เรื่องของอนาคต! “ฮามันน์” วิเคราะห์ กุนซือ “คล็อปป์” อยู่หรือไปหลังหมดหน้าที่

ฮามันน์" วิเคราะห์ กุนซือ “คล็อปป์”

ดีทมาร์ ฮามันน์ กูรูทางด้านวงการฟุตบอลได้ออกมาวิเคราะห์ข้อมูล เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่ทีมหงส์แดง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะยอมสละเก้าอี้หากหมดสัญญากับทีมในปี 2024 โดยเส้นทางในการเป็นกุนซืออาจจะเปลี่ยนไปคุมทีมชาติแทนก็เป็นได้หรืออาจจะพักจากการทำงานแล้วขอไปพักร้อนแบบไร้กำหนด พร้อมกับยกย่องเป็นกุนซือรายนี้ว่าฝีมือดีที่สุดเท่าที่สโมสรทีมเคยมีมา "เจอร์เก้น คล็อปป์" กุนซือใหญ่ ลิเวอร์พูล สโมสรระดับแถวหน้าของวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อไว้ว่าตัวเขาจะไม่ขอต่อสัญญาในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม โดยสัญญาฉบับปัจจุบันจะหมดลงในปี 2024 ส่วนหน้าที่กุนซือหลังจากนี้อาจจะเปลี่ยนเส้นทางใดทางหนึ่งหรืออาจจะหยุดพักการทำงานแบบไร้กำหนด โดยทางด้านฝั่งกูรูอดีตกองกลางของทีม ได้ออกมากล่าวแบบติดตลกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กุนซือใหญ่ทีมอาจจะเลือกลาพักร้อนเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอดเป็นระยะ 5 ปี นับตั้งแต่เข้ารับทำหน้าที่  “เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีฝีมือในการคุมทัพยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่สโมสรเคยมีมา เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษได้อย่างสมใจหลังจากที่ทีมตั้งตารอมานานกว่า 30 ปี ผมเชื่อว่าแฟนบอลและบรรดานักเตะทุกคนรักและเคารพในตัวของเขา เราคงต้องดูกันต่อไปว่าเส้นทางอนาคตของการเป็นผู้จัดการทีมเขาจะยอมต่อสัญญากับทีมหรือไม่ หรือบางทีเขาอาจจะลาพักร้อนไปนอนเล่นอยู่บนชายหาดแบบไร้กำหนดก็เป็นได้ ซึ่งผมคิดว่าความเป็นไปได้น่าจะเป็นแบบอย่างหลังมากกว่า” อดีตกองกลางทีม กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1ไม่ปิดโอกาส!เสือเหลืองเผยเกือบปล่อยตัว “ซานโช่” หากดีลไม่ล่มก่อนกำลังใจล้น! บรรดาเพื่อนนักเตะโพสเอาใจช่วย “ฟาน ไดค์” หลังเจ็บพักยาว

