“คริสเตียโน่ โรนัลโด้” เราอาจจะได้เห็นเค้า ย้ายออกจาก แมนยูฯ จริงๆแล้ว

CR7 แมนยู

                หลังจากที่ความพยายามย้ายออกจากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่เป็นผลทำให้เขานั้นยังคงต้องอยู่กับทีมต่อไปในตอนนี้ ซึ่งโอกาสในการได้ลงสนามของเขานั้นก็ดูจะมีน้อยลง ซึ่งก็มาจากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบการเล่นของกุนซือคนใหม่ เอริค เทน ฮาก ที่ใช้งานผู้เล่นคนอื่น และโอกาสในการได้ลงเล่นของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ มักจะเป็นตัวสำรอง หรือได้เล่นในบอลถ้วยเท่านั้น  ซึ่งปัจจุบันก็ด้วยการที่เขาอายุ 37 ปีสภาพร่างกายนั้นก็เริ่มลดน้อยถอยลงไปตรงจุดนี้เอง จึงทำให้การได้เป็นตัวจริงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นมีโอกาสน้อยลง ซึ่งทางเดียวที่เขานั้นจะมีโอกาสได้ย้ายทีมก็จะเกิดขึ้นในตลาดหน้าหนาว ปี 2023 ช่วงเดือน มกราคม ซึ่งมีข่าวออกมาว่า เชลซี เตรียมที่จะซื้อตัวเขาไปร่วมทีม  เชลซี เตรียมคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด                 เชลซี ถือเป็นทีมที่มีข่าวในการซื้อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาตั้งแต่การเปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่การซื้อขายไม่เกิดขึ้น ข่าวกีฬาทั่วโลก ซึ่งสาเหตุนั้นคือ ท็อด โบลี่ เจ้าของทีม เชลซี ต้องการที่จะซื้อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ติดตรงที่กุนซือคนเก่าอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล นั้นไม่ต้องการที่จะซื้อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีม เพราะจะทำให้ระบบทีมเสียจนในที่สุด ท็อด โบลี่ ได้ตัดสินใจปลด โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นเกย์ เกรแฮม พ็อตเตอร์  ทำให้การที่ ท็อด โบลี่ จะได้คริสเตียโน่ โรนัลโด้มาร่วมทีมนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็คงจะอยู่ที่ตัวของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เองแล้วว่าสุดท้ายเขาจะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคตของตัวเอง ซึ่งนอกจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้ว เชลซี ก็ยังมีแผนที่จะซื้อ เนย์มาร์ จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาร่วมทีมในตลาดหน้าหนาวนี้อีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองกันเลยทีเดียว  ฟูแล่ม จ่อคว้า “ไคลเวิร์ต” ปีกจาก โรม่า เสริมทัพสัญญายืมตัวพ่วงซื้อขาดยูเวนตุส นักฟุตบอลที่ ได้มาแบบไม่เสียเงิน และทำผลงานดีสุดๆนักเตะระดับเทพ ที่ย้ายกลับมามาเล่นให้กับทีมเก่าของตัวเองแมนยู แข่งแพ้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

