ยังไม่มีโอกาสหรือพื้นที่สำหรับ เซนเตอร์วัย 20 ปี ด้านมิเกล อาร์เตต้ามักจะจับวิลเลี่ยน ซาลิบาออกไปเก็บเลเวลด้วยสัญญายืมตัว เรื่องราวของวิลเลี่ยน ซาลิบาจะเป็นอย่างสามารถติดตามได้ในบทความนี้ เรื่องราวของ "วิลเลี่ยน ซาลิบา" วิลเลี่ยน ซาลิบาเด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสผู้มีใจรักในฟุตบอล เริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 6 ปี โดยมีโค๊ช หรือผู้ฝึกสอนเป็นคน ๆ เดียวกับคีเรียน เอ็มปัปเป้ในสมัยเด็ก ๆ ต่อมาวิลเลี่ยน ซาลิบาได้เข้าเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสรเซนต์ เอเตียงในลีกบ้านเกิด ซาลิบาใช้เวลาเพียงไม่นาน สามารถผลักดันตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และเป็นกำลังสำคัญได้ และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในกองหลังแห่งอนาคตคนหนี่ง แห่งวงการฟุตบอลฝรั่งเศส วิลเลี่ยน ซาลิบากับอาร์เซน่อล ในปี 2019 สโมสรอาร์เซน่อลโดยอูไน เอเมอรี่ผู้จัดการทีมสโมสรอาร์เซน่อลในขนาดนั้น อูไน เอเมอรี่ ผู้จัดการทีมชาวสเปนที่กำลังสร้างทีม และกำลังมองหากองหลังเท้าดี ๆ สักคน และหวยก็ดันออกที่วิลเลี่ยน ซาลิบา อาร์เซน่อลใช้เวลาไม่นานในการเจรจาเพื่อดึงตัวเจ้าหนูซาลิบาเข้าทีมในปี 2019 ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์สัญญายาวอีก 5 ปี ในปีแรกสำหรับซาลิบากับอาร์เซน่อลยังไม่เกิดขึ้นเนื่องจาก ติดออฟชั่นกับเซนต์เอเตียง โดยเซนต์ เอเตียงจะขอยืมวิลเลี่ยน ซาลิบาอย่างน้อย 1 ฤดูกาล ฤดูกาลแห่งคาวมยากลำบาก ในปี 2020 วิลเลี่ยน ซาลิบากลับมาสโมสรอาร์เซน่อลอีกครั้ง และได้สวมเสื้อหมายเลข 4 ได้ประเดิมเกมนัดแรกกับเอ็ม เค ดอน โดยเป็นเกมกระชับมิตร ดูเหมือนจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีในปี 2020 สำหรับซาลิบา แต่หารู้ไม่ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างมิเกล อาร์เตต้า ยังไม่มีความต้องการใช้วิลเลี่ยน ซาลิบาซักเท่าไหร่ เนื่องจากมองว่านักเตะยังไม่สามารถปรับตัวได้ และปล่อยซาลิบาออกไปด้วยสัญญายืมตัวกับ นีซที่ฝรั่งเศสอีกครั้ง สำหรับซัมเมอร์ปี 2021 ดูเหมือนว่าวิลเลี่ยน ซาลิบา คงจะไม่และเตรียมย้ายออกจากสโมสรอาร์เซน่อลทันที โดยมีหลากหลายทรมอย่างมากที่สนใจ กองหลังดาวรุ่งรายนี้ ได้แก่ นิวคาสเซิ่ล,เซาท์แธมป์ตัน,มาร์กเซย,นีซ,ลีลล์ และบาเยิ่น เลเวอร์คูเซ่น เป็นต้น ไม่แน่อนาคตของซาลิบาที่อาร์เซน่อลคงจบตั้งแต่ อูไน เอเมอรี่ถูกไล่ออกไปเมื่อต้นปี 2020 แล้ว และดูเหมือนอาร์เตต้าก็ไม่ต้องการใช้งานกองหลังที่ตนเองไม่ได้ซื้อมาอย่างแน่นอน สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “โซลชา” วอนแฟนบอลอย่างสร้างปัญหา หลังเตรียมเปิดสนามให้แฟนบอลเข้าชม“เรอัล มาดริด” ล็อคเป้าดึง อันเชล็อตติ กลับทีมแทนซีดาน“Zinedine Zidane” ที่เตรียมออกจากรีลมาดริดหลังจบฤดูกาล