กำลังใจล้น! บรรดาเพื่อนนักเตะโพสเอาใจช่วย “ฟาน ไดค์” หลังเจ็บพักยาว

ฟาน ไดค์ กำลังใจล้น

บรรดาเพื่อนนักเตะในวงการฟุตบอลอย่างมากมายโดยเฉพาะ ทีมหงส์แดง ที่งานนี้ได้พร้อมใจกันออกมาทวิตข้อความเพื่อให้กำลังใจแก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ผู้เล่นกองหลังสุดแข็งแกร่ง ที่ล่าสุดได้รับอาการบาดเจ็บจากการลงแข่งขันในเกมการแข่งขันนัดล่าสุดที่ทีมเจอกับทอฟฟี่สีน้ำเงิน ทำให้งานนี้นักเตะต้องเข้าเข้าโรงหมออย่างเร่งด่วนเพื่อทำการผ่าตัดที่หัวเข่าส่งผลให้ต้องพักแข้งยาวแบบไร้กำหนด จากการรายงานข่าวฟุตบอลต่างประเทศ สกาย สปอร์ต  "เฟอร์กิล ฟาน ไดค์" ปราการหลังร่างใหญ่ ลิเวอร์พูล สโมสรระดับแถวหน้าแห่งวงการค้าแข้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ตลอดทั้งฤดูกาลนี้นักเตะจะต้องเว้นว่างจากการลงสนามทุกรายการ หลังจากที่ได้รับอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกขาดในเกมการแข่งขันนัดล่าสุดที่ทีมได้ออกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตันเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา จากการพุ่งเข้าใส่ของผู้รักษาประตูทีมคู่แข่ง จอร์แดน พิคฟอร์ด ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจแต่เชื่อว่าคงจะทำให้นักเตะวัย 29 ปี ต้องเสียขวัญไม่ใช่น้อยและนับเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สวมบทบาทเป็นอาชีพนักฟุตบอล “เรากำลังรอการกลับมาของนายอยู่แล้วหวังว่านายจะหายดีในไม่ช้านี้นะพี่ชาย” จอร์แดน เฮนเดอร์สัน “นางเป็นพี่เบิ้มตัวใหญ่ ฉันขอพรต่อพระเจ้าหวังว่านายจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้านี้” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ “พวกเราเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้รู้ข่าวร้ายว่าพี่ชายของพวกเราจะต้องได้รับการผ่าตัดแล้วจะต้องพักรักษาตัวยาว มันเป็นข่าวร้ายที่เราไม่อยากฟังแต่ผมเชื่อว่าพี่ชายของเราจะสามารถฟื้นตัวแล้วกลับมาลงสนามได้ในเร็ววัน เพราะเขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมเรา” จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “เนวิลล์” เผยเหตุที่ทำให้เอฟเวอร์ตันโชว์ฟอร์มได้ร้ายกาจ“คล็อปป์” สับ VAR ปล้นสามแต้มจาก ลิเวอร์พูล หลังบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตันข่าวจริง! “กามา”ขอลาออกจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังเปิดบ้านพ่ายตราด 0-1

“คล็อปป์” สับ VAR ปล้นสามแต้มจาก ลิเวอร์พูล หลังบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน

ลิเวอร์พูล โดน VAR ปล้นคะแนน

ลิเวอร์พูล ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 5 ต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่สนาม กูดิสัน ปาร์ค โดยจบ 90 นาที เสมอกันไปสุดมัน 2-2 ซึ่งเกมดังกล่าวมีดราม่าในช่วงท้ายเกม ที่ทาง ลิเวอร์พูลยิงประตูได้ แต่ถูกVAR ยึดประตูคืน พลาดการเก็บสามคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งทาง เจอเกนย์ คล็อปป์ ได้กล่าวว่า “มันเป็นแมตย์ที่ยากและหนักมาก ก่อนเริ่มผมไม่รู้ว่าลูกทีมจะเล่นได้เหนือกว่าไหม แต่ลูกทีมของผมสู้ได้ดี ส่วนอาการของ ฟานไดจ์ บอกตรงๆ มันหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันจังหวะนั้น ผมถามผู้ตัดสินที่ 4 ว่าควรเป็นใบแดงหรือเปล่า เขาบอกให้ไปถามทีม VAR เอาเอง เกมนี้ลูกทีมของผมลงเล่นในกูดิสัน ปาร์ค และนี่น่าจะเป็นฟอร์มที่ดีที่สุด เมื่อต้องลงเล่นที่นี่ แต่สุดท้ายผลมันจบลงด้วยการแบ่งกันไปฝั่งละ 1 คะแนน ในส่วนของ ริชาร์ลิสัน ที่จัดหนัก ธิอาโก้ อย่าไปจำมันเลย เพราะสุดท้ายเขาก็รับใบแดงไปแล้ว แต่ความจริงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าบอลหนักขนาดนั้น” ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020/2021 นัดที่5 เอฟเวอร์ตัน ทีมจ่าฝูง  เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 โดย ลิเวอร์พูลออกนำก่อน 1-0 จากการยิงของ ซาดิโอ มาเน่ ในนาทีที่ 3 จากนั้น ไมเคิล คีน มาตีเสมอให้ เอฟเวอร์ตัน ในนาที 18 ครึ่งหลังนาที 72 โม ซาลาห์ มาซัดให้หงส์แดงออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 ก่อนที่ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน จะมายิงประตูตีเสมอ 2-2 ให้กับทีมทอฟฟี่ ในนาที 81 ส่งให้ผ่าน 5 นัด เอฟเวอร์ตัน มี 13 คะแนน นำเป็นจ่าฝูง ส่วนลิเวอร์พูล มี 10 คะแนน อยู่ที่สอง สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ข่าวจริง! “กามา”ขอลาออกจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังเปิดบ้านพ่ายตราด 0-1ธรรมเนียมของประธาน ฟุตบอลเมืองไทย “เป็นคนจ่ายทำอะไรก็ได้”“คาวานี่” ออกมาเปิดใจว่าเขารู้สึกยังไงกับ “เนย์มาร์” เพื่อนร่วมทีมเก่า