แมนยู แข่งแพ้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

แมนยู สถิติ

เริ่มต้นการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่แล้ว แต่ใครจะเชื่อว่าทีมมหาอำนาจแห่งเกาะอังกฤษ อย่างทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับแข่งขันแพ้ติดต่อกันถึง 2 นัด และอยู่อันดับที่ 20 ของตาราง บอกเลยว่าสถานการณ์รูปแบบการเล่นของทีม แมนยู เหล่าแฟนบอลไม่ได้หวังที่จะลุ้นแชมป์ แต่เปลี่ยนเป็นอย่างให้ทีมต้องตกชั้นก็เพียงพอแล้ว อันที่จริงแล้ว การที่ทีมแมนยูฟอร์มห่วยขนาดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในยุคของ เอริค เทนฮาก มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน วันนี้เราก็เลยจะพาย้อยรอย ไปดูช่วงเวลาที่ทีมแมนยูฟอร์มห่วยตกต่ำ ในการแข่งขันช่วงเปิดฤดูกาลแรกกัน ว่าเกิดขึ้นในฤดูกาลไหนบ้าง 3 ช่วงเวลาช่วงเวลาที่ทีม แมนยู แข่งแพ้   ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล ช่วงฤดูกาลปี 1992 – 1993 นี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนชื่อ จากลีกดิวิชั่น 1 กลายมาเป็นพรีเมียร์ลีก และเป็นปีแรกที่ฟอร์มการเล่นของทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ติดต่อกันอย่างยับเยินมาก ๆ โดยนัดแรกพ่ายแพ้ให้แก่ทีมเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ล และก็มาแพ้ให้กับทีมเอฟเวอร์ตันข่าวกีฬาทั่วโลก ต่อด้วยเสมอกับทีมแกะขาวอิปสวิช หลังจากพ่ายแพ้ติดต่อกันมาหลายนัด คงด้วยความอัดแน่นเก็บกด หลังจากนั้นทีมปีศาจแดง ได้โชว์ฟอร์มโหด ไล่ถล่มคู่แข่งชนะติดต่อกัน 5 นัด ก่อนที่จะแพ้อีก 7 นัดติดต่อกัน ในฤดูกาลนี้เองถึงแม้ว่าจะจบอันดับที่ 10 ทางทีมก็ได้นักเตะตัวใหม่ ที่เข้ามาเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสโมสร นั้นก็คือ การคว้าเอริค คันโตน่า มากจากลีดส์ ตัวนักเตะเองก็ทำให้ทีมปีศาจแดง ครองบังลังค์ยิ่งใหญ่นานถึง 2 ทศวรรษเลยทีเดียวช่วงฤดูกาล 1995 – 1996 เปิดฤดูกาลก็พ่ายแพ้ให้แก่ทีม แอสตัน วิลล่า ไปด้วยจำนวนประสกอร์ 3 – 1 ซึ่งทีมปีศาลแดงเป็นทีมเยือน และในฤดูกาลนี้เอง ที่ทางทีมแมนยู ได้มีการขายนักเตะออกไปเป็นจำนวนมาก มีการเสริมทัพนักเตะตำแหน่งผู้รักาประตูแค่เพียง 1 คนเท่านั้น ด้วยศักยภาพของนักเตะยังไม่ถือว่าดีมากนัก ส่งผลให้ทีมแมนยูแพ้บ่อยมาก ๆ แต่ผลสุดท้ายทางทีมปีศาจแดง ก็มันฮึดในช่วงหลัง จนสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปครอบครองได้ช่วงฤดูกาล 2004 – 2005 นี้เป็นฤดูกาลแรก ที่ทีมแมนยูต้องลงเตะกับทีเชลซี ซึ่งได้โค้ชคนใหม่ ที่มีชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ และก็เป็นทางทีมเชลซีที่สามารถเบียดเอาชนะทีมแมนยูไปได้ด้วยสกอร์ 1 – 0 เมื่อจบฤดูกาลก็เป็นทางทีมเชลซี ที่ได้ครองถ้วยพรีเมียร์ลีกไปครอบครอง ส่วนแมนยูตกมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง และมีคะแนนตามหลังทีมเชลซี 28 แต้ม ถือว่าเยอะมาก ๆ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ย้ายมาร่วม เชลซี แล้วดีอย่างไร“โรนัลโด้” สถานีต่อไป คือที่ใดต้องติดตาม“มาติเนซ” นายเก่าติดต่อเอง พร้อมซบผีแดง“ซินเชนโก”

แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด เรื่องน่ารู้หลังเกมปีซีซั่น

แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด

และนี่ก็เป็นนัดที่ 2 ของฟุตบอลอุ่นเครื่อง ซึ่งนัดแรกแข่งที่ประเทศไทย สามารถเอาชนะทีมคู่รักคู่แค้น อย่างลิเวอร์พูลมาได้อย่างสวยงาม ถึง 4 ประตูต่อ 0  ส่วนนัดที่ 2 แข่งขันที่ประเทศออสเตรเลีย กับทีมเจ้าบ้าน เมลเบิร์นวิคตอรี่  ซึ่งในนัดนี้ผู้จัดการทีม เอริก เทนฮาก  ก็จัดหนัก จัดเต็มเหมือนนัดแรก โดยขนนักเตะชุดใหญ่ลงสนาม อยากคบครัน โดยเปลี่ยนผู้เล่นแค่ไม่กี่ตำแหน่ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นชุดใหญ่ทั้งหมด ส่วนฟอร์มการเล่น แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด ในนัดนี้ ก็ยังดุดัน มีสไตล์การเล่น มีสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้วอย่างชัดเจน สามารถครองเกม ได้มากกว่าถึง 76 เปอร์เซ็นต์ สำหรับแฟนผีแดง เมื่อเห็นฟอร์มการเล่นแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าฤดูกาลนี้จะมีผลงานดีขึ้นอย่างแน่นอน เผลอ ๆ อาจจะมีโอกาสถึงลุ้นแชมป์ ได้เลย  ถึงแม้ว่าในช่วงต้นของเกมจะถูกขึ้นนำไปก่อน เพียง 5 นาทีแรกของเกมเท่านั้น แต่หลังจากนั้นแมนยูก็กลับมาเล่นในฟอร์มของตัวเอง ทำเกมบุกเข้าใส่ อยู่ตลอดเวลา และในช่วงครึ่งหลังผู้จัดการทีมก็สั่งเปลี่ยน ผู้เล่นดาวรุ่งลงมาทั้งหมด และเมื่อได้รับโอกาส ผู้เล่นดาวรุ่งก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหลายคน จบเกมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์  4 ประตูต่อ 1 แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด ยังคงต้องพัฒนาทีม ฟุตบอล ให้ดีขึ้น จากฟอร์มการเล่นฟุตบอล ปรีซีซั่นของแมนยู ทั้งสองนัดนั้น จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาการเล่นดีกว่าปีที่ผ่านมาขึ้นมาก และผู้เล่นทุกคนก็มีความมุ่งมั่นมากขึ้นไม่ว่าตัวจริง หรือ ตัวสำรองรวมถึงนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับโอกาส ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและมีอนาคตหลายคนข่าวกีฬาทั่วโลก ทำให้เราแฟนบอลมั่นใจได้ฤดูกาลแข่งขันที่จะมาถึง ทีมรักของตนเอง จะสามารถทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน และยังได้กองหลังตัวใหมามาเสริมทีมอีกด้วย  แต่ก็มีอีกอย่างหนึ่งที่แฟนบอลต้องทราบ ในการแข่งขันอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัดที่ผ่านมา จะมีลูกที่ได้ประตูที่เกิดจากความผิดพลาดของกองหลังทีมคู่แข่งเองอยู่หลายครั้ง และจากเกมที่ลงเล่น เมื่อเทียบศักยภาพของนักเตะแล้ว คุณภาพของนักเตะแมนยูจะเหนือกว่า โดยนัดแรกพี่ชนะลิเวอร์พูลมาได้นั้น เป็นการทำผิดพลาดของกองหลังดาวรุ่ง และทีมคู่แข่งก็ไม่ได้ใช้นักเตะตัวจริงลงมาทั้งหมด ส่วนใน นัดที่ 2  นักเตะของแมนยูมีคุณภาพฝีเท้า มากกว่าทีม เมลเบิร์นวิคตอรี่  อยู่หลายขุม จึงทำให้คิดไปได้ว่า ทีมนั้นยังไม่ได้เจอของจริง ไม่ได้เจอทีม ฟุตบอล ที่มีศักยภาพที่ใกล้เคียง หรือในระดับเดียวกัน และประตูที่ทำได้ ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความผิดพลาดของคู่แข่งเอง และเหล่าแฟนบอลทั้งหลายก็อย่าพึ่งนิ่งนอนใจ หรือ หลงระเริง ถึงจะทำประตูได้ถึง 8 ประตูก็ตาม เพราะยังมีความผิดพลาดให้เห็น และ ต้องพัฒนาทีมให้ดีขึ้นไปอีก ถ้าอยากจะลุ้นแชมป์ จริง ๆ “พรีเมียร์ลีก2022” ตารางแข่งขันอย่างเป็นทางการสเปอร์ส เร่งหารือสัญญาใหม่ “เคน” คาดเซ็นยาวถึงปี 2027 พร้อมเพิ่มค่าเหนื่อยบาร์เซโลน่า โหวตอนุมัติมาตรการหาเงิน หวังแก้วิกฤติหนี้สิน 1,000 ล้านยูโรบอสเนีย ชนะ ฟินแลนด์ 3-2

