You are here
Home > Search Results for "%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5" (Page 5)

“คาร์ราเกอร์” ชื่นชมฟอร์ม “ฟาบินโญ่” ช่วยหงส์ประหยัดงบซื้อกองหลังใหม่

ฟาบินโญ่

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ออกโรงชื่นชม ฟาบินโญ่ กองกลางสารพัดประโยชน์ว่าสามารถเล่นกองหลังจน "หงส์แดง" ไม่ต้องใช้เงินซื้อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ โดย ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าต้องการผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ หลังปล่อยตัว เดยัน ลอฟเรน ไปให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทำให้ในปัจจุบัน "หงส์แดง" เหลือผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางในทีมชุดใหญ่เหลือเพียง 3 คน ประกอบด้วย เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ซึ่งหลายคนมองว่าไม่น่าเพียงพอกับการลงเล่นในซีซั่นนี้ซึ่งต้องแข่งขันถึง 4 ถ้วย ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงกระนั้นในเกมกับ เชลซี เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกชนะ เชลซี 2-0 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "หงส์แดง" ต้องส่ง ฟาบินโญ่ ซึ่งเดิมทีเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับถอยลงไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เนื่องจาก โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ได้รับบาดเจ็บก่อนเกมกันทั้งคู่ โดย ฟาบินโญ่ ถูกมองว่าจะเป็นจุดอ่อนของทีมในเกมดังกล่าว ถึงกระนั้นเรื่องนี้กลับผิดคาดเพราะแข้งทีมชาติบราซิลเล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางได้อย่างยอดเยี่ยม และเอาชนะแนวรุกของ เชลซี อย่าง ติโม แวร์เนอร์ และไค ฮาแวร์ทซ์ ได้อย่างอยู่หมัด ทำให้ "ดิ แอธเลติก" สื่อสหรัฐ เปิดเผยว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่ซื้อตัวกองหลังรายใหม่แล้ว แม้จะมีข่าวอย่างหนักกับ โอซาน คาบัค ดาวเตะจาก ชาลเก้04 เนื่องจากเชื่อว่า ฟาบินโญ่จะสามารถเป็นเซ็นเตอร์รายที่ 4 ของทีมได้ และจะดัน บิลลี่ คูเมติโอ้ กองหลังดาวโรจน์มาเป็นกองหลังคนที่ 5 ในทีมชุดใหญ่ โดยล่าสุด เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของ ลิเวอร์พูล ออกมาชื่นชม ฟาบินโญ่ว่ามีความสามารถจนช่วยทีมประหยัดงบในการซื้อนักเตะใหม่ "ลอฟเรน ย้ายจากทีมไป มาติป เอาแน่เอานอนเรื่องความฟิตไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างจาก โจ โกเมซ ทำให้มีแต่คนบอกว่า ลิเวอร์พูล ต้องหาผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเพิ่ม" "อย่างไรก็ตาม ฟาบินโญ่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากๆในเกมล่าสุด โดยสาเหตุคงเป็นเพราะว่าเขาคือผู้เล่นกองกลางตัวพักบอล ทำให้เข้าใจธรรมชาติของเกมเป็นอย่างดีเหมือนกับ แฟร์นันดินโญ่ ของ

ลาแล้ว อาร์เซนอล “มาร์ติเนซ” ย้ายไปอยู่กับ แอสตันวิลล่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์