ลิเวอร์พูล ดวงแตกจนพ่ายแพ้ แอสตัน วิลล่า ยับด้วยสกอร์ 7-2

ลิเวอร์พูล แพ้ วิลล่า

                เรียกได้ว่าเป็นสกอร์ที่ผิดคาดที่สุดสำหรับการเกิดกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับแอสตัน วิลล่าที่สนามวิลล่า พาร์ค หลังจากที่เจ้าบ้านเอาชนะแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ด้วยสกอร์ 7-2 แบบไม่มีใครคาดคิดว่าทีมสิงห์ผงาดจะสามารถสังหารโหดหงส์แดงได้ขนาดนี้ โดยมีเกมนั้นมีความผิดพลาดของผู้เล่นจากเมอร์ซี่ไซด์มากมายก่อนจะโดนลงโทษไปหลายประตู แม้ว่าความคมของลูกทีมเจอร์เก้น คลอปป์จะแสดงให้เห็นอยู่บ้างก็ตาม                 ในช่วงต้นเกมที่สนามวิลล่า พาร์คนั้น เป็นทางผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลอย่างเอเดรียนที่แจกโชคด้วยการส่งบอลผิดจนโดนโอลีย์ วัตกินส์ที่ได้บอลจากแจ็ค กรีลิชยิงเข้าไปง่ายๆ ทำให้ทีมขึ้นนำไป 1-0 ต่อด้วยในนาทีที่ 22 เป็นทางกองหน้าสิงห์ผงาดคนเดิมอย่างวัตกินส์ที่ยิงประตูให้ทีมนำห่างเป็น 2-0 แม้ว่าทางโมฮัมเหม็ด ซาลาห์จะซัดด้วยซ้ายตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-1 แต่ทว่าก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนั้นทางวิลล่ายังสามารถยิงประตูเพิ่มได้อีกสองลูกจนนำห่างเป็น 4-1 หลังจากที่พักครึ่งเวลาแรกไปนั้น ทาง ลิเวอร์พูล ก็ยังคงเมาหมัด                 ก่อนที่จะมาโดนวิลล่านำห่างเป็น 5-1 จากการยิงของรอส บาร์คลีย์แฉลบผู้เล่นหงส์แดงข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไป ก่อนที่พวกเขาจะโดนเจ้าถิ่นยิงประตูไปได้อีกสองลูกจากแจ็ค กรีลิชในนาทีที่ 66 และ 75 แม้ว่าทางซาลาห์จะยิงประตูให้ทีมได้อีกครั้งในนาทีที่ 60 แต่ทว่ายังดีพอจนทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ไปเป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้                 ต้องบอกว่าสนามวิลล่า พาร์คนี้ถือเป็นสนามอาถรรพ์ของลิเวอร์พูลอยู่เหมือนกัน หลังจากฤดูกาลที่แล้วพวกเขาต้องสู้จนนาทีสุดท้ายเพื่อคว้าสามแต้มมาครองได้สำเร็จ แต่ในปีนี้พวกเขากลับโดนเอาคืนอย่างสาสมที่สิงห์ผงาดเคยโดนไว้ รวมถึงชื่อของวัตกินส์และกรีลิชคงเป็นที่จดจำของแฟนหงส์แดงไปอีกนานเลยทีเดียว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาการหนัก!! อยู่กลุ่มเดียวกับ เปแอสเชพาไปชม 3 นักเตะส่วนเกินของทีม ที่ถูก ลิเวอร์พูล ขายออกไปด้วยค่าตัวสุดแพงทัพเรือใบสีฟ้า สอย “รูเบน ดิอาส” อุดแนวรับ 65 ล้านปอนด์