โรนัลโด้ จ่อฟันโบนัสก้อนโต หลังซัด “แฮตทริก” ใส่ นอริช เกม พรีเมียร์ลีก

โรนัลโด้ แฮตทริก

            โรนัลโด้ ซุปตาลูกหนังของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกเปิดเผยว่า เตรียมได้รับโบนัสก้อนโตเข้ากระเป๋า หลังซัด “แฮตทริก” ครั้งที่ 2 ของฤดูกาลนี้ ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ต้นสังกัดเปิดบ้านชนะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา โดยตามการเปิดเผยของสื่อเมืองผู้ดีระบุว่า ดาวเตะวัย 37 ปี อาจได้รับโบนัสเฉียด 1 ล้านปอนด์เลยทีเดียว โรนัลโด้ จ่อฟันโบนัส 850,000 ปอนด์ หลังซัด “แฮตทริก” ใส่ นอริช             เดอะ ซัน สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี รายงานว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หอกวัย 37 ปี ของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ข่าวกีฬาทั่วโลกอาจได้รับเงินโบนัสก้อนโตสูงสุดถึง 850,000 ปอนด์ หลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งกด “แฮตทริก” ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ต้นสังกัดเปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เฉือน “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ 3 – 2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา โดยในเกมนี้ ดาวเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย เหมาคนเดียว 3 ประตู ในนาทีที่ 7, 32 และ 76 ช่วยต้นสังกัดเก็บสามคะแนนสำคัญรักษาโอกาสติดลุ้นท็อป 4 เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า             ทั้งนี้ ตามรายงานเผยว่า การทำได้ถึง 3 ประตูในเกมดังกล่าว ทำให้โรนัลโด้ ยิงแตะหลัก 20 ประตู รวมทุกรายการในซีซันนี้ ซึ่งตรงกับเซ็นสัญญาที่เซ็นกันไว้ว่า หากทำได้ถึง 20 ประตู จะได้รับโบนัสจำนวน 750,000 ปอนด์ หรือประมาณ 32.8 ล้านบาท บวกโบนัสเพิ่มอีก 100,000 ปอนด์ หรือราว 4.3 ล้านบาท ในทุก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้เล่นที่มีโอกาสหลุดจากทีมหากได้กุนซือคนใหม่เข้ามา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศออกมาแล้วว่าพวกเขาจะแต่งตั้ง เอริค เทน ฮาก ซึ่งปัจจุบันเป็นกุนซือของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เข้ามาทำหน้าที่กุนซือคนใหม่ของทีมในฤดูกาลหน้า ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้มีนักเตะหลายคนในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะมีโอกาสหลุดจากทีม หากว่าเขาเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งก็ด้วยการที่แต่ละคนนั้นดูจะเป็นผู้เล่นที่มีปัญหากับทีม ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นก็มาดูกันเลย 3 ผู้เล่นที่มีโอกาสหลุดจากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า 1.แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปัจจุบันนั้นเขาเป็นกองหลังและกัปตันทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูจะมีปัญหาในเรื่องฟอร์มการเล่นมากที่สุด ซึ่งหลายเสียงก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับผลงานในสนามของเขา อีกทั้งในเรื่องของความเหมาะสมในการรับบทบาทเป็นกัปตันทีมข่าวกีฬาทั่วโลก ที่แทบจะไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เล่นในทีมเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมีโอกาสมากหากว่า เอริค เทน ฮาก เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมในฤดูกาลหน้า เขาอาจจะหลุดไปเป็นตัวสำรอง 2.ปอล ป๊อกบา สำหรับเขาก็เหมือนว่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายแล้วในสีเสื้อ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันนั้นดูเหมือนว่าเขาจะถูกแฟนบอลของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มุ่งเป้าว่าเป็นตัวปัญหา และมักจะโห่ใส่ทุกครั้งที่เขาลงสนาม จึงอาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาแล้วกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากว่าฤดูกาลนี้เขาจะหมดสัญญากับทีม 3.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเขาจะเป็นเดอะแบกของทีมก็ตาม แต่ก็ด้วยสิ่งที่เขามักแสดงออกในสนาม ที่มักจะทำให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกไม่ดีกับปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้น แม้เขาจะเป็นผู้เล่นที่ทุ่มเทมาก แต่ก็มักจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมเมื่อเกิดความผิดพลาด รวมไปถึงมักจะมีปัญหากับผู้จัดการทีมอีกด้วย ซึ่ง เอริค เทน ฮาก ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าถ้าหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการขาย โรนัลโด้ ก็สามารถทำได้เลยทันที เพราะโรนัลโด้ ไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมอยู่แล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับสถิติสุดยอดของเขาในการเจอ ตราหมี แอตเลติโก มาดริดแมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมทาบ “อกานยี่” ของ ดอร์ทมุนด์ เสริมทัพซัมเมอร์นี้นักเตะมืออาชีพ เลิกเล่นแล้วไปไหน ปลายทางจะเป็นอย่างไร?แมนฯ ยูไนเต็ด รอช้อน “รือดิเกอร์” จาก เชลซี หลังหมดสัญญาซัมเมอร์นี้

“เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” เตือนแมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนใจจากซูเปอร์ลีกซะ!!

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

                เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีการจัดตั้งการแข่งขัน “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ขึ้น โดยระบุสิ่งนั้นจะเป็นการทำลายวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง ทั้งฟุตบอลอังกฤษ และวงการฟุตบอลทั่วโลกจะได้รับผลกระทบไปด้วย พร้อมเผยไม่คิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดจะมีส่วนกับเรื่องนี้ โดยอยากให้ “ปีศาจแดง” เปลี่ยนใจจากเรื่องดังกล่าวซะ                 กลายเป็นประเด็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ขึ้นมาในชั่วข้ามคืนกับการก่อตั้ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก โดยบรรดายักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลยุโรปทั้ง 12 ทีม ประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี, อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน และยูเวนตุส จากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลนา จาก ลา ลีกา สเปน "เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ แต่อย่างไรก็ตามแนวคิดของทั้ง 12 ทีมถูกคัดค้านจากทั้ง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ), สมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า), สมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), รัฐบาลอังกฤษ และพรีเมียร์ลีก รวมถึงถูกวิจารณ์อย่างมากจากทั้งอดีตนักฟุตบอล และผู้จัดการทีม โดยเฉพาะเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้อย่างชัดเจน                 โดยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดเผยว่า “การก่อตั้งการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก จะเป็นการทำลายประวัติศาสตร์สวยงามของฟุตบอลยุโรปที่ผ่านมา 70 ปีทั้งหมด มันเป็นการหลีกหนีจากประวัติศาสตร์ที่มียาวนาน ในฐานะที่ผมเคยลงเล่นกับทีมท้องถิ่นอย่างดันเฟิร์มลินตอนยุค 60 และเคยพาอเบอร์ดีนคว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1983 ผมถือว่าการที่ทีมเล็กๆ ได้ไปยืนบนจุดสูงสุดของการแข่งขัน มันเปรียบเสมือนได้ปีภูเขาเอเวอร์เรสต์ยังไงยังงั้น และถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ทุกทีมตระหนักถึงเรื่องนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“กรีนวู๊ด” ซัดเบิ้ล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มเบิร์นลีย์

