ทูเคิ่ล เผย เข้าใจกระแสวิจารณ์ “เชลซี” หลังรัสเซียถล่มยูเครน

ทูเคิ่ล เข้าใจกระแสวิจารณ์ “เชลซี”

            ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) นายใหญ่ของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรแกร่งแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเปิดใจถึงสถานการณ์ที่ต้นสังกัดถูกวิจารณ์อย่างหนักจากเหตุการณ์ รัสเซีย โจมตี ยูเครน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าของสโมสรคนปัจจุบันอย่าง “โรมัน อบราโมวิช” เป็นชาวรัสเซีย แถมยังสนิทสนมกับประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ของ รัสเซีย อีกด้วย โดยเฮดโค้ชชาวเยอรมันระบุว่า ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ก็เข้าใจเสียงวิจารณ์ เนื่องจากสงครามเป็นเรื่องที่ไม่ให้ใครอยากให้เกิดขึ้น ทูเคิ่ล ลั่น ต้องแยกเรื่องการเมืองกับกีฬาออกจากกัน             โธมัส ทูเคิ่ลผู้จัดการทีมคนดังของ “สิงห์บลู” เชลซี ออกโรงแสดงความเห็นหลังต้นสังกัดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ รัสเซีย บุกโจมตี ยูเครน เนื่องจาก “โรมัน อบราโมวิช” เจ้าของสโมสรคนปัจจุบันเป็นชาวรัสเซีย และมีความสนิทชิดเชื้อกับประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ของ รัสเซีย โดยกุนซือใหญ่ วัย 48 ปี ชี้ว่า ตนเข้าใจที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ เชลซี หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครนข่าวกีฬาทั่วโลก แต่ก็อยากให้แยกเรื่องกีฬากับการเมืองออกจากกัน เพราะทีมงานและสตาฟฟ์ทุกคนในทีมไม่เคยแสดงความเห็นเรื่องการเมืองเลย             โดย ทูเคิ่ลเปิดใจก่อนเกม คาราบาว คัพ ว่า “มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างมากที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เราอวยพรต่อทุกฝ่ายอย่างที่สุด เรารู้ดีว่าเราไม่ได้มีข้อมูลเชิงลึกมากไปกว่าทุกคน และแน่นอนว่าสตาฟฟ์ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เราให้ความสนใจแต่กับกีฬา นั่นไม่ใช่เพราะเราหลบเลี่ยง แต่สถานการณ์มันย่ำแย่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ผมขอใช้สิทธิ์ไม่ออกความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น มันทำให้เราเสียสมาธิได้ ผมเข้าใจถึงเสียงวิจารณ์ที่มีต่อสโมสร ซึ่งเราก็ไม่สามารถมองข้ามได้ แต่บางทีเราในฐานะโค้ชและนักเตะไม่ต้องรู้สึกรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขั้น แม้สงครามมันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีก็ตาม”             อนึ่ง รัฐบาลอังกฤษเตรียมที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสร เชลซี แถมยังมีข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจถูกกดดันหนักบาคาร่าให้ถึงขั้นขายสโมสรเลยทีเดียว   ลิเวอร์พูล กับผลงานน่าผิดหวัง ของแข้งดาวดัง ที่ทุ่มเงินซื้อมาร่วมทีมนักฟุตบอล 5 แข้งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในปี 2021“เหตุการณ์ฟุตบอล” ที่เหล่าแฟนๆจดจำได้เป็นอย่างดีสนามฟุตบอล ที่ขึ้นชื่อว่าสวยติดอันดับ