มาร์ติเนซ

ถือว่าเป็นตัวอย่างอีกหนึ่งความอดทนอดกลั้น และพยายามต่อสู้ในเวทีการค้าแข้งอาชีพอย่างดีเยี่ยมอีกคนหนึ่งนั่นก็คือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูอันดับ 2 ของทีมฟุตบอลปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่รอคอยโอกาสแสดงฝีมือมานานกว่า 10 ปี ในทีมอาร์เซนอลทีมนี้ ก่อนที่ มาร์ติเนซ จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือในฐานะผู้รักษาประตูติดต่อกันยาวหลายนัดแทน แบรนด์ เลโน ผู้รักษาประตูตัวจริงอันดับหนึ่งของทีมอาร์เซนอล เกิดอาการบาดเจ็บในระหว่างเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษในช่วง เดือน มิถุนายน  2020 ที่ผ่านมา ทำให้ มาร์ติเนซ ต้องรับหน้าที่ผู้รักษาประตูตัวจริงยาวนานหลายนัดนับแต่นั้นมาจนสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขัน และจบลงตรงที่ทีมอาร์เซนอล สามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพฤดูกาลที่ผ่านมาได้สำเร็จ แถมด้วยการเอาชนะทีมฟุตบอลหงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลที่ผ่านมา ในเกมการแข่งขัน คอมมูนิตี้ชิลด์ อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ของ มาร์ติเนซ นั่นก็คือ แม้ว่าเขาจะทำผลงานการแข่งขันได้ดีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ฝ่ายผู้บริหารของทีมอย่างจะให้โอกาสเขาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของทีมต่อไปหรือไม่เมื่อเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่และผู้รักษาประตูมา 1 ตัวจริงของทีมหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว โดย มาร์ติเนซ ก็มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า มีทีมฟุตบอลหลายทีมต้องการได้ตัวเขาไปร่วมทีม และติดต่อขอซื้อตัวมาในช่วงซัมเมอร์ 2020 นี้ แต่ "มาร์ติเนซ" ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะยังอยากอยู่กับทีมอาร์เซนอลต่อไป หากแต่ถ้าไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควรเขาก็อาจจำเป็นเลือกตัวเลือกที่เป็นเส้นทางที่ดีกว่าสำหรับตนเอง ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าทางฝ่ายผู้บริหารของอาร์เซนอลจะตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกเก็บใครเอาไว้นั่นก็คือการคืนตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงให้กับ แบรนด์ เลโน ที่หายจากอาการบาดเจ็บแล้ว กลายมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงในคืนวันที่ 12 กันยายน 2020 ที่ทีมอาร์เซนอลเดินทางไปเรียนบ้านของทีมฟุตบอลฟูแล่มในนัดเปิดสนามฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมา มันจึงทำให้มาร์ติเนซตัดใจได้เสียที และเลือกทำให้ดีกว่าโดยมีข่าวออกมาว่าผู้รักษาตัวคนนี้กำลังจะย้ายไปอยู่กับทีมสิงโตผงาด แอสตันวิลล่า ดูราคาค่าตัวที่ประมาณ 20 ล้านปอนด์ และได้มีการตรวจร่างกายการไปเรียบร้อยแล้วในวันเสาร์ที่ผ่านมา ปิดฉากตำนานผู้รักษาประตูขัดตาทัพแห่งทีมอาร์เซนอลในช่วงท้ายฤดูกาล 2019-2020 ในแบบนี้เอง สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufabet72 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล [บทวิเคราะห์]เจาะลึก 3 จุดแข็งของ “จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม” ที่ บาร์ซ่า อยากได้ตัวขอพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด! “เฟร็ด” เผยเส้นทางค้าแข้งไม่หวั่นแม้ผีมีตัวดีลิเวอร์พูล สุดคึกพร้อมลงป้องกันแชมป์ลีก กับยูงทอง เป็นนัดแรก

คนนี้แหละเจ๋งที่สุด “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” ถูกซูฮกเป็นเเข้งที่ทุกทีมควรคว้าตัว

ทีมลิเวอร์พูลสามารถเป็นแชมป์ในถ้วยพรีเมียร์ลีกสมัยล่าสุดได้สำเร็จ เป็นการลบล้างอาถรรพ์ที่รอมานานถึง 30 ปี และในการคว้าแชมป์ครั้งนี้ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากผู้เล่นในทีมทุกคนที่โชว์ฟอร์มการทำผลงานได้อย่างเป็นเลิศ และอีกหนึ่งนักเตะที่โดดเด่นโชว์ฟอร์มความแข็งแกร่งทะลุสนามนั่นก็คือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิงฝีตีนเฉียบ ว่าเป็นนักเตะที่เจ๋งที่สุดในเวลานี้และทีมต้นสังกัดคงจะดึงตัวเขาไว้อยู่ค้าแข้งกันนาน ๆ อย่างแน่นอน สื่อข่าวกีฬาต่างประเทศรายงาน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิงฝีตีนเฉียบ ทีมหงส์แดง ฟีร์มีโน่ ดาวยิงฝีตีนเฉียบ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลสโมสรแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นกำลังสำคัญหลักที่พาทีมคว้าถ้วยแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ จนไม่ว่าใคร ๆ ก็ตามออกมากล่าวแสดงความชื่นชมในตัวเขาแม้แต่บรรดานักเตะทีมคู่แข่งยังต้องยกว่านอกจากจะมีฝีเท้าที่เฉียบคมเเล้วยังมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน จึงถูกยกให้เป็นนักเตะที่ควรค่าแก่ทุกทีมจะเซ็นสัญญา  “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งมาก ๆ จนผมต้องยอมรับและมีสไตล์การเล่นที่ดุเดือด หลายครั้งที่ผมส่งบอลให้เขา เขาจะต่อบอลของผมจนทำประตูได้สำเร็จมันน่าทึ่งจริง ๆ ไม่ใช่นักเตะทุกคนจะมีไหวพริบและมีพรสวรรค์ชั้นเลิศขนาดนี้” เพื่อนร่วมทีมกล่าวยกย่องแข้ง “การที่ทีมสามารถคว้าแชมป์ได้นั้นเพราะนักเตะทุกคนทีมเรายอมที่จะทุ่มเททำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับการเล่นของเขาที่เราทุกคนต่างก็เห็นผลงานกันดี เขาเต็มที่อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะตอนฝึกซ้อมหรือตอนลงเล่นในสนาม เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าเคารพและผมยกย่องในความสามารถของเขา” กุนซือใหญ่กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ตกลงกันได้เสียที! ต้นสังกัดแข้ง “ซานโช่” ขานหน้ารับสัญญาฉบับใหม่พัฒนาทีม! “อาร์เตต้า” เล็ง 3 แข้งยกระดับอาร์เซน่อลซีซั่นหน้าคนในทีมเผย!กุนซือใหญ่เป็นเหตุผลสำคัญ “โอบาเมยอง” ล้มเลิกย้ายรัง