                เมสัน กรีนวู๊ด กองหน้าดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โชว์ฟอร์มสุดเฉียบยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยต้นสังกัดเปิดบ้านไล่ถล่ม เบิร์นลีย์ ที่กำลังหนีตกชั้นไปแบบขาดลอย 3 – 1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมจ่าฝูงที่ 8 คะแนน                 ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ โดยเจ้าบ้านฟอร์มกำลังร้อนแรงอีกครั้งชนะในลีกติดต่อกันมาแล้ว 4 นัดด้วยกัน ส่วนทีมเยือนกำลังดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก                 เริ่มครึ่งแรกมาเป็นเจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัด แต่ปัญหาคือเบิร์นลีย์ ลงไปตั้งรับจนลึกทำให้ แนวรุกของ “ปีศาจแดง” ยังไม่สามารถเจาะกำแพงได้ เลยเสมอกันอยู่ที่ 0 – 0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก "เมสัน กรีนวู๊ด" ที่วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเข้าไป!!                 ครึ่งหลัง โซลชา แก้เกมทันทีถอดเอา เฟร็ด ออกแล้วส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงเล่นแทน และเริ่มมาได้แค่ 3 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตะลุยขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจะจ่ายเข้าในเขตโทษให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโปรตุเกสปล่อยบอลลอดขาและเป็น เมสัน กรีนวู๊ด ที่วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเข้าไป                 เจ้าบ้านดีใจได้แค่แปบเดียว เพราะเบิร์นลีย์ ตามตีเสมออย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุมและเป็น เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ เบียดเอาชนะ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะโขกเข้าไปไม่เหลือ สกอร์กลับมาเป็น 1 – 1                 จากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกอย่างพายุบุแคมเพื่อเอาประตูขึ้นนำ และมาประสบความสำเร็จในนาที 84 จากผลงานของ ปอล ป๊อกบา ที่เปิดขวางมาให้กับ กรีนวู๊ด ก่อนที่ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษจะแตะเข้าเขตโทษและกดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับของทีมเยือนพุ่งเข้าประตูไป “ปีศาจแดง” นำ 2 – 1                 ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โซลชาร์ ลั่น อยากให้ “คาวานี่” อยู่แมนยูต่อฤดูกาลหน้า อยู่ต่อเลยได้ไหม!

โซลชาร์ อยากให้ “คาวานี่” อยู่ต่อ

            โซลชาร์ กุนซือคนดังของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ประจำเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้ “เอดินสัน คาวานี่” ดาวยิงประสบการณ์สูงวัย 34 ปี ค้าแข้งอยู่ใน “โรงละครแห่งความฝัน” ต่อไปในฤดูกาลหน้า หลังจากที่นักเตะยังเหลือสัญญากับทีมจนถึงช่วงซัมเมอร์นี้เท่านั้น  โดยเทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ ยืนยันว่า ตนและทีมงานกำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวให้ “เอล มาทาดอร์” ยอมต่อสัญญากับทีมก่อนจบฤดูกาลนี้ โซลชาร์ ลั่น อยากเห็น “คาวานี่” ลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนแฟนบอลเต็มสนาม!             โดย โซลชาร์ผู้จัดการทีมหน้าทารกของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันว่า ตนและทีมงานกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการต่อสัญญากับ “เอดินสัน คาวานี่” ยอดดาวยิงชาวอุรุกวัยที่ทำผลงานได้อยางยอดเยี่ยมในเกมที่ทัพ “ปีศาจแดง” บุกไปเชือด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3 – 1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยในเกมนี้ “เอล มาทาดอร์” ได้ลงสนามเป็นตัวจริง แถมยังมีโอกาสจบสกอร์ส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่ายได้สำเร็จ แต่กลับถูก VAR ปฏิเสธเป็นประตูเนื่องจากมีจังหวะฟาวล์ของ “สกอตต์ แม็คโทมิเนย์”  อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติอุรุกวัยยังคงรักษามาตรฐานกองหน้าตัวเป้าระดับโลกด้วยการมีส่วนช่วยให้ “เฟร็ด” ยิงประตูตีเสมอเป็น 1 – 1 ก่อนจะพุ่งโหม่งแบบเวิร์ลคลาสช่วยให้ทีมพลิกกลับมานำ 2 – 1             ทั้งนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ออกมาเปิดเผยว่า “ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เราอยากให้ คาวานี่ อยู่กับทีมต่อไป เขาก็กำลังทบทวนเรื่องนั้นอย่างหนัก แต่เขารู้ว่าเราต้องการเขาแค่ไหน ผมอยากเห็นเขาลงเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แล้วพุ่งโหม่งแบบนั้นต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่นที่อยู่เต็มอัฒจันทร์ด้าน สเตรทฟอร์ด เอนด์ ผมบอกได้เลยว่ามันไม่มีความรู้สึกอะไรสุดยอดไปกว่านี้อีกแล้ว”             ปัจจุบัน โซลชาร์กำลังพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการรั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เก็บได้ 63 แต้ม จากการลงเล่น 31 นัด แถมยังเพิ่งบุกไปเอาชนะ กรานาดา 2 - 0  ในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