• ข่าวฟุตบอล
• พรีเมียร์ลีก

0

            ลิเวอร์พูล สโมสรแกร่งประจำเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่า จะไม่ใช้ออปชั่นซื้อขาด “โอซาน คาบัค” ปราการหลังทีมชาติตุรกีของ ชาลเก้ 04 หลังหมดสัญญายืมตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจาก “เจอร์เก้น คล็อปป” กุนซือชาวเยอรมันมองว่า “หงส์แดง” จะไม่มีพื้นที่ในตำแหน่งตัวจริงสำหรับดาวเตะวัย 21 ปี หากบรรดาแข้งตัวหลักหายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อย่างเต็มที่ในฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล มีออปชั่นซื้อขาด “คาบัค” ที่ 18 ล้านปอนด์             ตามการรายงานของ เดอะ ซัน สำนักข่าวดังของอังกฤษ ระบุว่าลิเวอร์พูล จะส่งตัว “โอซาน คาบัค” เซ็นเตอร์แบ็กอนาคตไกลวัย 21 ปี กลับต้นสังกัดอย่าง ชาลเก้ 04 สโมสรดังในลีกเมืองเบียร์หลังหมดสัญญายืมตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่า “หงส์แดง” จะมีออปชั่นซื้อขาดปราการหลังรายนี้ในราคาเพียง 18 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 685 ล้านบาท เท่านั้น แต่ดูเหมือนทางด้านกุนซือคนดังอย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป” จะมองว่า ทีมดังแห่งถิ่น แอนฟิลด์ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานนักเตะรายนี้อีกต่อไป เพราะบรรดาแข้งตัวหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ กำลังจะหายจากอาการบาดเจ็บและจะสามารถกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ในฤดูกาลหน้า ทำให้ลิเวอร์พูล ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อคว้าตัวนักเตะที่อยู่บนม้านั่งสำรองนั่นเอง             ทั้งนี้ลิเวอร์พูล ยืมตัว โอซาน คาบัค มาร่วมทีมเมื่อตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงเดือนมกราคาที่ผ่านมา เพื่อแก้วิกฤติผู้เล่นแนวรับบาดเจ็บ แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวได้ลงสนามไปเพียง 13 นัด รวมทุกรายการเท่านั้น แถมยังไม่มีผลงานโดดเด่นอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม หาก “หงส์แดง” ไม่ใช้ออปชั่นซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์นี้ ดาวเตะชาวตุรกีจะต้องเก็บข้าวของกลับ ชาลเก้ 04 ที่เพิ่งจะกระเด็นตกชั้นจากเวที บุนเดสลิกา ฤดูกาลนี้ ทำให้มีโอกาสสูงที่ต้นสังกัดอาจจะหาทางขายเจ้าตัวออกจากทีมเพื่อหาเงินเข้าไปทดแทนรายได้ที่หายไป สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ UFABET เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ ลิเวอร์พูล เล็งคว้ามิดฟิลด์จอมเทคนิค “ลียง” เสริมทัพซัมเมอร์นี้ ความหวังใหม่!บียาร์เรอัล เฉือน อาร์เซนอล หวุดหวิด จารย์แจก คนละแดง“Pirlo” กุนซือยูเวนตุส “Cristiano Ronaldo” ไม่มีปัญหากับการถูกเปลี่ยนตัว

