วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1

พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1

        ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ค่ำคืนวันเสาร์ ในส่วนนี้ขอพาไปที่เซาท์เฮิรท์พาร์ค คริสตัล พาเลซ ที่กำลังฟอร์มดี ต้องเปิดบ้านพบกับทีมน้องใหม่หน้าคุ้นเคยที่ชอบโชว์ของกับทีมใหญ่อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของเจ้าบ้านมาในระบบคุ้นเคยอย่าง  4-4-2 ส่วนทีมเยือนก็เช่นกันในระบบ 4-1-4-1            ลีดส์ ครองบอลเข้าใส่พาเลซ ตามสไตล์ของบิเอลซ่า แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ กระทั่งพาเลซ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุม ซึ่งไม่สามารถโทษใครได้เลยเพราะแนวรับยูงทองเองก็ยืนประกบชิดมากแล้ว แต่สกอตต์ แดนน์ ก็ยังโหม่งได้ อีกทั้งวิถีบอลยังย้อยเข้าสามเหลี่ยม หมดสิทธิ์สำหรับผู้รักษาประตูที่จะป้องกัน พาเลซ ขึ้นนำ 1-0 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ         การขึ้นนำ 1-0 ของเจ้าบ้านน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รูปเกมของลีดส์ ต้องเร่งเครื่องมากขึ้น อีกทั้งยังเข้าทางแท็กติกของพาเลซ ที่ขอเน้นรับแน่นๆ แล้วรอสวน แต่กลายเป็นว่าจังหวะแขนล้ำหน้าของแบมฟอร์ด คือจุดเปลี่ยนที่แท้จริงของเกม เพราะหากได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วก็จะทำให้การบุกของลีดส์ไม่ต้องรีบเร่งนัก แต่ถึงกระนั้นงานของลีดส์กลับหนักขึ้นเมื่อเจอลูกฟรีคลิกที่ยิงเช็ดคานเข้าไปเป็น 2-0         ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ลีดส์ ตีตื้นเป็น 2-1 จากการเข้าทำเร็ว แต่หลังจากนั้นลูกทีมของบิเอซ่าก็เล่นแบบเดิม คือเซตบอลไปมาจนเสียบอลให้พาเลซโต้ ก่อนจะมาโดนลูกยิงทิ้งห่าง 3-1 ซึ่งจังหวะดังกล่าวอาจมองได้ว่าโชคร้าย แต่ในอีกมุมผู้รักษาประตูอย่างเมส์ลิเยร์ ก็มีส่วนผิดพลาดจากความประมาทและปฏิกิริยาที่ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ทำให้กลับตัวมาควักบอลออกจากเสาแรกไม่ทัน         ครึ่งหลัง เริ่มเห็นได้ชัดแล้วว่าผู้เล่นลีดส์ โชว์ฟอร์มโหดไม่ออกเลย เพราะได้แต่เซตบอลไปมา ซึ่งไม่มีประโยชน์ แถมยังไม่สามารถสร้างจังหวะยิงประตูได้ ตรงข้ามกับพาเลซ ที่บุกน้อยแต่ได้ยิงแบบมีลุ้น จนขึ้นนำ 4-1 เกมจึงแทบจะจบนับตั้งแต่นาทีที่ 70 อีกทั้งสถานการณ์หลังจากนั้นยังย่ำแย่ จากการที่แนวรับประกบหลวมจนจะโดนลูกที่ 5 อยู่บ่อยครั้ง                 บทสรุปเกมนี้ ฝั่งเจ้าบ้านอย่างพาเลซเล่นเกมรับได้ดี เมื่อมีโอกาสบุกสามารถยิงประตูได้แถมมีโชคเข้าข้างเล็กน้อย ส่วนลีดส์ เกมนี้ฟอร์มหลุดอีกครั้ง เกมรุกเล่นกันช้าและมากจังหวะเกินควร ทำให้ไม่สามารถเจาะแผงเกมรับเจ้าบ้านได้ ซึ่งการเล่นเร็วและน้อยจังหวะที่ควรนำมาใช้ในเกมนี้กลับทำได้ไม่กี่ครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้พ่ายแพ้วันนี้ นอกเหนือจากความโชคร้าย     สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “ไรซ์” หวังย้ายสู่ สิงห์บลูส์ คว้าโทรฟี่เพื่อความสมบูรณ์แบบ“ดาบิด บีย่า” ฉาว! หลังถูกเด็กฝึกงานแฉแอบแต๊ะอั๋งสมัยค้าแข้งที่อเมริกาวิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 8 ไบรท์ตัน เจ๊าจืด เบิร์นลีย์ 0-0

