“โรเมโร่” ชวดร่วมงาน “เบ็คแฮม” สื่อดังแฉสาเหตุเพราะ ดีลล่ม

"โรเมโร่" ชวดร่วมงาน “เบ็คแฮม”

            โรเมโร่ นายทวารจอมเก๋าของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แทบจะหมดอนาคตในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นที่แน่นอนแล้ว หลังต้องตกเป็นเพียงแค่ผู้รักษาประตูมือ 3 ของทีม รองจาก “ดาบิด เด เคอา” ที่จองสัมปทานมือ 1 มากว่า 7 ปี และ “ดีน เฮนเดอร์สัน” นายทวารอนาคตไกลที่ขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งมือ 2 ไปได้ในฤดูกาลนี้  โดยล่าสุด สื่อดังเมืองผู้ดีได้ออกมาแฉว่า โรเมโร่เกือบได้ย้ายไปค้าแข้งกับ อินเตอร์ ไมอามี่ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายดีลก็ล่มเพราะติดแค่ปัญหาเดียวเท่านั้น "โรเมโร่" อดย้ายโกยเงินลีกมะกัน เนื่องจาก “ปีศาจแดง” เรียกค่าตัวสูงเกินไป             ตามการเปิดเผยของ เดลี่ เมล สื่อดังของอังกฤษ ระบุว่าโรเมโร่ นายทวารจอมหนึบของทัพ “ปีศาจแดง” เกือบปิดฉากการค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการย้ายไปเฝ้าเสาให้กับทีมน้องใหม่ในศึก เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ อย่าง อินเตอร์ ไมอามี่ ที่มี “เดวิด แบ็คแฮม” เป็นเจ้าของ เมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ทว่ามือกาววัย 33 ปีก็อดย้ายทีม เนื่องจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียกค่าตัวสูงเกินไป การเจรจาจึงล่าช้ากว่ากำหนดจนตลาดซื้อ-ขายนักเตะของลีกแดนมะกันปิดตัวลงในวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ โรเมโร่จำต้องนั่งแช่อยู่ในตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 3 ของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไปจนถึงเดือนมกราคมเป็นอย่างน้อยเพื่อรอตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงฤดูหนาวเปิดนั่นเอง นอกจากโรเมโร่ กับทัพ “ปีศาจแดง” จะเจรจาเพื่อขอยกเลิกสัญญากันทั้งสองฝ่าย ซึ่งวิธีนี้จะทำให้มือกาวชาวอาร์เจนไตน์สามารถย้ายทีมหรือหาทางใหม่ได้แบบไม่มีค่าตัว              ทั้งนี้ โรเมโร่ ย้ายจาก ซัมป์โดเรีย ทีมดังในศึก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี มาค้าแข้งอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งมือ 1 จาก ดาบิด เด เคอา ได้ จนทำให้ โรเมโร่ ต้องตกเป็นผู้รักษาประตูมือ 2 และมีโอกาสลงเฝ้าเสาให้ต้นสังกัดเฉพาะในฟุตบอลถ้วยเท่านั้น ตลอด 6 ซีซันที่อยู่กับทัพ “ปีศาจแดง” โรเมโร่ได้ลงเฝ้าเสาไปแค่ 61

ทำไมไม่เป่าฟาวล์! “เอวร่า” โวยกรรมการตาบอดไม่เป่าเป็นจุดโทษจาก “แม็กไกวร์”

ไม่เป่า “แม็กไกวร์”

