ยูเวนตุส นักฟุตบอลที่ ได้มาแบบไม่เสียเงิน และทำผลงานดีสุดๆ

ยูเวนตุส ปอลป็อกบา

สำหรับ ยูเวนตุส ทีมดังใน ศึก กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ถือว่าพวกเขานั้นก็เป็นอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ ที่นักฟุตบอลหลายคนใฝ่ฝันอยากจะย้ายไปค้าแข้งด้วย ซึ่งเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่ส่งผลดีกับยูเวนตุส เป็นอย่างมาก เมื่อทำให้มีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมหลายคนพร้อมจะย้ายไปร่วมทีม โดยเฉพาะนักฟุตบอลที่หมดสัญญากับต้นสังกัดเดิม ซึ่งสามารถย้ายทีมได้โดยไม่มีค่าตัว มักจะเลือกย้ายไปร่วมทีม ม้าลาย ยูเวนตุสซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่านักฟุตบอลที่ยูเวนตุส เคยได้มาแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อ และทำผลงานได้โดดเด่นมากที่สุด จะมีใครบ้าง 3 นักฟุตบอล ฝีเท้าเทพ ที่ ม้าลาย ยูเวนตุส ได้มาแบบไม่เสียเงิน   ปอล ป็อกบา เรียกได้ว่า การย้ายมาอยู่ทีมยูเวนตุส ทำให้ ป๊อกบา จากกายเป็นเพียงแค่ผู้เล่นดาวรุ่งโนเนมข่าวกีฬาทั่วโลก ไม่สามารถก้าวเป็นกำลังหลักกับทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ ทำให้เขานั้นพัฒนาฝีเท้าจนกลายมาเป็นผู้เล่นกองกลางฝีเท้าระดับโลก ซึ่งส่งผลดีกับยูเวนตุส เป็นอย่างมาก โดยหลังจาก 2012 ที่เชาย้ายร่วมทีมยูเวนตุส แบบไม่มีค่าตัว เขาก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นกองกลางค่าตัวมหาศาลทำเงินให้กับยูเวนตุส ได้ ดานี่ อัลเวส แบ็คขวาทีมชาติบราซิล อดีตผู้เล่นของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายกับทีมดังแห่ง ศึก ลาลีกา สเปน หลังจากเขาหมดสัญญากับทีมบาร์เซโลน่าก็ตัดสินใจย้ายร่วมทีมยูเวนตุส เมื่อ ปี 2016 ซึ่งก็เป็นเพียงแค่ฤดูกาลเดียวที่เขาร่วมทีมยูเวนตุส แต่ก็มีส่วนช่วยให้ยูเวนตุส คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา และเข้าไปชิงชนะเลิศใน ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกด้วย คิงลี่ส์ โกม็อง บีกตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศส โดยในช่วงที่เขาย้ายร่วมทีมยูเวนตุส นั้นก็เป็นช่วงที่เขานั้น ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ ซึ่งการตัดสินใจย้ายร่วมทีมยูเวนตุส ในปี 2014 เปลี่ยนแปลงทำให้เขากลายเป็นนักเตะระดับโลก และปัจจุบันทุกคนก็ได้เห็นกันดีแล้วว่าเขาประสบความสำเร็จมากเพียงใด ทั้งการคว้าแชมป์โลกกับฝรั่งเศสและประสบความสำเร็จกับ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ในทุกวันนี้  “ลิเวอร์พูล” 3 อันดับ นักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน“โรนัลโด้” สถานีต่อไป คือที่ใดต้องติดตามแมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด เรื่องน่ารู้หลังเกมปีซีซั่น“ซินเชนโก” กับทีมใหม่เจ้านายเก่า ความท้าทายใหม่