“ออร์ต้า” ยกย่อง “ฟิลลิปส์” เป็นไอคอนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด

"ออร์ต้า" ยกย่อง "ฟิลลิปส์"

วิคเตอร์ ออร์ต้าผู้อำนวยการทีมฟุตบอลของลีดส์ ยูไนเต็ดกล่าวชื่นชม คาลวิน ฟิลลิปส์ หลังจากที่เขากลับมาจากอาการบาดเจ็บในเกมยิงประตูกับอาร์เซนอลในวันอาทิตย์ มิดฟิลด์วัย 24 ปีผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของภาพจิตรกรรมฝาผนังจากศิลปิน Akse P19 กลับมาที่ฝั่งคนผิวขาวหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ไหล่มาหลายสัปดาห์ ออร์ต้า กล่าวว่า“ มันน่าประทับใจมากเพราะ คาลวิน เป็นสัญลักษณ์ของสโมสรของเราในช่วงเวลานี้ ตอนนี้มันเป็นเขามีรูปวาดบนกำแพง ผมหวังว่าสำหรับเขาและสำหรับครอบครัว มันสร้างอารมณ์ได้มากจริงๆ "ฟิลลิปส์" ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยบอกว่าไม่มีข้อเสนอจากพรีเมียร์ลีก เขาเป็นสัญลักษณ์ของทีมเราทั้งหมดและเขาเป็นตัวแทนของพวกเขาในช่วงเวลานี้  สโมสรแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติอังกฤษคนใหม่อย่างคาลวิน ฟิลลิปส์ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยบอกว่าไม่มีข้อเสนอจากพรีเมียร์ลีกเมื่อหนึ่งปีที่แล้วและตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกัน คอร์เบอรัน อธิบายว่าทำไมเขาถึงออกจากลีดส์ คาร์ลอส คอร์เบอรานผู้จัดการทีมฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์อธิบายเหตุผลที่เขาเลือกที่จะออกจากลีดส์ในช่วงซัมเมอร์ กุนซือชาวสเปนใช้เวลา 3 ปีที่สโมสรโดยดูแลชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีและทำงานเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ แต่ถึงแม้เขาจะชื่นชม มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ที่ปรับเปลี่ยนลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นอีกทีมไปเลย คอร์เบอรานได้ตัดสินใจที่จะรับความท้าทายใหม่โดยไปคุมทีมฮัดเดอร์สฟิลด์ คอร์เบอรานกล่าวว่า เราได้กลับมาสู่พรีเมียร์ลีกแล้ว ผมทำงานร่วมกับโค้ชอย่าง Marcelo สำหรับสโมสรที่มีแฟนบอลอย่างลีดส์ แล้วทำไมต้องเปลี่ยน ผมอยากเป็นโค้ชมาตลอด คุณเข้าใจด้วยว่าหากคุณต้องการเติบโตต่อไปทุกขั้นตอนจะต้องสิ้นสุดลงในบางจุด วิคเตอร์ ออต้า กล่าวว่าผมได้รับโอกาสที่ดีและผมต้องการตอบแทนพวกเขาอย่างดีที่สุด ในวงการฟุตบอลการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้คนที่เชื่อมั่นในตัวคุณเป็นพื้นฐาน  ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสโมสรที่คุณอยู่มิฉะนั้นคุณจะเสี่ยงต่อการประเมินมูลค่าสิ่งที่คุณมีก็ต่อเมื่อคุณสูญเสียมันไป ดังนั้นคุณต้องพยายามตัดสินใจที่จะออกไปตามเงื่อนไขของคุณเองและอย่าให้คนที่จ้างคุณไปอยู่ที่นั่นอีก เกมที่แล้วลีดส์ทำไดแค่เสมออาร์เซนอลที่มีสิบคน 0-0 และเขาอยู่อันดับที่ 14  ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก มี 11 แต้มเมื่อผ่านไป 9 เกม สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ ปีศาจแดงอาจได้ “เตเลส” และ “ตวนเซเบ้” ลงสนามบู๊ WBA“โควัช” แฮปปี้แข้ง โมนาโก คว้าพลิกคว้าชัยเหนือเปแอสเชอยากให้ไปแขวนสตั๊ดทีมไหน! “เป๊ป” เผยฝันอยากร่วมงานกับดาวยิงอีกครั้ง