เลสเตอร์ ซิตี ดับซ่า เชลซี คว้าเอฟเอ คัพ สมัยแรกมาครอง

                เลสเตอร์ ซิตี สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาในการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากเอาชนะ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศไปแบบสนุกด้วยสกอร์ 1 – 0                 ศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาแข่งขันกันที่สนาม “เวมบลี่ย์” เป็นการพบกันระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก เชลซี พบกับเลสเตอร์ ซิตี                 ก่อนเริ่มเกมนี้ กุนซือของทั้งสองทีมหมายมั่นปั้นมือจะสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาให้ได้ โดยฝั่งของ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมเชลซี ต้องการจะเป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมนีคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ ส่วนทางด้านของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี ต้องการพาทีมคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังจากเคยเข้าชิงมาแล้ว 5 ครั้งด้วยกัน และแพ้รวดทั้ง 5 ครั้ง เริ่มครึ่งแรกมาทั้ง เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี ต่างเล่นกันแบบเพลย์เซฟ ไม่กล้าเปิดเกมผลีผลามกันมากนัก                แต่ดูเหมือนว่าฝั่งของ “สิงโตน้ำเงินคราม” จะมีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าฝั่งของ “จิ้งจอกสยาม” แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอ จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 0 – 0                 ครึ่งหลังเลสเตอร์ ซิตี เปิดเกมบุกมากขึ้นและในนาที 63 สาวกของ “จิ้งจอกสยาม” ก็ได้เฮกันลั่นเมื่อ รีซ เจมส์ เปิดบอลไปติด อโยเซ่ เปเรซ ก่อนที่ ลุค โธมัส จะผ่านบอลต่อมาให้กับ ยูริ ตีเลอมองส์ ได้กดระยะ 30 หลา บอลพุ่งเข้ากรอบผ่านมือ เกปา กระทบตาข่ายอย่างสวยงาม และเป็นการยิงตรงกรอบครั้งแรกของ เลสเตอร์ อีกด้วย                 เชลซี อยู่เฉยไม่ได้ต้องเปิดเกมบุกหนักกว่าเดิมเพื่อทวงประตูตีเสมอ แต่แล้วในนาที 89 โอกาสตามตีเสมอของ เชลซี ก็มาถึงเมื่อ ติอาโก ซิลวา ตักบอลผ่านแนวรับของเลสเตอร์ ซิตี เข้ามาและเป็น เบน ชิลเวลล์ อดีตกองหลังของ “จิ้งจอกสยาม” ที่ได้จังหวะซัดประตูทีมเก่าอย่างจัง บอลพุ่งเข้าตาข่ายไปแล้ว แต่เมื่อเช็คจาก วีเออาร์ กลายเป็นว่า ชิลเวลล์ ล้ำหน้าไปเสียก่อน                 จบ 90 นาที เชลซี พ่ายให้กับเลสเตอร์ ซิตี

เชลซี ที่ต้องเผชิญหน้าความล้มเหลวในถ้วย เอฟเอคัพ จากเลสเตอร์

เชลซี

                เป็นผลการแข่งขันที่ผิดคาดไปเลยทีเดียว เมื่อทาง เชลซี ของ Thomas Tuchel ที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงมาตลอดจะต้องมาสะดุดในเกมที่เจอกับอาร์เซน่อลและเลสเตอร์ซิตี้ รวมถึงในเกมหลังยังทำให้พวกเขาต้องชวดแชมป์เอฟเอคัพไปอย่างน่าเสียดายเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นความพ่ายแพ้ต่อหน้าแฟนบอลครั้งแรกในรอบปีอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่นายใหญ่ชาวเยอรมันทำทีมแพ้สองเกมติดต่อกันจนทำให้หลายคนเริ่มกังวลถึงการแข่งขันในช่วงเกมที่เหลือแล้วเช่นกัน ความพ่ายของ เชลซี ในเกมเอฟเอคัพก็เกิดขึ้นมาจากลูกยิงของ "Youri Tielemans"                 ที่ช่วยให้เลสเตอร์ซิตี้สามารถคว้าแชมป์ถ้วยเก่าแก่ของเกาะอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ส่วนทางด้านสิงโตน้ำเงินครามที่ครองบอลและสร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่ากลับไม่เฉียบคมพอ รวมถึงลูกยิงตีเสมอในเกมก็ดันถูกจับล้ำหน้าไปแบบไม่มีข้อแก้ตัวแต่อย่างใด เช่นเดียวกับผลงานที่เข้าฝักของทางผู้รักษาประตูอย่าง Kasper Schmeichel ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ตามตำนานผู้พ่อของตัวเองไปอีกรายการต่อจากพรีเมียร์ลีกนั่น อีกทั้งยังเป็นฝันร้ายของสิงห์น้ำเงินที่ต้องเป็นรองแชมป์สองปีติดต่อกัน ปัญหาของเชลซีก็คือพวกเขายังมีเป้าหมายที่ต้องเล่นทั้งในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่จบเกมเอฟเอคัพไปแล้ว ซึ่งทีมสิงโตน้ำเงินครามยังไม่รับประกันว่า ตัวเขาจะได้ไปเล่นในรายการใหญ่ของยุโรปในช่วงปีหน้าหรือไม่ เนื่องจากยังครองอันดับสี่ในตารางอยู่และห่างจากลิเวอร์พูลเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น หากพวกเขายังเกิดพลาดในเกมที่เหลือก็อาจทำให้ตัวเองตกลงไปอยู่ในอันดับห้าของตารางได้เลยเช่นกัน แม้ว่าทีมดังจากลอนดอนจะยังได้เปรียบคู่แข่งอื่น ๆ อยู่ก็ตาม สุดท้ายแล้วเรื่องที่น่าเป็นห่วงของเชลซีก็คือทาง Thomas Tuchel เองก็มีสถิติไม่ดีในการเล่นในรอบชิงชนะเลิศเท่าไหร่นัก ทั้งการพ่ายแพ่ต่อบาเยิร์นมิวนิคในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อนและเกมที่เจอกับเลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งก็เป็นอาจลดความมั่นใจของทีมไปพอสมควร แม้ว่าพวกเขาจะได้เจอกับจิ้งจอกสีน้ำเงินอีกรอบในเกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อมาเพื่อหาโอกาสล้างแค้นนั่เอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ufabet1688 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์ถล่มโรม่า ยับเยิน 6 – 2“โซลชา” ที่บ้านเกิด พร้อมใจสร้างรูปเพื่อเป็นเกียรติที่สร้างชื่อเสียงให้เมือง“เนย์มาร์” ถูก “โปเซ็ตติโน่” เอ่ยปากชม คุมไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