สุดยอดลูกผู้ชาย! “แอนดี้” ซึ้งน้ำใจ “คล็อปป์” นิสัยโคตรแมน

แอนดี้ โลเนอร์แกน

แอนดี้ โลเนอร์แกน อดีตผู้รักษาประตูจอมเหนียวที่เพิ่งหมดวาระกับทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกไปหมาด ๆ ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีความรู้สึกซาบซึ้งในตัวของอดีตนายเก่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ในตอนนี้ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมทำงานด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาสัญญาอย่างลูกผู้ชายด้วยการนำเหรียญแชมป์มาให้ตน เพราะว่าสัญญาการร่วมงานของตนกับทีมหมดลงเสียก่อน สื่อข่าวต่างประเทศรายงาน "แอนดี้ โลเนอร์แกน" อดีตนายทวารเลือดผู้ดี ของทีม ลิเวอร์พูล ทีมลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกส่วนตัวที่ซาบซึ้งในตัวของนายเก่า ที่ยังคงคิดถึงตนถึงแม้ว่านักเตะจะปลดระวางและหมดสัญญาการค้าแข้งอยู่กับสโมสรทีมไปแล้วก็ตาม และถ้าหากพูดถึงตามกฎข้อบังคับนักเตะไม่สามารถรับเหรียญแชมป์ได้ด้วยซ้ำ เพราะมีสถิติการลงเล่นในสนามไม่ครบ 5 เกม ถึงแม้ทีมลิเวอร์พูลจะได้ฉลองถ้วยแชมป์ไปแล้วแต่ก็ยังคงมีควันหลงดราม่าเล็ก ๆ ที่นักเตะทุกคนในทีมไม่มีโอกาสได้รับเหรียญกันครบทุกคน ร้อนถึงกุนซือใหญ่ของทีมต้องออกเปิดประเด็นเดือดชุดใหญ่และสำหรับ แอนดี้ โลเนอร์แกน ก็เกือบจะพลาดโอกาสนี้แล้วเช่นกันหากไม่ได้นายใหญ่ของเขารักษาสัญญาเอาไว้ “ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะจำคำพูดที่เคยได้พูดเอาไว้ เขาเป็นผู้นำที่สุดยอดมากเขามีน้ำใจอย่างแท้จริงมักจะนึกถึงทุก ๆ คนก่อนตัวเองเสมอ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในวันนี้ทีมของเราถึงประสบความสำเร็จและคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้ในฤดูกาลนี้ ซึ่งในตอนแรกเขาเดินมาหาผมแล้วก็โยนเหรียญมาให้ เฮ้! เอาไปสิ! มันเป็นของนาย สำหรับความรู้สึกของผมในตอนนั้นมันเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้จริง ๆ ”แอนดี้ โลเนอร์แกน กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ขุนค้อน เวสต์แฮม และ ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน รุมแย่งตัว “อุมติตี้”ติดใจผลงาน! อินเตอร์หวังซื้อขาด “อเล็กซิส” เสริมเกมรุกปืนใหญ่เต็งหนึ่งคว้าตัว “โจเอลสัน เฟอร์นันเดส” นิวโรนัลโด้แห่งโปรตุเกส

“คล็อปป์” ยืนยัน ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ล่าลายเซ็น “ติอาโก้”