ยังไงก็รับไม่ได้ ปาทริซ เอวร่า ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังจากที่เห็นลีลาการเล่นในสนามของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ทำผิดกติกาจากการใช้แขนล็อคคอ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เป็นการขัดขวางจังหวะไม่ให้นักเตะเข้าหาบอลแบบจงใจ มองว่ากรรมการควรจะเป่าฟาวล์และชี้ให้เป็นจุดโทษแต่สุดท้ายแล้วกะปล่อยให้นักเตะเดินเกมต่อไปโดยไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด จากการรายงานข่าวฟุตบอลต่างประเทศ สกาย สปอร์ต เกมการแข่งขันของศึกดาร์บี้แมตช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมปีศาจแดง เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับทีมคู่ปรับร่วมตาราง ทีมสิงโตน้ำเงินคราม โดยเกมนี้ปิดฉากการแข่งขันไปด้วยสกอร์ 0-0 แบ่งคะแนนเข้ากระเป๋ากันไปคนละ 1 แต้ม ซึ่งในระหว่างเกมการแข่งขันได้เกิดประเด็นถกเถียงอย่างมากมายจากการเล่นบอลของ "แฮร์รี่ แม็กไกวร์" ที่จู่ ๆ กลับใช้แขนล็อคคอผู้เล่นแนวรับของทีมฝ่ายตรงข้าม โดยมองว่าจังหวะนี้กรรมการควรจะเป่านกหวีดและชี้เป็นจุดโทษของเกม และอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนพลิกสถานการณ์ให้ทีมเยือนนำประตูก็เป็นได้ “นี่คือการแข่งขันฟุตบอลไม่ใช่การแข่งขันศึกชิงเข็มขัดมวยปล้ำมันเป็นเรื่องน่าตลกอย่างมากที่เขาใช้แขนล็อคคอผู้เล่น ไม่ว่าคุณจะย้อนให้ดูภาพ VAR กี่สิบครั้งกรรมการก็สมควรเป่าเป็นจุดโทษ แต่เขากลับปล่อยให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เล่นเกมต่อไปผมได้แต่ตะโกนในระหว่างรับชมว่านี่มันบ้าอะไรกันพวกคุณตาบอดกันหรือไงผมไม่เข้าใจว่ากรรมการคิดอะไรอยู่ ผมมองเกมอย่างตรงไปตรงมาซึ่งมันอาจจะทำให้เกมการแข่งขันในสนามนี้สกอร์เปลี่ยนไปทีม สิงห์บลูส์พวกเขาอาจจะเป็นฝ่ายชนะในเกมนี้อย่างน้อยก็จากการยิงจุดโทษ” แข้งชาวฝรั่งเศส กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “บิลิช” เชื่อ “จอห์นสโตน” ช่วย WBA อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1ไม่ปิดโอกาส!เสือเหลืองเผยเกือบปล่อยตัว “ซานโช่” หากดีลไม่ล่มก่อน