• ข่าวฟุตบอล
• บุนเดสลีกา

0

            บาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึก บุนเดสลิกา เยอรมัน ตกเป็นข่าวว่า กำลังให้ความสนใจที่จะคว้าตัว “อาชราฟ ฮาคิมี่” ฟูลแบ็กทีมชาติโมร็อกโกของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังดาวเตะวัย 22 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับต้นสังกัดในซีซันที่ผ่านมา ขณะที่สื่อดังแดนกระทิงดุออกมาตีข่าวว่า “เนรัซซูรี” อาจจำเป็นที่ต้องปล่อยแนวรับรายนี้ออกจากทีมเพื่อหาเงินมาช่วยจ่ายหนี้ของสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้นั่นเอง บาเยิร์น มิวนิค อาจต้องจ่าย 50 ล้านยูโรเป็นค่าตัว “ฮาคิมี่”             ตามการรายงานของ มุนโด้ เดปอร์ติโบ สื่อดังของสเปน ระบุว่าบาเยิร์น มิวนิค กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ “อาชราฟ ฮาคิมี่” แนวรับอนาคตไกลวัย 22 ปี ของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน สโมสรแชมป์แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดึงตัวมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังดาวเตะทีมชาติโมร็อกโกโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นด้วยการซัดไปถึง 7 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 36 นัด ในเกมลีกฤดูกาลนี้ จนเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ “เนรัซซูรี” คว้าถ้วยแชมป์ สคูเด็ตโต้ ไปครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี             ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่า อินเตอร์ มิลาน ยังค้างชำระเงินจำนวน 40 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,520 ล้านบาท ให้กับทาง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลีกแดนกระทิงดุ เพื่อเป็นค่าตัวของ ฮาคิมี่ ที่ย้ายมาค้าแข้งยังถิ่น จูเซ็ปเป้เมซ่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว เนื่องจากสโมสรกำลังประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนักจากผลกระทบของเชื้อโควิด-19 และคาดว่า “งูใหญ่” อาจจำเป็นจะต้องขายแบ็กขวารายนี้ให้กับบาเยิร์น มิวนิค ในราคา 50 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,900 ล้านบาท เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ก้อนดังกล่าว พร้อมทั้งทำกำไรนิดหน่อยจากการขายนักเตะได้อีกด้วย             สำหรับ อาชราฟ ฮาคิมี่ ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ลงสนามไปแล้ว 43 นัด ทำได้ 7 ประตู รวมทุกรายการ สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ UFABET

• ข่าวฟุตบอล

0

                อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ทีมดังในลีกตุรกี ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ มาร์ติน สเคอร์เทล ปราการหลังตัวเก๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สเคอร์เทล ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่เอ็นร้อยหวายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และจะไม่ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดในเกมที่เหลือทั้งหมด โดยการยกเลิกสัญญาครั้งนี้เป็นการตกลงกันด้วยดีจากทั้งสองฝ่าย "สเคอร์เทล" วัย 36 ปี ย้ายมาร่วมทีม อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ เมื่อช่วงปี 2019                 และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพา อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ครองแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศตุรกีได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และยังเป็นแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย                 และในซีซั่นนี้ สเคอร์เทลก็เป็นกำลังสำคัญในการพา อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ตะลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่สุดท้ายต้องกระเด็กตกรอบแรกไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับอาการบาดเจ็บของสเคอร์เทลนั้น อยู่ในเกมลีกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ พบกับ คาซิมปาซ่า ซึ่ง สเคอร์เทลได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ซึ่งเกมนั้นผลจบลงที่ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ เสมอกับ คาซิมปาซ่า ไป 2 – 2                 หลังจากนั้นได้มีการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของสเคอร์เทลพบว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นร้อยหวายและเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแพทย์ได้ลงความเห็นว่า สเคอร์เทล จะไม่ได้ลงเล่นให้กับ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ตลอดทุกเกมที่เหลือในฤดูกาลนี้ จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายเลยตกลงยุติสัญญากันด้วยกัน จากนั้นได้มีคำถามไปยังสเคอร์เทล เกี่ยวกับเรื่องของการแขวนสตั๊ดซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ตอบบนอินสตราแกรมว่า “ไม่มีทางหรอกโว้ย”                 สำหรับ สเคอร์เทลนั้นโด่งดังสุดขีดในสมัยค้าแข้งให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระหว่างปี 2008 – 2016 และลงเล่นให้กับ “หงส์แดง” ไปทั้งหมด 320 นัด ยิงไป 18 ประตู จากนั้นเจ้าตัวได้ย้ายมาค้าแข้งในประเทศตุรกีกับสโมสรเฟเนร์บาห์เช่ ระหว่างปี 2016 – 2019 ก่อนที่จะมาอยู่กับ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ และกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ufa982 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ สเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1 – 1เวสต์แฮม หืดขึ้นคอเบียดชัย สต็อคพอร์ท ท้ายเกม เข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือน เบิร์นลีย์ ในศึกพรีเมียลีก ผงาดขึ้นจ่าฝูง