ติอาโก้

ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดออกมาจากทีมดังจากฝั่งอังกฤษนั่นคือ ลิเวอร์พูล ว่าต้องการคว้าตัว "ติอาโก้ อัลคันทาร่า" กองกลางจากสโมสรบาเยิร์นมิวนิค ซึ่งตกเป็นข่าวในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุดแหล่งข่าววงในระบุชัดเจนว่ากุนซือ ของทีมไม่ต้องการนักเตะรายนี้แล้ว เพราะแผงกลางของสโมสรที่มีอยู่ในตอนนี้ดีพอซึ่งก่อนหน้านั้นระบุออกมาว่า ค่าตัวนักเตะเหล่านี้ค่อนข้างถูกอยู่ที่ 30 ล้านปอนด์  ทำให้บรรดา นักวิเคราะห์ฟุตบอลอังกฤษ มองว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล น่าจะพอใจกับราคานี้อีกทั้งนักเตะเองก็พร้อมที่จะย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วย แต่ล่าสุดดูเหมือนแหล่งข่าววงใน จะชี้ชัดว่ากุนซือของหงส์แดงลิเวอร์พูลนั้นพอใจกับนักเตะใน ตำแหน่งมิดฟิลด์ ของทีมเพราะมีตัวเลือกเยอะไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , จินี่ ไวจ์นัลดุม , ฟาบินโญ่, เกอิต้า , เจมส์ มิลเนอร์ , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เซอร์ดาน ชาคิรี่ , ทาคุมิ มินามิโนะ และประกอบกับสถานการณ์ไวรัสระบาด ทำให้สโมสรลิเวอร์พูล โดนผลกระทบทางการเงินจะต้องรัดเข็มขัด ในการซื้อนักเตะจึงทำให้ตลาดซื้อขายรอบนี้ลิเวอร์พูลไม่น่าจะไปเซ็นนักเตะคนไหนเข้าทีม แต่อาจจะดูจากสถานการณ์ หากมีนักเตะในตำแหน่งนี้ย้ายออกจากทีมที่  ติอาโก้ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกของ เจอร์เก้น คลอป์ป ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าคราวนี้จะจริงหรือไม่ เพราะดูเหมือนในช่วงนี้ ลิเวอร์พูล จะมีข่าวพัวพันกับนักเตะหลายทีมโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะเป็นนักเตะในระดับฝีเท้าข้างๆราคาไม่สูงเพราะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล นั้นไม่เน้นนักเตะดาวดังค่าตัวแพง ไม่ใช่ตำแหน่งที่กุนซือของทีมต้องการจริงๆ ก็ต้องมาดูกันต่อว่าฤดูกาลหน้าลิเวอร์พูล จะสามารถรักษาแชมป์ได้หรือไม่ เพราะหากเทียบกับนักเตะที่มีในตอนนี้ ในแต่ละตำแหน่งกับทีมใหญ่ระดับท็อปไฟว์แล้วก็ถือว่าวางตำแหน่งของ ลิเวอร์พูล  นั้นไม่ใช่นักเตะที่เก่งที่สุดแต่ดูเหมือนจะเข้าระบบกับทีม และทำให้ผลงานออกมาดีนะตอนนี้ใครๆก็อยากจะมาร่วมทัพกับลิเวอร์พูลเพราะจากการที่พวกเขาคว้าแชมป์ และทำผลงานได้ดีขึ้นหลายฤดูการเตะกันน่าจะเป็นแรงจูงใจที่อยากจะทำให้นักเตะดัง หลายคนอยากจะเข้ามา เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองและประสบความสำเร็จในรายการแข่งขันต่างๆ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ผีแดง!!แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถูกยกเป็นให้เป็น แชมป์จุดโทษ“แกเร็ธ เซาธ์เกต” เตรียมเล็งเด็กใหม่เข้าทัพทีมชาติสิงโตคำราม“คล็อปป์”เผยลูกทีมพร้อมให้กัปตัน”เฮนโด้”ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกเป็นคนแรก

“คล็อปป์”เผยลูกทีมพร้อมให้กัปตัน”เฮนโด้”ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกเป็นคนแรก