ตัดเกรด! แข้งทีมน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด เกมเยือนชนะพาเลซ 1-0

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ลีดส์ ทีมน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์เก็บชัยชนะได้อีกแล้ว เมื่อเป็นฝ่ายชนะทีมเจ้าบ้านเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดได้ โดยเกมนี้ต้องชมอิลลาน เมสซิเยอร์ ที่เซฟจังหวะทำประตูของ จอห์น ลุนสตอร์มและจอร์จ บัลด๊อกได้ ซึ่งเขาเล่นด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมากทำให้ได้คะแนนความสามารถถึง 9 เลย ตัดเกรดในคะแนนเหล่าแข้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด 2 ลุค ไอลิง – 7  เคลียร์บอลออกจากแดนหลังได้สำเร็จหลายครั้ง อ่านการโจมตีของเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดได้หลายครั้ง และตัดบอลก่อนที่บอลจะเข้าถึงกรอบเขตโทษได้ นับว่าเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว และมีจังหวะที่เขาจ่ายบอลให้สจ๊วร์ต ดัลลาสเข้าไปยิงประตูด้วย 5 โรบิน คอช ได้ 8 ชนะการดวลลูกโหม่งมากมายและต้องสู้กับนักเตะคู่แข่งที่ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น ซึ่งเขาก็เข้าบอลแบบไม่กลัวเจ็บเลย  และพยายามจับบอลในจังหวะอันตรายแบบไมร้อนรน แม้ว่ากุนซือมาร์เซลโล่ บิเอลซ่าต้องการให้เขาเคลียร์บอลออกไปมากกว่าที่จะครองบอลอยู่กับตัว 6 เลียมคูเปอร์ กัปตันทีม ได้คะแนนความสามารถ 7 เป็นนักเตะที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ โอลิเวอร์ เบิร์ก และ เดวิด แมคโกดริกของเจ้าบ้าน 23 คาลวิน ฟิลลิปส์ - 7 ตัดบอลได้ก่อนที่จะถึงพื้นที่อันตรายได้บ่อยครั้ง แต่ว่าไม่มีโอกาสในการพาบอลขึ้นด้านหน้าเท่าไหร่นัก 17 เอลเดอร์ ปอสติก้า – 7 พยายามชี้นิ้วสั่งการเพื่อนร่วมทีม เป็นตัวคุมจังหวะของเกมได้ดีมาก เบอร์ 43 มาร์เตอุส คลิช 6 ประกบนักเตะของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดได้ดี และมีส่วนร่วมในเกมโต้กลับได้อย่างยอดเยี่ยม 15 สจ๊วร์ต ดัลลัส 8 เล่นได้หลายตำแหน่งมาก โดยเล่นกองหกลางในครึ่งแรก และฟูลแบ๊กในครึ่งหลัง เล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม, สกัดกั้น, โหม่งและส่งบอลจากแดนหลัง โจมตีได้ดีเช่นกันแม้ว่า บังคับให้เซฟได้ดีในครึ่งแรกและจากนั้นก็ยิงเคลียร์นอกเส้นในวินาที เขาเป็นนักเตะที่มีความฉลาดในการเล่นบอลสูง 22 แจ็ค แฮร์ริสัน – 6 อีกเกมที่เงียบสำหรับปีกซ้ายรายนี้ มีส่วนร่วมมากกว่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรจดจำเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาเป็นคนที่จ่ายบอลให้แบมฟอร์มยิงประตูได้อย่างสวยงาม 11 ไทเลอร์โรเบิร์ต – 5 เล่นได้ไม่เหมือนที่ลงสนามให้ทีมชาติเวลส์ ดูแล้วเล่นได้ธรรมดามาก ตั้งแต่เริ่มเกม ดูแล้วยังเล่นได้ไม่ดีทั้งยามที่มีบอลและไม่มีบอล 9 แพทริค แบมฟอร์ด – 7 ยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม แต่กว่าจะยิงประตูได้ก็ต้องรอถึงช่วงท้ายเกม นักเตะมีความมั่นใจสูงมากลีดส์เก็บได้ 6 แต้มจากการลงสนาม 3 เกมไม่เลวทีเดียว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “คาร์ราเกอร์” ชื่นชมฟอร์ม “ฟาบินโญ่” ช่วยหงส์ประหยัดงบซื้อกองหลังใหม่คุยหลังเกม 3 ประเด็น ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่าย คริสตัส พาเลซ 1-3ไก่สน เบล ไหม? ราชันชุดขาวยื่นข้อเสนอยืมแข้งพร้อมช่วยค่าเหนื่อย