“เบิร์บ” แนะปีศาจแดงส่ง “ตวนเซเบ้” ลงเป็นตัวจริงได้แล้ว

"เบิร์บ" แนะปิศาจแดงส่ง "ตวนเซเบ้" ลงตัวจริงได้แล้ว

อักเซิล ตวนเซเบ้ เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เกมที่แมนยูบุกเยือนเปแอสเชในการประเดิมสนามแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020/21 aที่ปารีสเมื่อเย็นวันอังคาร ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตแข้งปิศาจแดง เชื่อว่า อักเซิล ตวนเซเบ้กองหลังควรได้ลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมหลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมชนะปารีสแซงต์ - แชร์กแมง 2-1 ในแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อเย็นวันอังคาร เมื่อแฮร์รี่ แม็คไกวร์พลาดการลงสนามเกมนี้ ทำให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชากุนซือของแมนยูไม่มีทางเลือกอื่นๆ จัดกองหลังลงสนามเพียงแค่สามคน คือตวนเซเบ้ ยืนเคียงข้างกับวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟและลุค ชอว์ และเกมนี้แนวรับของแมนยูต้องเผชิญกับกองหน้าที่อันตรายของเปแอสเชคือ เนย์มาร์และคิลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่ตวนเซเบ้ก็เล่นอย่างมั่นใจและมีส่วนสำคัญให้ทีมปิศาจแดงได้สามแต้มจากเกมนัดนี้ เป็นการประเดิมรายการแชมเปี้ยนส์ลีก 2020/21 อย่างสวยหรู และหลังจากการเล่นที่ยอดเยี่ยม เบอร์บาตอฟหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโอกาสของตวนเซเบ้ในการลงสนามให้แมนยูน่าจะมีโอกาสมากขึ้น ในช่วงเวลาถัดจากนี้ ผมคิดว่ากองหลังผิวหมึกยอดเยี่ยมในการป้องกันสำหรับอายุแค่นี้ เขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่และความแข็งแกร่งมาก ผมพูดในช่วงปรีซีซั่นว่าปิศาจแดงต้องการเซ็นเตอร์แบ็ค แต่บางทีการที่มี "ตวนเซเบ้" อยู่ในทีม ก็น่าจะโอเคอยู่แล้ว ผมคิดว่าเขาเป็นตัวเลือกแรกๆได้ ชัยชนะต่อเปแอสเช ทีมรองแชมป์ ucl 2019/20 เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับหลาย ๆ คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่แพ้สเปอร์ส 1-6 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่ก่อนพักเบรกไปแข่งทีมชาติ แม้จะเอาชนะนิวคาสเซิล ได้ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อน้ำยา แมนยูอยู่ดีว่าจะเก็บแต้มออกมาจากปารีสได้ และแมนยูทำได้ เบอร์บาตอฟปลุกเร้าให้แมนยูรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวากว่านี้ และเชื่อว่าการที่อดีตทีมคว้าตัวเอดินสัน คาวานี่เข้าทีมเป็นเรื่องดีแน่นอน เบิร์บกล่าวเสริมอีกว่า ตวนเซเบ้ไม่ได้ดูหวาดกลัวหรือหวาดกลัวกับชื่อใหญ่ที่เขาต้องปกป้องและเกมแบบนี้จะทำให้เขามีความมั่นใจเขาได้สร้างกรณีให้กับตัวเองว่าเขาควรเล่นมากกว่านี้ มันเป็นเพียงเกมเดียว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีคุณสมบัติทั้งหมดของกองหลังที่ยอดเยี่ยม - ความเร็วและความแข็งแกร่งพร้อมกับการเล่นลูกโหม่งที่ดีทำให้ทีมปิศาจแดงสามารถพึ่งพาเขาได้ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เกมไทยลีกนัดที่ 9 สิงห์ เชียงราย เปิดบ้านเฉือน ราชบุรี แบบดราม่า 2-1ไม่ปิดโอกาส!เสือเหลืองเผยเกือบปล่อยตัว “ซานโช่” หากดีลไม่ล่มก่อนกำลังใจล้น! บรรดาเพื่อนนักเตะโพสเอาใจช่วย “ฟาน ไดค์” หลังเจ็บพักยาว

“เดมเบเล่” ชวดย้ายซบผีแดง สื่อดังแฉสาเหตุดีลล่มเพราะอะไร

"เดมเบเล่" ชวดย้ายซบผีแดง

            เดมเบเล่ (Ousmane Dembélé) ปีกตัวเก่งของ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลิกา สเปน ตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายทีมกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากเกาะอังกฤษอย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์จะปิดตัวลงเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถึงขนาดมีกระแสข่าวว่า เดมเบเล่สามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ได้แล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ผีแดงยื่นข้อเสนอถึงเจ้าบุญทุ่มอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ทว่า จนแล้วจนรอดดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น  โดยล่าสุด สื่อดังแดนผู้ดีได้ออกมาแฉถึงสาเหตุที่ทำให้ เดมเบเล่ชวดการมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าตัวเลยแม้แต่น้อย "เดมเบเล่" ปฏิเสธต่อสัญญากับ “เจ้าบุญทุ่ม” จนทำให้ดีลล่ม             ตามการรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของอังกฤษระบุว่า เดมเบเล่เกือบจะได้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังทีม “ปีศาจแดง” สามารถตกลงเรื่องเงื่อนไขส่วนตัวกับดาวเตะวัย 23 ปีได้แล้ว แถมการเจรจากับต้นสังกัดอย่าง บาร์เซโลนา ก็ทำท่าว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยอมจ่ายค่า “ยืมตัว” มูลค่าตัวหลักสิบล้านให้กับทางเจ้าบุญทุ่ม รวมถึงช่วยจ่ายค่าเหนื่อยของ เดมเบเล่อีกต่างหาก โดยมีออปชั่นซื้อขาดในซีซันหน้า  อย่างไรก็ตาม ทางยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันยืนกรานให้ เดมเบเล่ต่อสัญญากับสโมสรออกไปถึงปี 2023 ก่อนจะเก็บข้าวข้องย้ายมาค้าแข้งที่อังกฤษ จากเดิมที่สัญญาของแข้งทีมชาติฝรั่งเศสจะหมดลงในปี 2020  เนื่องจาก บาร์เซโลนา เกรงว่าจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในซีซันหน้า หากยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใช้ข้ออ้างเรื่องสัญญาที่เหลือเพียงปีเดียวมาบีบให้สโมสรต้องจำใจขาย เดมเบเล่ในราคาถูก ๆ ซึ่ง เดมเบเล่ปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับ บาร์เซโลนา จนทำให้ดีลการย้ายทีมล่มลงในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “โรเมโร่” ผู้รักษาประตูอดทน ที่อดย้ายออกจากรังปีศาจแดงเอฟเวอร์ตัน เสริมทัพต่อเนื่อง คว้ากองหลังดาวรุ่งก่อนตลาดวายลิเวอร์พูล ดวงแตกจนพ่ายแพ้ แอสตัน วิลล่า ยับด้วยสกอร์ 7-2