คล็อปป์ - เฮนโด้

เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยสปิริตของทีมที่สูงส่ง เชื่อว่าบรรดาลูกทีมจะให้กัปตันเฮนโด้ จอร์แดน เฮนเดอร์สันเข้ามาชูถ้วยชนะเลิศ พรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน โดยกุนซือชาวเยอรมันเปิดเผยว่าเขาจะไปที่นั่น และเชื่อว่าเขาจะได้เป็นกัปตันลิเวอร์พูลคนแรกที่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 30 ปีแน่นอน ถึงแม้ว่าเวลานี้เขาจะมีอาการบาดเจ็บที่เข่าอยู่ก็ตาม เกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเยือนสนามของไบรท์ตันนั้น จอร์แดน เฮนเดอร์สันกัปตันทีมของพวกเขาได้รับบาดเจ็บถึงขนาดต้องเปลี่ยนตัวออกและเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเฮนโด้จะชวดลงสนามเกมพรีเมียร์ลีกที่เหลืออีกสี่เกมแน่นอน กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ต้องการซื้อใจกัปตันทีมอย่างเฮนเดอร์สัน ที่เจ็บเข่าในเกมที่ชนะไบรท์ตัน 3-1 เมื่อวันพุธ มิดฟิลด์รายนี้ไม่ต้องการจะผ่าตัดเข่าและถึงแม้ว่าเขาจะชวดลงสนามสี่เกมสุดท้ายให้ทีมหงส์แดงอย่างแน่นอน แต่คาดว่าเขาจะพร้อมลงสนามในเกมฤดูกาลหน้าได้ ลิเวอร์พูลจะได้รับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกหลังเกมในบ้านเกมสุดท้ายซึ่งก็เป็นเกมที่พบเชลซีวันที่ 22 กรกฎาคม และคล็อปป์กล่าวว่าเฮนเดอร์สันจะเป็นนักเตะคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามไปเตะบอลก็ตาม ผมไม่รู้ว่าเขาจะลงสนามไปโดยใส่เสื้อยูนิฟอร์มแบบไหน แต่เราพยายามทำสิ่งที่เหมาะสมและเป็นไปได้สำหรับเขา คล็อปป์กล่าวก่อนเกมที่จะบุกพานักเตะออกไปเยือนเบิร์นลี่ย์ เกมวันเสาร์ เราต้องหาทางแก้ไขอย่างเหมาะสม และให้ความเคารพในตัวเขา มันเป็นการยากที่เขาจะได้ออกสตาร์ทเกมที่พบเชลซี แต่ว่าเฮนโด้จะไปที่นั่นและผมคิดว่าเขาจะสวมชุดแข่งของทีม ผมคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ เพื่อนร่วมทีมทุกคนพร้อมที่จะให้เขาชูถ้วยชนะเลิศพรีเมียร์ลีกเป็นคนแรกอยู่แล้ว เมื่อคุณรู้ว่าอาการบาดเจ็บไม่หนักมาแต่ว่าบางครั้งการสวมชุดแข่งก็อาจะดูอันตรายเกินไป หรือสวมใส่ลำบากบางทีเราอาจจะได้เห็นเขาสวมชุดสูทลงไปในสนามก็ได้ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์คกล่าวถึงเฮนโด้ว่า การลงไปชูถ้วยแล้ววิ่งเหยาะๆ หรอ ขึ้นอยู่กับคุณเลย ผมไม่แน่ใจว่าเฮนโด้จะทำได้หรือไม่เพราะว่าการบาดเจ็บที่เข่านี้เป็นปัญหาที่หนักหนาเหมือนกัน โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2001 กัปตันทีมเจมี่ เร้ดแน็ปป์ที่ได้รับบาดเจ็บและชวดลงสนามสามเกสุดท้าย สุดท้ายเพื่อนร่วมทีมทุกคนให้เกียรติเขาเพื่อขึ้นมาชูถ้วย เอฟเอคัพ, แต่ว่าเขาไม่ได้ชูถ้วยลีกคัพและยูฟ่าคัพ หรือการที่เราได้เห็นเทอร์รี่ชูถ้วย ucl กับเชลซีหลังจากที่โดนแบนไม่ได้ลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม สิงห์บลูส์ เตรียมเซ็น”ฮาแวร์ทซ์” สัญญา 5 ปี รับ 7 ล้านปอนด์5 นักเตะ “ราชันชุดขาว” ที่น่าจับตามองเกมเยือนถิ่นซานมาเมสของ “บิลเบา”ดีพอแล้ว! “คล็อปป์” ยันลิเวอร์พูลไม่ทุ่มเงินเสริมทัพมหาศาลตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้

ดีพอแล้ว! “คล็อปป์” ยันลิเวอร์พูลไม่ทุ่มเงินเสริมทัพมหาศาลตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้