“เชลซี” กับสถิติใหม่ ที่เหล่าแฟนๆ สิงค์บูลไม่ได้อยากฟัง!!

เชลซี

                หลังจากที่พลาดท่าแพ้ให้กับทีมหนีตกชั้นไปแล้วนั้น ทาง เชลซี ก็ได้สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำของพวกเขาไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อพวกเขาที่ไม่แพ้ใครมาก่อนหน้าถึง 14 เกม ก่อนที่ในเกมกับเวสต์บรอมวิชอัลเบี้ยน ทาง Christian Pulisic จะพาทีมนำได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาที่ 27 แต่จุดเปลี่ยนจากการโดนไล่ออกของ Thiago Silva ได้ทำให้ทีมเหลือสิบคนก่อนจะโดนน้องใหม่ประจำพรีเมียร์ลีกปีนี้ไล่บี้จนแพ้ไปถึง 2-5 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ทั้งเรื่องการเสียประตูและอายุของนักเตะที่โดนไล่ออกจากสนามเลยนั่นเอง สถิติแรกที่แฟน"เชลซี"ต้องการจะลืมก็คือ                 ทีมเวสต์บรอมวิชกลายเป็นสโมสรแรกที่สามารถยิงประตูไล่สิงโตน้ำเงินครามได้มากถึงแปดลูกภายในหนึ่งฤดูกาลและไม่เคยมีทีมใดทำได้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ซิตี้และยูไนเต็ด รวมไปถึงลิเวอร์พูลหรืออาร์เซน่อลก็ตาม โดยสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือทีมมวยโลกในฤดูกาลนี้กลับเป็นทีมจอมฝืดที่ไม่ค่อยทำประตูได้บ่อยเท่าไหร่นัก แต่กลับสามารถมายิงประตูได้ถึงถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ที่นำโดย Thomas Tuchel ผู้แข็งแกร่งจนแฟนบอลไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง                 นอกจากนี้ทาง Thiago Silva ก็เป็นนักเตะอายุมากที่สุดของเชลซีที่โดนไล่ออกจากสนามไปในวัย 36 ปี ส่วนทางด้านผู้จัดการทีมของเวสต์บรอมวิชอย่าง Sam Allardyce  ก็กลายเป็นกุนซือคนแรกที่สามารถพาทีมในพรีเมียร์ลีกถึงสามสโมสรมาชนะสิงโตน้ำเงินครามได้ถึงถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์จากผลงานในทีมโบลตันวันเดอเรอส์และคริสตัลพาเลซนั่นเอง โดยทาง Tuchel ก็ออกมายอมรับว่า การลงเล่นเพียงสิบคนเป็นเรื่องที่แตกต่างจากปกติ แต่เขาก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าทีมจะโดนยิงไปถึงห้าประตูเลยทีเดียว                 จะบอกว่าเชลซีโชคร้ายก็ว่าได้ เมื่อ Silva เองก็มีเจตนาบังบอลเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับโดนผู้เล่นของทีมเยือนจนกลายเป็นใบเหลืองที่สองอย่างรวดเร็วและจังหวะการทำประตูของทีมมวยโลกที่วางบอลได้แม่นยำจนกลายเป็นประตูตีเสมอและเปลี่ยนเกมให้อยู่ในมือของพวกเขานั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ gclub casino กับเว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ ดอลเบิร์ก และ ดัมสการ์ด ซัดประตูให้ เดนมาร์ก งัดฟอร์มโหดยำ มอลโดวา เละเทะ!“แฮร์รี่ เคน” แบก! ทั้งยิงทั้งจ่ายพาทีมชาติ อังกฤษ เฮ 2 เกมติดแฟนหงส์ปลื้ม! ซาดิโอ มาเน่ ปลุกแข้ง “ลิเวอร์พูล” รวมพลังพาทีมผ่านวิกฤติ