ลิเวอร์พูล สุดคึกพร้อมลงป้องกันแชมป์ลีก กับยูงทอง เป็นนัดแรก

ลิเวอร์พูล ลีดส์

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2020/21 ที่ทีมแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดสนามรับการมาเยือนของทีมยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์หวังที่จะรักษาแชมป์พรีเมียร์ลีกเอาไว้ให้ได้ต่ออีกหนึ่งปี ส่วนลีดส์ก็เตรียมพร้อมสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ทีมอย่างเต็มที่ โดยมีจำนวนเกม 38 เกมรออยู่ในรอบหนึ่งปีข้างหน้า แม้ว่าลิเวอร์พูลจะแพ้ในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์จากการดวลลูกโทษกับอาร์เซนอลเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เพียงแต่ว่านั่นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นยังมีอะไรให้เราได้สนุกตื่นเต้นอีกมากมาย ฤดูกาลที่ผ่านไปก็ถือว่าไม่มีอะไร ทุกทีมต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งหันใหม่อีกครั้ง ส่วนทางด้านลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นทีมน้องใหม่ที่ขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 16 ปี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวอาร์เจนตินา มาร์เซลโล่ บิเอลซ่า ส่วนหงส์แดงจะออกสตาร์ทนับหนึ่งใหม่เป็นการป้องกันแชมป์จากเมื่อซีซั่นที่แล้ว ที่เกมแรกสามารถเอาชนะ นอริช ซิตี้ได้ 4-1 เมื่อช่วงเปิดฤดูกาล และใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ ลิเวอร์พูล ได้ลงสนามช่วงเกมปรีซีซั่นเพียงสามเกมเท่านั้น และได้เปิดฤดูกาลทันที ซีซั่น 2020/21 นี้เป็นฤดูกาลที่แตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ ที่มีเรื่องของพิษไวรัสโคโรน่าระบาด ทำให้วงการฟุตบอลทั่วโลกต้องมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันหมด ลิเวอร์พูลจะมาลงเล่นในระบบ 4-3-3 ที่แฟนบอลคุ้นตาแน่นอน เพราะว่าการมีหน้าเป้าสามคนทำให้พวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว กุนซือชาวเยอรมัน วางแผนการเล่นที่ระบบ 4-3-3 ซึ่งฟูลแบ๊กจะเข้ามามีบทบาทต่อเกมรุกเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะกว่า 5 ตำแหน่งจากเกมที่ชนะแบล๊คพูล ในเกมนัดกระชับมิตรล่าสุด โดยเกมนั้นผู้เล่นต่างไปเล่นเกมทีมชาติพอดี อลิสซง เบคเกอร์เป็นผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งของทีมเช่นเคย ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนลด์, โจโกเมซ, เฟอร์จิลฟานไดจ์ค และ  แอนดี้ โรเบิร์ตสันจะลงสนามในแผงหลังสี่คน กองกลางสามคนคาดเดาได้ยากมาก แต่เชื่อว่าคล็อปป์น่าจะจัด นาบี้ เกอิต้า, ฟาบินโญ่และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ลงสนามเพื่อให้ทีมเกิดความสมดุลในเกมอย่างมาก สามกองหน้าก็เป็นกองหน้าชุดเดิมคือ ซาดิโอ มาเน่ ที่มีข่าวจะย้ายไปเล่นกับนายเก่า โรนัลด์ คูมัน,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Vegus688 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล หลายคนไม่รู้จัก! “อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ” เป็นใคร ทำไม “แลมพาร์ด” ถึงต้องการตัวอาร์เซนอล ขายนักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศษ “เกนดูซี่” ไม่ออก“เอ็มบั๊ปเป้” บอก ปารีสฯ จะต้องเริ่มใหม่ เพื่อไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

สงครามกุหลาบ – ตำนานเล่าขานของ ปีศาจแดง กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ตอน 2)