คล็อปป์

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าต้นสังกัดของตนเองจะไม่ทุ่มเงินในการซื้อนักเตะมาเสริมทัพในตลาดนักเตะหน้าร้อนนี้ เนื่องจากผู้เล่นในทีมชุดปัจจุบันนั้นแข็งแกร่งแล้ว ลิเวอร์พูล ของกุนซือคล็อปป์ เพิ่งประสบความสำเร็จด้วยการผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 พร้อมเป็นสมัยแรกของสโมสร หลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูงพ่ายต่อ เชลซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้แต้มขาดเป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีการแข่งขันเหลืออีก 7 เกมก็ตาม โดยประเด็นต่อไปที่สื่อให้ความสนใจหลังจากคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีของ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือ การเสริมผู้เล่นใหม่เข้ามาสู่ทีม เนื่องจากที่ผ่านมา "หงส์แดง" มีข่าวพัวพันกับผู้เล่นใหม่มากมาย ทั้งในรายของ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าจอมคมของ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่นนักเตะอยากจะย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล เป็นอย่างมากเนื่องจากอยากร่วมงานกับคล็อปป์ ถึงกระนั้นสุดท้ายแล้วลิเวอร์พูล ไม่ยอมยื่นข้อเสนอจำนวน 50 ล้านปอนด์ เพื่อฉีกสัญญากับแข้งวัย 24 ปีรายนี้เพราะปัญหาด้านการเงินจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนสุดท้าย แวร์เนอร์ ไปเซ็นสัญญากับ เชลซี ทีมคู่ปรับร่วมลีกที่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาจำนวนดังกล่าวแทน รวมไปถึงรายล่าสุดอย่าง คาลิดู คูลิบาลี่ ปราการหลังจอมแกร่งของ นาโปลี ที่ "ตุ๊ดโต้สปอร์ต" สื่อดังของอิตาเลียน รายงานว่า ลิเวอร์พูล คือทีมเต็งหนึ่งที่จะซิวตัวกองหลังรายนี้ไปร่วมทีม เนื่องจากคล็อปป์ ชื่นชอบในสไตล์การเล่นของดาวเตะวัย 29 ปีรายนี้เป็นอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นด้วยค่าตัวที่ นาโปลี ตั้งไว้ถึง 90 ล้านปอนด์  ทำให้เป็นเรื่องยากที่ดีลจะเป็นไปได้ "คล็อปป์" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเรื่องการเสริมผู้เล่นใหม่ กระทั่งก่อนเกมที่ ลิเวอร์พูล จะบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้คล็อปป์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเรื่องการเสริมผู้เล่นใหม่ของทีมหลังจบฤดูกาลนี้ว่า "โควิด-19 มีผลต่อทั้งเรื่องการซื้อนักเตะเข้าสู่ทีม และการขายนักเตะออกไป ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติ โดยสำหรับทีมเรานี่คงไม่ใช่ตลาดนักเตะที่วุ่นวายแต่อย่างใด เพราะเราไม่สามารถใช้เงินจำนวนมหาศาล ทว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเราอยากจะใช้เงิน หรือคิดว่าการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาคือสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากผมคิดว่าเรามีทีมที่ดีอยู่แล้ว" "โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อคุณมีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว นั่นก็คือ คุณจะทำให้ทีมดังกล่าวดีขึ้นได้อย่างไรในตลาดนักเตะ ซึ่งคุณต้องมีความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ทีมของผมก็กำลังจะแก้ไขปัญญาตรงนี้อยู่ แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อผู้เล่นใหม่เนื่องจากเรามีนักเตะ 3-4 คนที่สามารถสร้างความแตกต่างได้" คล็อปป์กล่าวทิ้งท้าย สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม หนาหู!! กระแสข่าวลือ สาลิกาดง เตรียมดึง “พอช” คุมทีม“สเตอร์ลิ่ง”กำลังคึก บอกฤดูกาลใหม่ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!หงส์แดง เตรียมเสริมทีม หวังดึง “ติอาโก้” มิดฟิลด์จากเสือใต้

“สเตอร์ลิ่ง”กำลังคึก บอกฤดูกาลใหม่ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!

สเตอร์ลิ่ง

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาบอกว่า ฤดูกาลใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บชัยเหนือ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4-0 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายมีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 4-0 ซึ่งทาง ราอีม สเตอร์ลิ่งมีส่วนกับ 1 ประตู ซึ่งเขาได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ทีมของเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงบัลลังค์แชมป์พรีเมียร์ลีกคืนจาก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า โดยทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่งได้กล่าวว่า  “ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาแข็งแกร่ง ทั้งเกมรุก และเกมรับ เกมเพรสซิ่งของพวกเขาเล่นงานคู่แข่ง พวกเขามีฤดูกาลที่สุดยอดเอามากๆ เพราะฉะนั้นยามใดที่ต้องลงสนามเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเราจะต้องใส่เต็มที่ตลอด เพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุด พวกเรารู้สถานะดีว่าพวกเราเป็นทีมตาม พวกเราก็มีพลาดบางเป็นบางครั้ง แต่เราได้พิสูจน์กับทีมระดับแชมป์แล้ว ผลออกมาคือพวกเราสู้ได้ดี และผลการแข่งขันที่ออกมามันยอดเยี่ยมมาก สำหรับผม ฤดูกาลหน้ามันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และพวกเราเริ่มต้นมันได้เยี่ยมสุดๆ ” "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" เคยค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล ราฮีม สเตอร์ลิ่ง  ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เคยค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวที่นั่น โดยเขาได้ลงสนามให้ทีมหงส์แดง 129 นัด ยิงได้ 23 ประตู ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว44 ล้านปอนด์ ซึ่งตอนนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก โดย ราฮีม สเตอร์ลิ่งกลายเป็นกำลงสำคัญของทัพเรือใบสีฟ้า ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ปัจจุบันลงสนามให้ทีมไปแล้ว 234 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 92 ประตู ในส่วนของฤดูกาล 2019/2020 ลงสนาม 43 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 23 ประตู สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม หงส์แดง เตรียมเสริมทีม หวังดึง “ติอาโก้” มิดฟิลด์จากเสือใต้“ซีดาน”เป่าปาก มาดริด เชือด เกตาเฟ่ เกมยากสุดของซีซั่นหลังซัดประตู”กรีนวู้ด”แสดงสัญลักษณ์นิ้ว A สื่อถึง “โกเมส”