ผู้จัดการทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” คุยลั่นทีมของเขาน่าจะชนะเอฟเวอร์ตันมากกว่านี้

สิงโตน้ำเงินคราม

ทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ถือเป็นทีมฟุตบอลทีม 1 ทีมที่ทำผลงานได้โดดเด่นในช่วงระยะ 10 ปี ที่ผ่านมานี้ มีทั้งโอกาสที่ได้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมทั้งเกาะกลุ่มอยู่ในอันดับบนของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลอยู่บ่อยครั้ง ที่ผ่านมาผลงานของทีมสิงโตน้ำเงินครามกลับออกมาไม่เข้าตาฝ่ายบริหารของทีมที่ตั้งเอาไว้สักเท่าไหร่ จนกระทั่งฝ่ายบริหารตัดสินใจลงดาบสั่งปลด แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตสุดยอดนักเตะขวัญใจแฟนบอลสิงโตน้ำเงินครามที่กลับมารับหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมนี้ในช่วงปี 2019 ออกไป จากนั้นก็ไปทำการอัญเชิญ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตผู้จัดการทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มีปัญหากับฝ่ายบริหารของทีมเก่าจนต้องตัดสินใจลาออกมา ให้ย้ายมาคุมทีมสิงโตน้ำเงินครามแทน หลังจาก "โธมัส ทูเคิ่ล" มาคุมทีมก็ถือว่าทำผลงานกับทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแต่เดิมที่ทีมวนเวียนอยู่อันดับ 6 ถึงอันดับ 10 ของตาราง แต่ในช่วงเวลานี้กลับกระโดดขึ้นมายึดตำแหน่งอันดับ 4 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้สำเร็จ โดยการแข่งขันนัดล่าสุดซึ่งถือเป็นนัดที่ 28 ของทีมสิงโตน้ำเงินครามในรายการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2020-2021 นี้ เป็นการเปิดบ้านต้อนรับการบุกมาของทีมขนมหวาน เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 7 มีนาคม 2021 นี้เอง ซึ่งทีมเจ้าบ้านสามารถจัดการยิงประตูฝ่ายผู้มาเยือนไปได้ตั้งแต่นาทีที่ 31 โดยเป็นผลมาจากการสกัดผิดพลาดของ เบน ก็อดฟรีย์ ในเกมการแข่งขันนัดนี้ และทีมสิงโตน้ำเงินครามก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะสามารถยิงประตูที่ 2 และเป็นประตูตอกฝาโลงได้สำเร็จในนาทีที่ 65 จากการยิงจุดโทษได้สำเร็จของ จอร์จินโญ่ ซึ่งหลังจบเกมการแข่งขันในครั้งนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินครามคนปัจจุบันก็ได้ออกมาให้ความเห็นเป็นเชิงวิเคราะห์หลังเกมส์การแข่งขันว่า ชัยชนะของทีมตนเองในเกมการแข่งขันนัดที่ผ่านมานี้เป็นสิ่งที่สมควรอย่างมากที่ทีมของตนเองนั้นจะต้องได้รับชัยชนะ และในความจริงแล้วก็ควรจะยิงทำประตูให้ได้เป็นจำนวนมากกว่านี้อีกด้วย เพราะทีมสิงโตน้ำเงินครามสามารถมองหาช่องว่างแล้วบุกทะลวงเข้าไปยังทีมฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จรวมทั้งควบคุมเกมการแข่งขันไว้ได้ตลอดการแข่งขันนัดนี้ ทำให้เขาก็เป็นผู้จัดการทีมสุขใจอย่างมากกับฟอร์มการเล่นของลูกทีม และผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินครามยังได้เอ่ยถึงผลงานของ ไค ฮาแวร์ตซ์ นักเตะกองกลางชาวเยอรมันว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก หากแต่ในช่วงเวลานี้จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการแข่งขันของพรีเมียร์ลีกสักพักถึงจะเข้าที่ สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ joker168 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มเฉียบถล่ม เอลเช่ กระจุย ในศึกลาลีกาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังแกร่ง! บุกชนะกลัดบัคถึงถิ่น ในศึก ยูฟ่าหยามเกินไป! “หลุยส์ ซัวเรซ” เผย คำพูดสุดช้ำที่ได้ยินก่อนย้ายออกจากบาร์ซ่า