พาไปชม 3 นักเตะส่วนเกินของทีม ที่ถูก ลิเวอร์พูล ขายออกไปด้วยค่าตัวสุดแพง

พลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา พัฒนาตัวเองขึ้นมากลายเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้อย่างน่าชื่นชม นอกจากพวกเขาจะมีบรรดาขุมกำลังนักเตะระดับโลกฝีเท้าดีภายในทีม และกุนซือที่ยอดเยี่ยมอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ แล้ว พวกเขาก็ยังมีการทำธุรกิจอันชาญฉลาด เพื่อหาเงินเข้ามายังสโมสรอีกด้วย และนี่ก็คือ 3 นักเตะส่วนเกินภายในทีม ที่ ลิเวอร์พูล สามารถขายออกไปด้วยค่าตัวสุดแพง และทำกำไรให้กับสโมสรอย่างงาม แต่จะมีใครบ้างนั้น เชิญแฟนบอลทุกท่านติดตามพร้อมๆกันได้เลยครับ แดนนี วอร์ด - ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติเวลส์ อย่าง แดนนี วอร์ด ถูกทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูลดึงตัวมาอยู่กับทีมตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักเตะเยาวชน โดยเขาถูกคว้าตัวมาจากสโมสรเร็กซ์แฮม ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 1 แสนปอนด์ เท่านั้น และแทบจะไม่ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาให้กับทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูล เลย เพราะมักจะถูกปล่อยให้กับสโมสรอื่นยืมตัวไปใช้งานเสียมากกว่า และเจ้าตัวก็ดันไปโชว์ฟอร์มดีกับฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ จนพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ และนั่นทำให้ทัพจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ติดต่อเข้ามาขอซื้อตัวไปร่วมทีม เพื่อเป็นแบ็คอัพให้กับ แคสเปอร์ ชไมเคิล ด้วยค่าตัวสูงถึง 12 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว โดมินิค โซลันเก้ – ชื่อของ โดมินิค โซลันเก้ ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก หลังเขาผู้นี้คือกองหน้าผู้พาทีมชาติอังกฤษ คว้าแชมป์โลกชุดอายุไม่เกิน 20 ปี แถมยังสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวมาครองได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากตัวเขาหมดสัญญากับเชลซี ก็เลือกย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่น่าเสียดายที่ โดมินิค โซลันเก้ ไม่สามารถทำสอดแทรกตำแหน่งในทีมได้เลย แถมยังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามอีกด้วย อย่างไรก็ตามชื่อเสียงในสมัยเป็นนักเตะเยาวชน บวกกับอายุที่ยังน้อยลิเวอร์พูล จึงสามารถขายต่อให้กับบอร์นมัธ ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 19 ล้านปอนด์เลยทีเดียว เรียกได้ว่าฟันกำไรเน้นๆ จอร์แดน ไอบ์ - หลังจากที่พลพรรคหงส์แดง ต้องเสีย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ให้กับทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาก็หวังที่จะปลุกปั้นดาวรุ่งคนใหม่ขึ้นมาแทนที่ นั่นก็คือ จอร์แดน ไอบ์ แนวรุกริมเส้นที่มีความเร็วอันจัดจ้านไม่แพ้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลย แต่สุดท้ายแล้ว จอร์แดน ไอบ์ ก็ไม่สามารถแทนที่ของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้เลย ไม่ว่าจะพยายามให้โอกาสกี่ครั้งก็ตามแต่ เนื่องจากตัวเขามีจุดเด่นเพียงแค่อย่างเดียวนั่นก็คือความเร็วนั่นเอง แต่กระนั้น ลิเวอร์พูลก็ยังสามารถทำเรื่องน่าเหลือเชื่อขึ้นมาได้ ด้วยการขาย จอร์แดน ไอบ์ ให้กับบอร์นมัธ ไปด้วยค่าตัวสูงถึง 15 ล้านปอนด์ ฟันกำไรอย่างงาม สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “ปาร์กเกอร์” ผิดหวังหลัง “โทนี่” ข่านทวีตเกม ฟูแล่ม