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ด้วยเหตุเริ่มต้นมาจากเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ในยามที่ทั้งสองสโมสรมีโอกาสได้ลงปะทะกันเมื่อไร ก็มักจะถูกจับ ‘สุมไฟ’ โยงความแค้นเป็นดังฟืน เข้าไปในกองไฟในสงคราม จนเป็นที่มาของ ‘สงครามกุหลาบ’  ในวงการฟุตบอลไปโดยปริยาย ซึ่งในการเจอกันระหว่าง ‘ปีศาจแดง’ กับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ จึงได้รับความสนใจจากแฟนบอลของทั้งคู่ ในการเข้ามาดูสงครามที่ทั้งสองทีมใส่ ‘สตั๊ด’ แทนดาบ ลงสนามรบห้ำหั่นกัน  เมื่อแฟนบอลรุ่นเยาว์ในยุคนี้ได้ยินชื่อของ ลีดส์ ยูไนเต็ดก็คงจะเคยเห็นแค่ว่าเป็นทีมที่วนเวียนอยู่ในลีกรองของประเทศอังกฤษ และแม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงความยิ่งใหญ่ผ่านหูมาบ้าง แต่ก็คงจะนึกไม่ออกว่าทีม ๆ นี้ เคยยิ่งใหญ่เพียงใดในอดีต ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ ไม่ใช่ทีมที่มีชื่อเสียงในฐานะแค่ว่าเป็นอริกับปีศาจแดงเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาก็เคยเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่โลดเล่นอยู่บนลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างยาวนาน ต่อสู้แย่งแชมป์กับทีมใหญ่ทีมอื่นอยู่ตลอด และแชมป์ลีกสูงสุดก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1991/92 ก็เป็น ลีดส์ ยูไนเต็ดทีมนี้ที่คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ส่วนในฟุตบอลยุโรปที่ใหญ่ที่สุดอย่าง ‘ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก’ พวกเขาก็เคยไปไกลที่สุดถึงรอบรองชนะเลิศในปี 2001 อีกด้วย โดยเรื่องความสำเร็จในวงการลูกหนังนั้น ทั้งสองทีมก็ชิงดีชิงเด่นกันมาหลายยุคหลายสมัย โดยฤดูกาล 1964/65 ‘ปีศาจแดง’ ที่กุมบังเหียนโดย ‘เซอร์ แมตต์ บัสบี้’ ได้มาเจอกับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ ที่คุมทัพโดย ‘ดอน เรวี่’  ในศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ ฮิลล์สโบโร่ "ลีดส์ ยูไนเต็ด" ไปวางมวยกับ "เดนนิส ลอว์" แม้จะจบเกมด้วยสกอร์ต้มจืด ยิงกันไม่ได้สักลูก  แต่ไฮไลท์ความเดือดในเกมนั้นไปอยู่ที่จังหวะที่ ‘แจ็คกี้ ชาร์ลตัน’ เซ็นเตอร์แบคของ ลีดส์ ยูไนเต็ดไปวางมวยกับ ‘เดนนิส ลอว์’ ของยูไนเต็ด และจากผลเสมอในเกมนี้ ทำให้ต้องไปเตะนัดรีเพลย์ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ‘ยูงทอง’ ที่เป็นฝ่ายชนะเข้ารอบชิงชนะเลิศไป  นอกจากนั้น ความแค้นในตลาดซื้อขายก็ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสงครามกุหลาบนี้ เพราะตำนานของปีศาจแดงหลาย ๆ คนอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์, เอริค คันโตน่า รวมถึง อลัน สมิธ ก็ขโมยมาจากคู่ปรับอย่าง ลีดส์ ทั้งสิ้น ไหนจะยังมีประเด็นบาดหมางส่วนตัวรายคู่ ไม่ว่าจะเป็นคู่ของ ‘รอย คีน’ กับ ‘อาล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์’ ที่ฝ่าย รอย คีน ได้รับบาดเจ็บ แต่ถูก ฮาแลนด์ กล่าวหาว่าสำออย ก่อนที่ รอย คีน จะไปเอาคืนในเกมต่อมา โดยการเสียบขาคู่ใส่ ฮาแลนด์ จนขาหัก จนเกือบต้องแขวนสตั๊ด ไหนจะยังมีคู่ของ ‘ร็อบบี้

สงครามกุหลาบ – ตำนานเล่าขานของ ปีศาจแดง กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ตอน 1)