“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอล

เหยียดสีผิว

                เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆท่านคงได้ยินเรื่องราวของ จอร์จ ฟลอยด์ ผู้ต้องหาชาวอเมริกันผิวสี ที่ถูกตำรวจเอาหัวเข่ากดคอหอยในขณะจับกุม ทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้นักสิทธิมนุษยชนจากหลายๆประเทศ ออกมารวมตัวกันเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ เนื่องจากหลายๆฝ่ายมองว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับคนผิวสี ซึ่งในโลกของฟุตบอลนั้นก็มีกรณีคล้ายๆกับกรณีของ จอร์จ ฟลอยด์ นั่นก็คือการ เหยียดสีผิว วันนี้เราจะหยิบยกการเหยียดสีผิวของวงการฟุตบอล ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก                 เหตุการณ์แรกย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในลาลีก้า สเปน เป็นการพบกันของ บียาร์รีล กับ บาร์เซโลน่า โดยจังหวะนั้นฝั่งทีมเยือนนั่นก็คือทีม บาร์เซโลน่า ได้ลูกเตะมุม โดยคนที่รับหน้าที่การเตะลูกเตะมุม นั่นก็คือ ดานี่ อัลเวส แบ็คขวา ชาวบราซิล แทนที่เกมการแข่งขันจะดำเนินไปตามปกติ แต่ว่าในขณะที่เขากำลังจะเตะลูกเตะมุม ได้มีกล้วยปริศนาลอยมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝีมือของแฟนบอลทางฝั่งเจ้าบ้าน แต่ ดานี่ อัลเวส ก็รับมือกับสถานการณ์นั้นได้ดี ด้วยการหยิบกล้วยที่แฟนบอลฝั่งเจ้าบ้านโยนลงมาเพื่อปอกกิน เพื่อเป็นการประชดกับการเหยียดสีผิว ในครั้งนี้  โดยเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ได้มีเหล่าคนดังมากมายได้โพสต์รูปภาพกินกล้วย พร้อมแฮชแท๊กว่า saynotoracism เพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิว โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่                 เหตุการณ์ที่สองเป็นเหตุการณ์สดๆร้อนๆที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี โดยเกมการแข่งขันนัดนั้นเป็นการพบกันของ เวโรน่า เจ้าภาพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบรสชา โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าผิวสี ชาวอิตาลีที่มีเชื้อสายกานา โดยในเกมนัดนั้น แฟนบอลทางฝั่งเจ้าภาพได้ตะโกนโห่ร้องเหยียดสีผิว มาริโอ บาโลเตลลี่ ตลอดทั้งเกม แต่แล้วความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด นาทีที่ 54 มาริโอ บาโลเตลลี่ เกิดฟิวส์ขาดควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ โดยการหยิบลูกบอลแล้วเตะไปยังอัฒจรรย์ฝั่งแฟนบอลเวโรน่า ทำให้กรรมการต้องเป่าหยุดเกมชั่วคราว โดยหลังจากจบเกมสโมสรเวโรน่า ก็โดนลงโทษตามระเบียบ                 ต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิว ของวงการฟุตบอลนั้นเป็นสาเหตุที่แก้ไปหายสักที เนื่องจากเหตุการณ์เหยียดสีผิวไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอดีต โดยส่วนใหญ่ลีกใหญ่ๆในยุโรป ไม่ค่อยใช้บริการของนักเตะนอกสหภาพยุโรปหรืออียู ซึ่งส่วนใหญ่นักเตะนอกอียูก็จะเป็นคนผิวสีหรือคนผิวเหลือง ดังนั้นก็ไม่แปลกที่นักเตะนอกอียูมาค้าแข้งในลีกยุโรปจะโดนเหยียดสีผิว และต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิวจะทำให้สเน่ห์ของฟุตบอลลดน้อยลงจนไม่มีค่าอะไรเลยในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับพาชม 3 คีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ทัพ เสือใต้ ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้“ผลบอล” ลิเวอร์พูล เกมฝืดก้าวข้าม เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้ เสมอกันไป 0-0