“คาร์ราเกอร์” ชื่นชมฟอร์ม “ฟาบินโญ่” ช่วยหงส์ประหยัดงบซื้อกองหลังใหม่

ฟาบินโญ่

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ออกโรงชื่นชม ฟาบินโญ่ กองกลางสารพัดประโยชน์ว่าสามารถเล่นกองหลังจน "หงส์แดง" ไม่ต้องใช้เงินซื้อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ โดย ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าต้องการผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ หลังปล่อยตัว เดยัน ลอฟเรน ไปให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทำให้ในปัจจุบัน "หงส์แดง" เหลือผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางในทีมชุดใหญ่เหลือเพียง 3 คน ประกอบด้วย เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ซึ่งหลายคนมองว่าไม่น่าเพียงพอกับการลงเล่นในซีซั่นนี้ซึ่งต้องแข่งขันถึง 4 ถ้วย ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงกระนั้นในเกมกับ เชลซี เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกชนะ เชลซี 2-0 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "หงส์แดง" ต้องส่ง ฟาบินโญ่ ซึ่งเดิมทีเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับถอยลงไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เนื่องจาก โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ได้รับบาดเจ็บก่อนเกมกันทั้งคู่ โดย ฟาบินโญ่ ถูกมองว่าจะเป็นจุดอ่อนของทีมในเกมดังกล่าว ถึงกระนั้นเรื่องนี้กลับผิดคาดเพราะแข้งทีมชาติบราซิลเล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางได้อย่างยอดเยี่ยม และเอาชนะแนวรุกของ เชลซี อย่าง ติโม แวร์เนอร์ และไค ฮาแวร์ทซ์ ได้อย่างอยู่หมัด ทำให้ "ดิ แอธเลติก" สื่อสหรัฐ เปิดเผยว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่ซื้อตัวกองหลังรายใหม่แล้ว แม้จะมีข่าวอย่างหนักกับ โอซาน คาบัค ดาวเตะจาก ชาลเก้04 เนื่องจากเชื่อว่า ฟาบินโญ่จะสามารถเป็นเซ็นเตอร์รายที่ 4 ของทีมได้ และจะดัน บิลลี่ คูเมติโอ้ กองหลังดาวโรจน์มาเป็นกองหลังคนที่ 5 ในทีมชุดใหญ่ โดยล่าสุด เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของ ลิเวอร์พูล ออกมาชื่นชม ฟาบินโญ่ว่ามีความสามารถจนช่วยทีมประหยัดงบในการซื้อนักเตะใหม่ "ลอฟเรน ย้ายจากทีมไป มาติป เอาแน่เอานอนเรื่องความฟิตไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างจาก โจ โกเมซ ทำให้มีแต่คนบอกว่า ลิเวอร์พูล ต้องหาผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเพิ่ม" "อย่างไรก็ตาม ฟาบินโญ่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากๆในเกมล่าสุด โดยสาเหตุคงเป็นเพราะว่าเขาคือผู้เล่นกองกลางตัวพักบอล ทำให้เข้าใจธรรมชาติของเกมเป็นอย่างดีเหมือนกับ แฟร์นันดินโญ่ ของ

นักเตะไม่ยอมจบสัญญา!ต้นสังกัดแฉสองทีมยักษ์ใหญ่จ้องปาดหน้าคว้า “ติอาโก้”