ปีศาจแดง

หากย้อนกลับไปพูดถึงความบาดหมางระหว่างสโมสรของ ‘ปีศาจแดง’ แมนฯ ยูไนเต็ด แฟนบอลในยุคปัจจุบันก็คงนึกถึงแต่ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล หรือเพื่อนบ้านน่ารำคาญอย่าง ‘แมนฯ ซิตี้’ ที่เพิ่งจะมามีปากมีเสียงจากการเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนจากซาอุ หรือหากย้อนไปหน่อยก็อาจจะนึกถึง ‘อาร์เซนอล’ ที่นำโดยสองแม่ทัพอย่าง ‘รอย คีน’ และ ‘แพทริค วิเอร่า’ แต่หลังจากหมดยุคของสองตำนานดังกล่าว ความระอุในสนามก็ค่อย ๆ จางตามไปด้วย นอกจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งทีมที่แฟนบอลสมัยใหม่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ว่านอกจากทีมข้างต้นแล้ว ปีศาจแดงยังเคยมีอดีตที่เป็นศัตรูคู่แค้นกับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ แถมเรื่องราวความบาดหมางไม่ได้เกิดมาจากการชิงดีชิงเด่นกันในสนามเท่านั้น แต่ยังอิงมาจากประวัติศาสตร์จริงอีกด้วย และในฤดูกาลหน้านี้ทีม ‘ยูงทอง’ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็สามารถกระเสือกกระสนฝ่าอุปสรรคขวากหนามขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษได้อีกครั้ง นั่นหมายถึงการกลับไปเจอกันอีกครั้งกับอริอย่าง ยูไนเต็ด และเพื่ออรรถรสในการรับชมฟุตบอลของแฟนบอลสมัยใหม่ที่ยังไม่เคยทราบเรื่องราว บทความนี้จะพาย้อนไปถึงตำนานความบาดหมางของอดีตสองทีมที่เคยยิ่งใหญ่ในยุคอย่าง ‘แมนฯ ยูไนเต็ด’ และ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘สงครามกุหลาบ’ นั่งไทม์แมชชีนกลับไปในช่วงปี 1455 -1485 เวลานั้น แดนผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษ ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จากการทะเลาะกันของตระกูลราชวงศ์ ‘แพลนทาเจนเนต’ แห่งราชสกุล ‘แลงคาสเตอร์’ ที่ครองแผ่นดินอยู่ในตอนนั้น นำโดย ‘พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6’ ซึ่งมีสัญลักษณ์ประจำตระกูลเป็น ‘กุหลาบแดง’ และไม่ลงรอยกับ ‘ริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์ค’ แห่งราชสกุล ‘ยอร์ค’ โดยมีสัญลักษณ์ของตระกูลเป็น ‘กุหลาบขาว’ นี่คือที่มาเริ่มต้นของ ‘สงครามกุหลาบ’ ‘ริชาร์ด’ ได้อ้างสิทธิ์ในการครองบัลลังก์ของ ‘พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6’ โดยอ้างว่า ‘ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์’ ผู้เป็นบิดาของพระเจ้าเฮนรี่ ได้เป็นบุคคลวิกลจริต โดยต่างฝากต่างก็คิดว่าตนคือผู้ที่มีสิทธิ์ และสุดท้าย เมื่อความเห็นไม่ลงรอย จากความบาดหมาง ก็ค่อย ๆ ก่อตัวเป็น ‘สงคราม’ ในเวลาต่อมา และหลังจากรบราฆ่าฟันกันมาอย่างยาวนาน ทางฝั่งของ ‘ยอร์ค’ ก็เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ และได้บังลังก์มาครองอย่างสมใจหมาย แต่เก้าอี้ร้อนที่ปล้นเค้ามานั้น ก็อยู่ได้แค่ 3 แผ่นดิน ก่อนจะถูก ‘เฮนรี่ ทิวดอร์’ จากราชวงศ์ ‘แลงคาสเตอร์’ มาช่วงชิงคืนไป และได้อภิเษกสมรสกับ ‘เอลิซาเบธ แห่งยอร์ค’ รวมสองตระกูลเป็นทองแผ่นเดียวกัน หลังจากที่ได้ก่อตั้งราชวงศ์ ‘ทิวดอร์’ ขึ้นมาเป็นราชวงศ์ใหม่ "ปีศาจแดง" ที่มี สีแดง เป็นสีประจำสโมสร                 และหากย้อนกลับไปพูดถึงเรื่อง ‘ฟุตบอล’ ในช่วงที่ตีรันฟันแทงกันอยู่นั้น ทีมอย่าง ปีศาจแดงแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี ‘สีแดง’ เป็นสีประจำสโมสร และยังมีรากฐานที่ตั้งอยู่ในแคว้น ‘แลงคาเชียร์’