ทำไมไม่เป่าฟาวล์! “เอวร่า” โวยกรรมการตาบอดไม่เป่าเป็นจุดโทษจาก “แม็กไกวร์”

ไม่เป่า “แม็กไกวร์”

ยังไงก็รับไม่ได้ ปาทริซ เอวร่า ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังจากที่เห็นลีลาการเล่นในสนามของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ทำผิดกติกาจากการใช้แขนล็อคคอ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เป็นการขัดขวางจังหวะไม่ให้นักเตะเข้าหาบอลแบบจงใจ มองว่ากรรมการควรจะเป่าฟาวล์และชี้ให้เป็นจุดโทษแต่สุดท้ายแล้วกะปล่อยให้นักเตะเดินเกมต่อไปโดยไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด จากการรายงานข่าวฟุตบอลต่างประเทศ สกาย สปอร์ต เกมการแข่งขันของศึกดาร์บี้แมตช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมปีศาจแดง เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับทีมคู่ปรับร่วมตาราง ทีมสิงโตน้ำเงินคราม โดยเกมนี้ปิดฉากการแข่งขันไปด้วยสกอร์ 0-0 แบ่งคะแนนเข้ากระเป๋ากันไปคนละ 1 แต้ม ซึ่งในระหว่างเกมการแข่งขันได้เกิดประเด็นถกเถียงอย่างมากมายจากการเล่นบอลของ "แฮร์รี่ แม็กไกวร์" ที่จู่ ๆ กลับใช้แขนล็อคคอผู้เล่นแนวรับของทีมฝ่ายตรงข้าม โดยมองว่าจังหวะนี้กรรมการควรจะเป่านกหวีดและชี้เป็นจุดโทษของเกม และอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนพลิกสถานการณ์ให้ทีมเยือนนำประตูก็เป็นได้ “นี่คือการแข่งขันฟุตบอลไม่ใช่การแข่งขันศึกชิงเข็มขัดมวยปล้ำมันเป็นเรื่องน่าตลกอย่างมากที่เขาใช้แขนล็อคคอผู้เล่น ไม่ว่าคุณจะย้อนให้ดูภาพ VAR กี่สิบครั้งกรรมการก็สมควรเป่าเป็นจุดโทษ แต่เขากลับปล่อยให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เล่นเกมต่อไปผมได้แต่ตะโกนในระหว่างรับชมว่านี่มันบ้าอะไรกันพวกคุณตาบอดกันหรือไงผมไม่เข้าใจว่ากรรมการคิดอะไรอยู่ ผมมองเกมอย่างตรงไปตรงมาซึ่งมันอาจจะทำให้เกมการแข่งขันในสนามนี้สกอร์เปลี่ยนไปทีม สิงห์บลูส์พวกเขาอาจจะเป็นฝ่ายชนะในเกมนี้อย่างน้อยก็จากการยิงจุดโทษ” แข้งชาวฝรั่งเศส กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “บิลิช” เชื่อ “จอห์นสโตน” ช่วย WBA อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1ไม่ปิดโอกาส!เสือเหลืองเผยเกือบปล่อยตัว “ซานโช่” หากดีลไม่ล่มก่อน