หงส์แดงได้แชมป์ PL แล้ว แต่หวังทุบ “สถิติ” ของพรีเมียร์ลีก

สถิติ

ลิเวอร์พูล ที่คุมทีมโดยกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์พวกเขายังมีความท้าทายในการเล่นพรีเมียร์ลีกอยู่ดีแม้ว่าจะคว้าแชมป์ไปแล้วก็ตาม จากการที่พวกเขามีแต้มห่าง แมนซิตี้กว่า 23 แต้ม และเหลือการแข่งขันอีก 7 เกมนั่นหมายความว่าพวกเขาได้แชมป์ไปแล้ว และเหลือการแข่งขันอีกถึง 7 เกมกว่าจะจบฤดูกาล เรามาดูกันดีกว่าว่าพวกเขามีโอกาสทำลาย สถิติ อะไรได้บ้าง โดยพวกเขาเป็นทีมที่มีผลงานดีมากคือชนะติดต่อกันไปแล้วกว่า 18 เกมในพรีเมียร์ลีกและสถิติต้องมาถูกหยุดด้วยน้ำมือของวัตฟอร์ด ที่แตนอาละวาดชนะได้ 3-0 สถิติเก็บแต้มมากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจอร์เก้น คล็อปป์จะกระตุ้นให้นักเตะชนะแมนซิตี้เพื่อเก็บแต้มให้ได้ เพื่อโอกาสในการทำแต้มมากกว่า 100 แต้ม และเป็นการทำลายสถิติของแมนซิตี้ที่เก็บได้ 100 แต้มในฤดูกาล 2017/18 ด้วย โดยหากว่าพวกเขาชนะรวดจะเก็บแต้มได้มากที่สุดอยู่ที่ 107 แต้มหรือหากว่าต้องการจะแค่เบียดชนะแมนซิตี้ที่ 101 แต้มพวกเขาก็ยังมีโอกาสแพ้ได้ 2 เกมด้วย จำนวนเกมชนะมากที่สุด เวลานี้ทีมหงส์แดง ชนะไปแล้วกว่า 28 นัด หากว่าชนะได้อีก 7 เกมจะทำให้พวกเขาชนะในพรีเมียร์ลีกได้ 35 เกมจากทั้งหมด 38 เกม ทำลายสถิติของทีมเรือใบสีฟ้าได้อีกเช่นกัน ทุบ สถิติ จำนวนแต้มห่างจากทีมอันดับสองมากที่สุด ก่อนหน้านี้เป็นแมนซิตี้ที่ทำได้เมื่อฤดูกาล 2017/18 ที่มีแต้มเหนือกว่า ทีมอันดับสองก็คือแมนยูที่ 19 แต้ม เวลานี้พวกเขามีแต้มห่างจากทีมอันดับสองที่ 23 แต้ม ทีมที่ชนะเกมในบ้านมากนัดที่สุด โดยไม่เคยมีทีมไหนที่ชนะเกมในบ้านทั้ง 19 เกมของพรีเมียร์ลีก ถ้าลิเวอร์พูลชนะ แอสตัน วิลล่า,เบิร์นลี่ย์และเชลซีได้ พวกเขาจะทำสถิตินั้นได้สำเร็จ โดยมีสามทีมที่เก็บชัยชนะในบ้านได้ 18 เกม ชนะเกมเยือนมากนัดที่สุด สถิติชนะเกมเยือนมากนัดที่สุดอยู่ที่ 16 เกม โดยเวลานี้พวกเขาชนะไปแล้วกว่า 12 เกม หากว่าสี่เกมทีมเยือนที่เหลือ หากว่าชนะแมนซิตี้, นิวคาสเซิล, ไบรท์ตัน และอาร์เซนอลได้ พวกเขาจะทำสถิตินี้ (เป็นสถิติเทียบเท่าเท่านั้น) และจอร์แดน เฮนเดอร์สันกำลังจะกลายเป็นกัปตันทีมที่ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก อดีตนักเตะของซันเดอร์แลนด์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเป็นกัปตันทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ โดยเขารับสืบทอดปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากสตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ว่าเขาเหนือกว่าคือเขาพาทีมเป็นแชมป์อังกฤษ,แชมป์ยุโรปและแชมป์โลก สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ปืนใหญ่คิดแผน เสริมทัพ นักเตะสู้ศึกฤดูกาลหน้า“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอลเสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับ

“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอล

เหยียดสีผิว

                เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆท่านคงได้ยินเรื่องราวของ จอร์จ ฟลอยด์ ผู้ต้องหาชาวอเมริกันผิวสี ที่ถูกตำรวจเอาหัวเข่ากดคอหอยในขณะจับกุม ทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้นักสิทธิมนุษยชนจากหลายๆประเทศ ออกมารวมตัวกันเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ เนื่องจากหลายๆฝ่ายมองว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับคนผิวสี ซึ่งในโลกของฟุตบอลนั้นก็มีกรณีคล้ายๆกับกรณีของ จอร์จ ฟลอยด์ นั่นก็คือการ เหยียดสีผิว วันนี้เราจะหยิบยกการเหยียดสีผิวของวงการฟุตบอล ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก                 เหตุการณ์แรกย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในลาลีก้า สเปน เป็นการพบกันของ บียาร์รีล กับ บาร์เซโลน่า โดยจังหวะนั้นฝั่งทีมเยือนนั่นก็คือทีม บาร์เซโลน่า ได้ลูกเตะมุม โดยคนที่รับหน้าที่การเตะลูกเตะมุม นั่นก็คือ ดานี่ อัลเวส แบ็คขวา ชาวบราซิล แทนที่เกมการแข่งขันจะดำเนินไปตามปกติ แต่ว่าในขณะที่เขากำลังจะเตะลูกเตะมุม ได้มีกล้วยปริศนาลอยมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝีมือของแฟนบอลทางฝั่งเจ้าบ้าน แต่ ดานี่ อัลเวส ก็รับมือกับสถานการณ์นั้นได้ดี ด้วยการหยิบกล้วยที่แฟนบอลฝั่งเจ้าบ้านโยนลงมาเพื่อปอกกิน เพื่อเป็นการประชดกับการเหยียดสีผิว ในครั้งนี้  โดยเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ได้มีเหล่าคนดังมากมายได้โพสต์รูปภาพกินกล้วย พร้อมแฮชแท๊กว่า saynotoracism เพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิว โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่                 เหตุการณ์ที่สองเป็นเหตุการณ์สดๆร้อนๆที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี โดยเกมการแข่งขันนัดนั้นเป็นการพบกันของ เวโรน่า เจ้าภาพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบรสชา โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าผิวสี ชาวอิตาลีที่มีเชื้อสายกานา โดยในเกมนัดนั้น แฟนบอลทางฝั่งเจ้าภาพได้ตะโกนโห่ร้องเหยียดสีผิว มาริโอ บาโลเตลลี่ ตลอดทั้งเกม แต่แล้วความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด นาทีที่ 54 มาริโอ บาโลเตลลี่ เกิดฟิวส์ขาดควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ โดยการหยิบลูกบอลแล้วเตะไปยังอัฒจรรย์ฝั่งแฟนบอลเวโรน่า ทำให้กรรมการต้องเป่าหยุดเกมชั่วคราว โดยหลังจากจบเกมสโมสรเวโรน่า ก็โดนลงโทษตามระเบียบ                 ต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิว ของวงการฟุตบอลนั้นเป็นสาเหตุที่แก้ไปหายสักที เนื่องจากเหตุการณ์เหยียดสีผิวไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอดีต โดยส่วนใหญ่ลีกใหญ่ๆในยุโรป ไม่ค่อยใช้บริการของนักเตะนอกสหภาพยุโรปหรืออียู ซึ่งส่วนใหญ่นักเตะนอกอียูก็จะเป็นคนผิวสีหรือคนผิวเหลือง ดังนั้นก็ไม่แปลกที่นักเตะนอกอียูมาค้าแข้งในลีกยุโรปจะโดนเหยียดสีผิว และต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิวจะทำให้สเน่ห์ของฟุตบอลลดน้อยลงจนไม่มีค่าอะไรเลยในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับพาชม 3 คีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ทัพ เสือใต้ ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้“ผลบอล” ลิเวอร์พูล เกมฝืดก้าวข้าม เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้ เสมอกันไป 0-0

Top