โซลชาแจ้งเหตุ! ผีแพ้ไม่เกี่ยวกับดร็อป “บรูโน่ เฟอร์นันเดส”

บรูโน่ เฟอร์นันเดส

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนยู กล่าวเปิดเผยสาเหตุที่ดร็อป บรูโน่ เฟอร์นันเดส ออกจากสิบบเอ็ดคนแรก เพราะว่าต้องการจะพักนักเตะ หลังจากที่เกมนี้แมนยูไปเยือนและแพ้ต่อเลสเตอร์ 3-1 ในเอฟเอคัพ รอบควอเตอร์ไฟนัล เกมนี้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ยิงได้สองประตู และยูริ ตีเลอมันส์ ยิงบวกเพิ่มอีกหนึ่งลูกทำให้ทีมของ BR ผ่านเข้าไปพบกับคู่แข่งที่ไม่หินมากนักอย่างเซาแธมป์ตันในรอบรอง เฟอร์นันเดสซึ่งทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับยูไนเต็ดด้วยการยิง 23 ประตูและ 13 แอสซิสต์จาก 45 เกมในทุกรายการ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทนที่ของ ดอนนี่ ฟาน เดอเบคนาที 64 เมื่ออธิบายถึงการตัดสินใจที่จะออกจากเฟอร์นันเดสตั้งแต่ 11 คนแรก โซลชากุนซือขาวนอร์เวย์ กล่าวว่านักเตะวัย 26 ปีลงสนามเตะฟุตบอลมาหลายเกมในฤดูกาลนี้ โอเล่กล่าวว่า เขาเป็นคนปกติทั่วไป การที่ต้องลงสนามทุก 3-4 วันเป็นเรื่องยาก "ผมรู้ว่า บรูโน่ เฟอร์นันเดส อยากเล่น แต่บางครั้งคุณก็ตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของทั้งทีมและเขา" แน่นอนว่าเราผิดหวังที่ทีมต้องตกรอบ แต่อยากให้มองว่าเป็นเพราะเกมการเล่นมากกว่าไม่เกี่ยวกับการที่ทีมไร้บรูโน่ เฟอร์นานเดส ผมไม่ต้องการแก้ตัว แต่ผมต้องการชี้แจงว่า เรามีผู้เล่นสองสามคนที่กลับมา และยังไม่ได้ฝึกซ้อมมากนัก เราเสียประตูง่าย ๆ ที่ปกติเราไม่เคยเสียและมันยากที่จะกลับมา เมื่อคู่แข่งคือเลสเตอร์ ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์สผู้จัดการทีมเลสเตอร์ กล่าวว่าทีมของเขาตั้งเป้าที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นครั้งแรกหลังจากการชนะในวันอาทิตย์ทำให้พวกเขาเข้าใกล้รอบชิงชนะเลิศเข้าไปทุกขณะ เลสเตอร์แพ้รอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 4 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 1968-69 เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ต่อแมน ซิตี้ 1-0 และร็อดเจอร์สกล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่ทีมจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา ตอนนี้ร็อดเจอร์เชื่อว่าเราผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้แล้วก็ถือว่ามีความเป็นไปได้ที่จะผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้าย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นความปลาบปลื้ม คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สโมสร ถึงแม้จะเป็นรอบรองชนะเลิศแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และเราก็ทำให้เกิดขึ้นแล้ว! แต่สโมสรไม่เคยคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาก่อน หากว่าได้ชูถ้วย Fa cup จะนับว่าเป็นเรื่องที่พิเศษสุด เกมต่อไปของแมนยูคือเปิดสนามพบไบรท์ตัน คืนวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน และยูโรป้าลีกที่ออกไปเยือน กรานาด้า คืนวันพฤหัสที่ 8 เมษายน สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ufabet777 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “คาลัม แชมเบอรส์” ไอ้หนุ่มแดนใต้ กับอนาคตในลอนดอนเหนือ (Part.1)“อิกเฮนาโช่” กด 3 เม็ด นำ เลสเตอร์ ถล่มเชฟฯ ยูฯ ขาดลอยผู้จัดการทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” คุยลั่นทีมของเขาน่าจะชนะเอฟเวอร์ตันมากกว่านี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือน เบิร์นลีย์ ในศึกพรีเมียลีก ผงาดขึ้นจ่าฝูง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

                แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จหลังจากบุกไปเอาชนะ เบิร์นลีย์ อย่างสนุกด้วยสกอร์ 1 – 0 โดยได้ประตูชัยจาก ปอล ป็อกบา ในนาทีที่ 71 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา                 ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 17 เมื่อคืนวันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 16 ของตาราง เปิดสนาม “เทิร์ฟมัวร์” ต้อนรับการมาเยือนของรองจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะหรือเสมอในเกมนี้ได้พวกเขาจะแซงลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที เริ่มครึ่งแรกเป็นทีมเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดเกมบุกได้เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าเบิร์นลีย์เจ้าบ้าน                 แต่ในจังหวะสุดท้ายยังเป็น นิค โป๊ป และกองหลังเบิร์นลีย์คอยสกัดเอาไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตามในนาที 36 บรรดาสาวกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องดีใจกันเก้อจากจังหวะที่ ลุค ชอว์ เปิดบอลเข้ามาเสาไกลและเป็น แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โขกเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้เป็นประตูเพราะมอง แม็คไกวร์ ไปทำฟาวล์ เอริค ปีเตอร์ ในจังหวะที่ขึ้นโหม่ง ทำให้จบ 45 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจึงเสมออยู่กับ เบิร์นลีย์ ที่ 0 – 0                 ครึ่งหลังยังคงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่องจนสามารถขึงเกมบุกใส่ เบิร์นลีย์ อยู่ฝ่ายเดียวแต่สิ่งที่ขาดไปคือประตูขึ้นนำ จนกระทั่งนาที 71 ความพยายามของ “ปีศาจแดง” ก็มาสัมฤทธิ์ผลจนได้ จากจังหวะที่นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำเกมมาจากแดนกลางก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะเปิดบอลเข้ามาบริเวณเส้นกรอบเขตโทษและเป็น ปอล ป็อกบา ที่วอลเลย์แบบไม่จับบอลพุ่งผ่าน นิค โป๊ป เข้าไปอย่างสวยงาม                 จากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผ่อนเกมบุกปล่อยให้เจ้าบ้านได้บุกมาบ้างแต่ในจังหวะสุดท้ายแนวรุกของเบิร์นลีย์ ไม่เด็ดขาดเอง แถมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 เกือบจะต้องสังเวยประตูที่ 2 ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแต่ยังโชคที่ว่าในจังหวะสุดท้ายนั้น อองโตนี มาร์กซิยาล ยิงไปติดเซฟ นิค โป๊ป อย่างน่าเสียดาย                 จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาเอาชนะ เบิร์นลีย์ ไป 1