ไม่รู้ว่าลีลาดี “มอยส์” เผย!สมัยคุมแมนยูเมินสัญญาทาบทามติอาโก้

มอยส์

เดวิด มอยส์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังว่าในสมัยที่เขายังคงคุมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีความคิดที่จะกระชากตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า แข้งกองกลางตัวเก่งของทีมบาเยิร์น มิวนิค เข้ามาร่วมทัพเลยสักนิด ยอมรับว่าในตอนนั้นไม่ทราบว่านักเตะลีลาสไตล์การเล่นเป็นแบบไหน หากเปรียบเทียบความสนใจโดยส่วนตัวแล้วเขาพุ่งเป้าไปที่ เชส ฟาเบรกาส ที่สมัยนั้นเป็นนักเตะภายใต้สังกัดทีมคู่ปรับร่วมลีกทีมสิงโตน้ำเงินคราม  "เดวิด มอยส์" ผู้จัดการทีมประสบการณ์สูงทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรที่มีชื่อเสียงในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าในตอนนั้นเขาได้ปฏิเสธที่จะคว้าตัว ติอาโก้ แข้งกองกลางฝีเท้าดี ให้มาอยู่ค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงเพราะไม่ได้มีความสนใจและไม่มีความรู้เรื่องสไตล์การเล่นของนักเตะ ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นนักเตะให้ความสนใจที่อยากจะมาอยู่กับทีมเพราะต้องการย้ายออกจากทีมต้นสังกัด ซึ่งค่าหัวของนักเตะในเวลานั้นอยู่ที่ 17 ล้านปอนด์หรือประมาณ 680 ล้านบาท ซึ่งคนที่พยายามผลักดันให้สัญญาการคว้าตัวแข้งกองกลางรายนี้สำเร็จนั่นก็คือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานของทีมนั่นเองแต่เขาก็กลับมองข้ามสัญญาไปอย่างน่าเสียดาย  “ตอนนั้นผมยังจำได้ดีทุกอย่างเป็นไปได้สวยเหลือแค่ผมเซ็นอนุมัติเท่านั้น แต่ผมกลับไม่สนใจสัญญาฉบับนี้เลยสักนิดเพราะผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นนักเตะที่มีลีลาการเล่นเป็นแบบไหนและจะเข้ากับทีมของเราได้หรือไม่ จนในที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปค้าแข้งกับทีมเสือเหลืองและอยู่เป็นกำลังสำคัญหลักจนทำผลงานให้ทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ตอนนั้นผมยอมรับว่าในหัวของผมคิดแต่จะคว้าตัวกองกลางของทีมเชลซีเข้ามาร่วมทัพให้ได้” เดวิด มอยส์ กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufaone เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล สื่อเผย! “แวร์เนอร์” ถูกทาบทามจากทีมใหญ่ก่อนโดนเชลซีสอยตัวราชันชุดขาว หวังปล่อย “แกเร็ธ เบล” เซฟค่าเหนื่อย 30 ล้านปอนด์“ตราโอเร่” ตัดสินใจถอนตัวจากสเปน หลังติดเชื้อโควิด-19