ติอาโก้

ศึกระอุต่างลีกในการชกตัวนักเตะครั้งนี้ดูเหมือนจะยังไม่จบง่ายๆหากตลาดยังไม่ปิด เพราะล่าสุดต้นสังกัดของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ออกมาประกาศถึงความรู้สึกที่เริ่มจะหมดความอดทนกับ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ในลีกผู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว จะต้องมีทีมใดทีมหนึ่งที่ต้องตัดหน้าคว้าตัวนักเตะในสัปดาห์สุดท้ายของการซื้อ-ขายเพื่อต้องการลดค่าหัวนักเตะให้ได้มากที่สุด หลังจากที่ทีมพยายามยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้แก่นักเตะแต่สุดท้ายก็ได้รับคำปฏิเสธกลับมา "ติอาโก้ อัลกันตาร่า" ยอดผู้เล่นกองกลางของทีมบาเยิร์น มิวนิก สโมสรระดับแถวหน้าแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ล่าสุดทีมต้นสังกัดได้ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่านักเตะยังคงนิ่งเฉยกับสัญญาฉบับใหม่ที่ทีมได้ยื่นข้อเสนอให้ ถึงแม้ว่าในอีกไม่นานนี้ตลาดซื้อ-ขายนักเตะใกล้จะปิดฉากลงเต็มที แต่ยังคงไร้วี่แววทีมดังที่นักเตะตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายตัวมาตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งตัวประธานสโมสรทีมเองเชื่อว่าไม่ทีมใดก็ทีมหนึ่งต้องการที่จะดึงเวลาในการซื้อตัวนักเตะหวังที่จะลดค่าตัวลงและทีมจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน “ผมคิดว่าดีลในการคว้าตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า มันกลายเป็นสงครามปั่นประสาทไปเสียแล้ว ผมต้องยอมรับว่าทีมได้ยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้แก่นักเตะแต่เขาเลือกที่จะเพิกเฉย เขาบอกว่าต้องการย้ายทีมเพื่อไปหาประสบการณ์ใหม่แต่เชื่อไหมในเวลานี้ยังไม่มีทีมไหนเลยสักทีมที่แสดงตัวออกมา ผมคิดว่าพวกเขาต้องการที่จะเล่นเกมกับเราเพื่อให้เราลดค่าตัวนักเตะลงตามที่พวกเขาต้องการ และแน่นอนว่า 2 ทีมนั้นคงจะไม่พ้นทีมลิเวอร์พูล หรือ ทีมแมนเชตเตอร์ ยูไนเต็ด” ประธานสโมสรทีม กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufa369 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล ลาแล้ว อาร์เซนอล “มาร์ติเนซ” ย้ายไปอยู่กับ แอสตันวิลล่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์[บทวิเคราะห์]เจาะลึก 3 จุดแข็งของ “จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม” ที่ บาร์ซ่า อยากได้ตัวขอพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด! “เฟร็ด” เผยเส้นทางค้าแข้งไม่หวั่นแม้ผีมีตัวดี

[บทวิเคราะห์]เจาะลึก 3 จุดแข็งของ “จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม” ที่ บาร์ซ่า อยากได้ตัว

ไวจ์นัลดุม

แม้ว่า จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม จะยังดูมีความสุขดีที่ได้ค้าแข้งให้กับทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่กองกลางดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รายนี้ ยังไม่ยอมจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล ก็ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับเหล่าแฟนบอลหงส์แดง เป็นอย่างมาก ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า โรนัลด์ คูมันน์ กุนซือคนใหม่ของบาร์เซโลน่า ต้องการตัวเขาไปบัญชาเกมในแดนกลางให้กับทีม สงสัยไหมล่ะครับว่าเพราะอะไร 3 จุดแข็ง "จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม" ที่ทำให้บาร์เซโลน่า ต้องการตัว การผ่านบอล – หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่กองกลางที่ดีทุกควรจะมี นั่นก็การผ่านบอลที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง และก็ดูเหมือนว่าทางด้านของ จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุมจะมีคุณสมบัติข้อนี้อยู่ในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม เพราะไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลในระยะสั้น หรือการผ่านบอลในระยะไกล กองกลางดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รายนี้ ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุมมีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลระยะไกลสำเร็จ สูงถึง 1.6 ครั้งต่อเกม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ทุกหนึ่งเกมเขาจะมีการจ่ายบอลระยะไกล 2 ครั้ง แถมยังมีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลระยะไกลผิดพลาด เพียงแค่ 0.4 ครั้งต่อเกมเท่านั้น การเข้าสกัดบอล – บทบาทที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ มอบหมายให้กับ จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุมในการลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ก็คือการจับคู่กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในแดนกลาง ในการบดบี้และทำลายเกมของคู่ต่อสู้ ร่วมกับการเชื่อมเกมระหว่างแดนหลังไปสู่แดนหน้า และเจ้าตัวก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะในการดวลกับบรรดาแนวรุกฝีเท้าฉกาจทั้งในพรีเมียร์ลีก และยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก เขาปล่อยมีการเลี้ยงบอลผ่านเขาไปได้เพียงแค่ 0.3 ครั้งต่อเกมเท่านั้น  ซึ่งสถิติดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่ดีที่สุด หากเทียบกับกองกลางทุกคนในทัพหงส์แดง แถม จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุมยังเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยได้รับใบเหลืองจากการเข้าสกัดบอลอีกด้วย การสร้างสรรค์จังหวะทำประตู – ด้วยระบบการเล่นของลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ มักจะเลือกขึ้นเกมทางฟูลแบ็คทั้งสองฝั่งมากกว่า ทำให้แดนกลางของพวกเขาไม่ค่อยจะมีบทบาทในการสร้างสรรค์จังหวะการทำประตูมากซักเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุมก็ถือเป็นกองกลางที่สามารถสร้างสรรค์จังหวะการทำประตูได้ดีทีเดียว เพราะในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา เจ้าตัวสร้างสรรค์จังหวะการทำประตูให้ทัพหงส์แดงไปมากถึง 1.96 ครั้งต่อเกม แม้ว่าบทบาทที่เขาได้รับจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่ใช่ตำแหน่งกองกลางตัวรุกก็ตาม สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufahero เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล หลายคนไม่รู้จัก! “อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ” เป็นใคร ทำไม “แลมพาร์ด” ถึงต้องการตัวอาร์เซนอล ขายนักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศษ “เกนดูซี่” ไม่ออก“เอ็มบั๊ปเป้” บอก ปารีสฯ จะต้องเริ่มใหม่ เพื่อไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ลิเวอร์พูล สุดคึกพร้อมลงป้องกันแชมป์ลีก กับยูงทอง เป็นนัดแรก