สื่อเผย! “แวร์เนอร์” ถูกทาบทามจากทีมใหญ่ก่อนโดนเชลซีสอยตัว

แวร์เนอร์

สื่อข่าวชื่อดังเมืองเบียร์ตีข่าว ก่อนที่ทีมสิงโตน้ำเงินครามจะปิดดีนสำเร็จคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ สุดยอดกองหน้าอนาคตไกลมาร่วมทำศึก มีอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ที่ส่งตัวแทนมาขายขนมจีบแล้วเปิดโต๊ะพูดคุยถึงเรื่องสัญญาของนักเตะอย่างจริงจัง นั่นก็คือทีมเรือใบสีฟ้า โดยมีกุนซือใหญ่ของทีมเป็นคนต่อสายตรงยกหูโทรศัพท์หาตัวนักเตะด้วยตัวเองไม่ใช่ทีมลิเวอร์พูลแบบที่ทุกคนเข้าใจกันเลยสักนิด  "ติโม แวร์เนอร์" สุดยอดกองหน้าอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งวงการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะเปิดศึกชิงตัว ติโม แวร์เนอร์สุดยอดกองหน้าอนาคตไกลเข้ามาร่วมทีมให้ได้ หลังจากที่นักเตะตกเป็นเป้าหมายหัวของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า แถมกุนซือรายนี้เยี่ยมเป็นคนยกหูโทรศัพท์เพื่อพูดคุยและโน้มน้าวจิตใจนักเตะเกี่ยวกับเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่เขาจะได้รับหากตกลงรับข้อเสนอในการเป็นนักเตะภายใต้สังกัด แต่สุดท้ายแล้วแข้งวัย 24 ปีก็เลือกที่จะปฏิเสธไปในที่สุดและย้ายมาค้าแข้งกับทีมเชลซีแทน เพราะกุนซือใหญ่ของการันตีพื้นที่ในสนามการเป็นนักเตะตัวจริงที่เขาจะได้รับหากเลือกค้าแข้งด้วยกัน ศึกพรีเมียร์ลีกหนังใหม่ที่จะเปิดฤดูกาลกันอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าเราจะได้เห็นโฉมลีลาการเล่นของ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าไฟแรงอย่างแน่นอนหลังจากที่เขาได้ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวจริง และกุนซือใหญ่จะเลือกใช้งานเขาให้กลายเป็นผู้เล่นหลักในการไล่ล่าคว้าถ้วยแชมป์ของศึกครั้งนี้ทุกเกม ก่อนหน้านี้ทีมได้เจรจาคว้าตัวนักเตะด้วยสัญญาที่ 53 ล้านปอนด์หรือประมาณ 2,100 ล้านบาท และมอบสัญญาอายุการทำงานระยะยาวถึง 5 ปีเต็ม บวกกับออฟชั่นที่นักเตะจะได้รับค่าเหนื่อยจากสโมสรถึงสัปดาห์ 7 ล้านบาท สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ราชันชุดขาว หวังปล่อย “แกเร็ธ เบล” เซฟค่าเหนื่อย 30 ล้านปอนด์“ตราโอเร่” ตัดสินใจถอนตัวจากสเปน หลังติดเชื้อโควิด-19“เมมฟิส เดอปาย” ประกาศชัด แค่มีสมาธิให้กับ ลียง เท่านั้น

มีไว้ทำไม!”แลมพาร์ด”เลือดขึ้นหน้าประท้วงหนักเหตุไม่ใช้วีเออาร์ตัดสิน

แลมพาร์ด

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือใหญ่ของทีมสิงโตน้ำเงินคราม ออกอาการหัวร้อนแบบสุดขีดจนต้องออกมาถามท้วงถึงการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาทำไมทีมของตนจึงไม่มีการตัดสินโดยการใช้วีเออาร์ในจังหวะของเกมที่มีข้อผิดพลาดเกิด ซึ่งตัวกุนซือกล่าวว่าหากมีการตัดสินเกมที่ละเอียดกว่านี้ ทีมของตนคงไม่ต้องพบจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก จากการที่นักเตะของทีม มาเตโอ โควาซิช ถูกเชิญออกจากสนามการเเข่งขัน สื่อข่าวฟุตบอลต่างประเทศรายงาน "แฟร้งค์ แลมพาร์ด" ผู้จัดการทีมคนเก่งของทีมเชลซี แฟร้งค์ แลมพาร์ดผู้จัดการทีมคนเก่งของทีมเชลซี สโมสรชั้นนำแห่งวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกมาประท้วงกับกรณีที่เป็นข้อพิพาทในเกมการเเข่งขันเกี่ยวกับผลการตัดสินในสนามการแข่งขัน ที่เป็นเหตุทำให้นักเตะในทีมต้องโดนใบเหลืองทั้ง 2 ใบ และถูกเชิญออกจากสนามในที่สุดส่งผลให้ทีมเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปในทันที จนกระทั่งจบเกมการแข่งขันทีมต้องพ่ายศึกให้แก่ทีมคู่แข่งร่วมลีกไปถึง 2 ประตูต่อ 1 “เรามีวีเออาร์เพื่ออะไรกันถ้าเราไม่คิดที่จะใช้มันคุณก็เห็นว่าในเหตุการณ์ครั้งนั้นนักเตะของทีมเราไม่สมควรที่จะได้รับใบเหลืองด้วยซ้ำ พวกเขาสามารถกับคำตัดสินไม่ได้แต่ก็ไม่มีใครที่จะกระตือรือร้นทำในสิ่งนั้น ทีมเราตกอยู่ในที่นั่งลำบากไปทันทีและผมรู้ว่านักเตะทุกคนในทีมไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งตัวผมเองในตอนนั้นรู้สึกแย่เอามาก ๆ แต่ก็ต้องปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป เราฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักและเกมการแข่งขันในนัดนี้ก็สำคัญมากแต่เราก็ไม่สามารถคว้าถ้วยเอฟ เอ คัพ มาครอบครองได้” แฟร้งค์ แลมพาร์ด กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม อดีตกองหลังของ นิวคาสเซิล “ราเมจ” รับบทกุนซือทีมยู 23อินเตอร์ มิลาน เปลี่ยนทีม 7 รายย้ำชัยเหนือ นาโปลี 2-0 !!สุดยอดลูกผู้ชาย! “แอนดี้” ซึ้งน้ำใจ “คล็อปป์” นิสัยโคตรแมน

ไปต่อได้ยาก! “เกปา อาร์รีซาบาลาก้า” โดนใส่ยับกาวหมดกระปุก

เกปา

ดูเหมือนอนาคตจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสียแล้ว สำหรับ ผู้รักษาประตูอนาคตไกล เกปา อาร์รีซาบาลาก้า  ที่ตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าหมายหัววิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการทำผลงานในสนาม ที่ไม่สามารถงัดความเหนียวของมือออกมาใช้ได้สำเร็จ ทำให้ทีมสิงโตน้ำเงินครามต้องเสียประตูให้แก่ทีมคู่แข่งแบบกระจุย แม้แต่กุนซือที่จับตาอยู่ข้างสนาม ยังอายแทนจนแทบจะเอาปี๊บคุมหัว แถมบรรดาแฟนบอลได้ออกมาแสดงความคิดเห็นตรงกัน ร้องขอเปลี่ยนผู้รักษาประตูด่วนหากไม่อยากพลาดตั๋วไปสู้ศึกในแชมป์เปี้ยนลีก สื่อฟุตบอลต่างประเทศรายงาน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูเลือดกระทิงดุ เคยสร้างความฮือฮาให้แก่วงการฟุตบอลไม่น้อยสำหรับค่าตัวในการล่าหัวของเขาเข้ามาร่วมเสริมทีม ที่สูงถึง 80 ล้านปอนด์  ตำแหน่งผู้เป็นเสมือนกาวด่านสุดท้ายของคู่แข่ง   "เกปา" ไม่สามารถโชว์ความเหนียว แต่การค้าแข้งในลีกการแข่งขันอังกฤษของเขาเริ่มจะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ เพราะ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ไม่สามารถโชว์ความเหนียวออกมาหยุดคู่แข่งได้ ทำให้ตัวเขาในตอนนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างหนัก ในประเด็นเล่นได้ไม่คุ้มค่าตัวเอาเสียเลย แม้แต่กระทั่งแฟนบอลเองยังออกโรงมาชี้แนะทีมให้รีบเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูโดยด่วน หากทีมอยากที่จะเข้าไปเล่นในสนามถ้วยสูงสุด ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตู วัย 23 ปี กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ถูกพุ่งเป้าในการมารับหน้าที่ เป็นผู้รักษาประตูคนใหม่ เพราะนอกจากจะมีค่าตัวที่น่าคบหาแล้ว ยังพัฒนาฝีมือไปได้อีกไกลแต่ก็ต้องไปลุ้นกันอีกทีว่า ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยอมร่างสัญญาในการปล่อยตัวของผู้รักษาประตูรายนี้หรือไม่ หลังจากที่เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าหดหู่และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ยังไม่ย้ายไปไหนแน่นอน “โจเซป กวาร์ดิโอล่า” โค้ชทีมแมนฯ ซิตี้ ตัดสิ้นใจอยู่ต่อ“คาร์ราเกอร์” ลั่น ผีแดง แมนยู ควรมองหา นายด่านคนใหม่!!“คล็อปป์” ยืนยัน “เฮนโด้” ได้ชูถ้วยแชมป์ลีกเป็นคนแรกแน่นอน