ลิเวอร์พูล ลีดส์

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2020/21 ที่ทีมแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดสนามรับการมาเยือนของทีมยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์หวังที่จะรักษาแชมป์พรีเมียร์ลีกเอาไว้ให้ได้ต่ออีกหนึ่งปี ส่วนลีดส์ก็เตรียมพร้อมสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ทีมอย่างเต็มที่ โดยมีจำนวนเกม 38 เกมรออยู่ในรอบหนึ่งปีข้างหน้า แม้ว่าลิเวอร์พูลจะแพ้ในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์จากการดวลลูกโทษกับอาร์เซนอลเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เพียงแต่ว่านั่นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นยังมีอะไรให้เราได้สนุกตื่นเต้นอีกมากมาย ฤดูกาลที่ผ่านไปก็ถือว่าไม่มีอะไร ทุกทีมต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งหันใหม่อีกครั้ง ส่วนทางด้านลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นทีมน้องใหม่ที่ขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 16 ปี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวอาร์เจนตินา มาร์เซลโล่ บิเอลซ่า ส่วนหงส์แดงจะออกสตาร์ทนับหนึ่งใหม่เป็นการป้องกันแชมป์จากเมื่อซีซั่นที่แล้ว ที่เกมแรกสามารถเอาชนะ นอริช ซิตี้ได้ 4-1 เมื่อช่วงเปิดฤดูกาล และใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ ลิเวอร์พูล ได้ลงสนามช่วงเกมปรีซีซั่นเพียงสามเกมเท่านั้น และได้เปิดฤดูกาลทันที ซีซั่น 2020/21 นี้เป็นฤดูกาลที่แตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ ที่มีเรื่องของพิษไวรัสโคโรน่าระบาด ทำให้วงการฟุตบอลทั่วโลกต้องมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันหมด ลิเวอร์พูลจะมาลงเล่นในระบบ 4-3-3 ที่แฟนบอลคุ้นตาแน่นอน เพราะว่าการมีหน้าเป้าสามคนทำให้พวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว กุนซือชาวเยอรมัน วางแผนการเล่นที่ระบบ 4-3-3 ซึ่งฟูลแบ๊กจะเข้ามามีบทบาทต่อเกมรุกเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะกว่า 5 ตำแหน่งจากเกมที่ชนะแบล๊คพูล ในเกมนัดกระชับมิตรล่าสุด โดยเกมนั้นผู้เล่นต่างไปเล่นเกมทีมชาติพอดี อลิสซง เบคเกอร์เป็นผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งของทีมเช่นเคย ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนลด์, โจโกเมซ, เฟอร์จิลฟานไดจ์ค และ  แอนดี้ โรเบิร์ตสันจะลงสนามในแผงหลังสี่คน กองกลางสามคนคาดเดาได้ยากมาก แต่เชื่อว่าคล็อปป์น่าจะจัด นาบี้ เกอิต้า, ฟาบินโญ่และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ลงสนามเพื่อให้ทีมเกิดความสมดุลในเกมอย่างมาก สามกองหน้าก็เป็นกองหน้าชุดเดิมคือ ซาดิโอ มาเน่ ที่มีข่าวจะย้ายไปเล่นกับนายเก่า โรนัลด์ คูมัน,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Vegus688 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล หลายคนไม่รู้จัก! “อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ” เป็นใคร ทำไม “แลมพาร์ด” ถึงต้องการตัวอาร์เซนอล ขายนักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศษ “เกนดูซี่” ไม่ออก“เอ็มบั๊ปเป้” บอก ปารีสฯ จะต้องเริ่มใหม่ เพื่อไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

สื่อเผย! “แวร์เนอร์” ถูกทาบทามจากทีมใหญ่ก่อนโดนเชลซีสอยตัว

แวร์เนอร์

สื่อข่าวชื่อดังเมืองเบียร์ตีข่าว ก่อนที่ทีมสิงโตน้ำเงินครามจะปิดดีนสำเร็จคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ สุดยอดกองหน้าอนาคตไกลมาร่วมทำศึก มีอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ที่ส่งตัวแทนมาขายขนมจีบแล้วเปิดโต๊ะพูดคุยถึงเรื่องสัญญาของนักเตะอย่างจริงจัง นั่นก็คือทีมเรือใบสีฟ้า โดยมีกุนซือใหญ่ของทีมเป็นคนต่อสายตรงยกหูโทรศัพท์หาตัวนักเตะด้วยตัวเองไม่ใช่ทีมลิเวอร์พูลแบบที่ทุกคนเข้าใจกันเลยสักนิด  "ติโม แวร์เนอร์" สุดยอดกองหน้าอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งวงการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะเปิดศึกชิงตัว ติโม แวร์เนอร์สุดยอดกองหน้าอนาคตไกลเข้ามาร่วมทีมให้ได้ หลังจากที่นักเตะตกเป็นเป้าหมายหัวของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า แถมกุนซือรายนี้เยี่ยมเป็นคนยกหูโทรศัพท์เพื่อพูดคุยและโน้มน้าวจิตใจนักเตะเกี่ยวกับเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่เขาจะได้รับหากตกลงรับข้อเสนอในการเป็นนักเตะภายใต้สังกัด แต่สุดท้ายแล้วแข้งวัย 24 ปีก็เลือกที่จะปฏิเสธไปในที่สุดและย้ายมาค้าแข้งกับทีมเชลซีแทน เพราะกุนซือใหญ่ของการันตีพื้นที่ในสนามการเป็นนักเตะตัวจริงที่เขาจะได้รับหากเลือกค้าแข้งด้วยกัน ศึกพรีเมียร์ลีกหนังใหม่ที่จะเปิดฤดูกาลกันอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าเราจะได้เห็นโฉมลีลาการเล่นของ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าไฟแรงอย่างแน่นอนหลังจากที่เขาได้ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวจริง และกุนซือใหญ่จะเลือกใช้งานเขาให้กลายเป็นผู้เล่นหลักในการไล่ล่าคว้าถ้วยแชมป์ของศึกครั้งนี้ทุกเกม ก่อนหน้านี้ทีมได้เจรจาคว้าตัวนักเตะด้วยสัญญาที่ 53 ล้านปอนด์หรือประมาณ 2,100 ล้านบาท และมอบสัญญาอายุการทำงานระยะยาวถึง 5 ปีเต็ม บวกกับออฟชั่นที่นักเตะจะได้รับค่าเหนื่อยจากสโมสรถึงสัปดาห์ 7 ล้านบาท สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ราชันชุดขาว หวังปล่อย “แกเร็ธ เบล” เซฟค่าเหนื่อย 30 ล้านปอนด์“ตราโอเร่” ตัดสินใจถอนตัวจากสเปน หลังติดเชื้อโควิด-19“เมมฟิส เดอปาย” ประกาศชัด แค่มีสมาธิให้กับ ลียง เท่านั้น