“โรเมโร่” ผู้รักษาประตูอดทน ที่อดย้ายออกจากรังปีศาจแดง

"โรเมโร่" ผู้รักษาประตูอดทน

                ต้องบอกว่าเป็นนักเตะที่โชคร้ายอีกคน สำหรับผู้รักษาประตูตัวสำรองของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่าง เซอร์จิโอ โรเมโร่ ที่ยังคงต้องอยู่กับทีมต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นมือกาวมากฝีมือแต่กลับต้องเป็นที่ตัวเลือกอันดับสามภายใต้การคุมทีมของโอเล กุนนาร์ โซลซาพร้อมกับอดย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายนั่นเองปีนี้อีกด้วย จนทางภรรยาถึงกับเอ่ยปากต่อว่าสโมสรปีศาจแดงผ่านทางอินสตราแกรมเลยทีเดียว                 สำหรับเซอร์จิโอ โรเมโร่ผู้รักษาประตูตัวสำรองของทีมนั้น ได้ย้ายมาสู่รังปีศาจแดงในปี 2015 โดยเป็นทางหลุยส์ ฟาน กัลป์อดีตนายใหญ่ที่เป็นคนดึงตัวเขามาร่วมทีมอีกครั้ง โดยเจ้าตัวถือเป็นนายทวารที่เข้ามาเป็นกำลังสำรองให้เดบิด เด เกอาในรายการฟุตบอลถ้วยต่างๆ ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ทีมได้แชมป์เอฟเอคัพในยุคของฟาล กัลป์ รวมทั้งเป็นผู้เล่นที่ผ่านทีมเข้ารอบและเป็นแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้าลีกในปี 2017 อีกด้วย                 จนกระทั่งการเข้ามาของโอเล กุนนาร์ โซลชาที่ทำให้ผู้รักษาประตูตัวสำรองคนนี้ไม่มีโอกาสลงสนามอย่างเคย อีกทั้งการได้ดีน เฮนเดอร์สันเข้ามาทำให้เขากลายเป็นนายทวารอันดับสามพร้อมกับขอย้ายออกจากทีมในตลาดซื้อขายนักเตะปี 2020 โดยมีเอฟเวอร์ตันให้ความสนใจ แต่สุดท้ายการซื้อขายที่ล่าช้าของทีมจะทำให้เจ้าตัวอดย้าย จนกระทั่งภรรยาของเขาอย่างเอไลน่า ได้วิจารณ์ทีมผ่านสังออนไลน์เลยว่า พวกเขาไม่ให้เกียรตินักเตะที่เคยผ่านทีมเป็นแชมป์อย่างโรเมโร่เลย                 แม้ว่าตลาดซื้อขายนักเตะในทวีฟยุโรปจะจบลงไปแล้ว แต่ทว่าผู้รักษาประตูตัวสำรองคนนี้อาจมีหนทางย้ายได้อีก หากเขายอมถูกส่งไปให้ทีมในลีกรองยืมตัว แต่ทว่าด้วยค่าเหนื่อยประจำสัปดาห์ของเขาที่ถือว่าสูงเกินมาตรฐานของฟุตบอลทีมเล็ก คงทำให้อนาคตของเจ้าตัวคงยังต้องนั่งอยู่ริมสนามให้กับปีศาจแดงต่อไปนั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาการหนัก!! อยู่กลุ่มเดียวกับ เปแอสเชพาไปชม 3 นักเตะส่วนเกินของทีม ที่ถูก ลิเวอร์พูล ขายออกไปด้วยค่าตัวสุดแพงทัพเรือใบสีฟ้า สอย “รูเบน ดิอาส” อุดแนวรับ 65 ล้านปอนด์

ขอพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด! “เฟร็ด” เผยเส้นทางค้าแข้งไม่หวั่นแม้ผีมีตัวดี

เฟร็ด สุดยอดกองกลางฝีเท้าดีของทีมปีศาจแดง ได้ออกมาเปิดเผยเส้นทางค้าแข้งของตัวเองผ่านสื่อ หลังจากที่คลุมเครือมาตลอดทั้งฤดูกาลว่าสุดท้ายแล้วนักเตะจะยอมอยู่กับทีมต้นสังกัดไปหรือจะย้ายไปอยู่กับทีมอื่น แต่ล่าสุดนักเตะได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองแล้วว่าจะยังคงเดินหน้าไล่ล่าตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงกับทีมต่อไป ถึงแม้ว่าทีมเพิ่งจะได้นักเตะป้ายแดงไฟแรงอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เข้ามาร่วมเสริมทีม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียความมั่นใจแต่อย่างใดกลับมองว่าเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย จากการรายงานข่าวของสื่อฟุตบอลต่างประเทศ  "เฟร็ด" มิดฟิลด์ตัวเก่ง ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรระดับแถวหน้าแห่งวงการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า ในฤดูกาลนี้เขาจะไม่ย้ายออกจากทีมต้นสังกัดและไปอยู่กับทีมอื่นอย่างแน่นอน ลั่นพร้อมขอพิสูจน์ฝีเท้าตัวเองเชื่อมั่นว่าตนมีดีพอที่จะยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงได้ไม่แพ้ใคร ถึงแม้ในตอนนี้ทีมจะคว้าตัวผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่องก็ตามที เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับทีมและทุกฝ่ายเพื่อเป้าหมายในการไล่ล่าถ้วยแชมป์ หากดูจากผลงานในฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา กองกลางชาวบราซิลเลี่ยนสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ยอมรับ แต่เนื่องจากแผนการทำทีมครั้งใหม่ของกุนซือใหญ่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ทำให้ตำแหน่งในแดนกลางมีตัวเลือกนักเตะด้วยกัน 3 คน “แน่นอนว่าผมจะไม่ย้ายออกจากทีมในฤดูกาลนี้มันไม่มีเหตุผลที่ว่าเมื่อทีมดึงตัวนักเตะคนใหม่เข้ามาและความสำคัญของคุณจะต้องลดน้อยลง นักเตะทุกคนมีหน้าที่และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำแผนทีมของกุนซือใหญ่ แถมมันยังเป็นผลดีกับทีมของเราด้วยซ้ำที่เรามีผู้เล่นที่แข็งแกร่งให้เลือกใช้งาน” เฟร็ด กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufa9999 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล หลายคนไม่รู้จัก! “อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ” เป็นใคร ทำไม “แลมพาร์ด” ถึงต้องการตัวอาร์เซนอล ขายนักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศษ “เกนดูซี่” ไม่ออก“เอ็มบั๊ปเป้” บอก ปารีสฯ จะต้องเริ่มใหม่ เพื่อไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ไม่รู้ว่าลีลาดี “มอยส์” เผย!สมัยคุมแมนยูเมินสัญญาทาบทามติอาโก้

มอยส์

เดวิด มอยส์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังว่าในสมัยที่เขายังคงคุมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีความคิดที่จะกระชากตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า แข้งกองกลางตัวเก่งของทีมบาเยิร์น มิวนิค เข้ามาร่วมทัพเลยสักนิด ยอมรับว่าในตอนนั้นไม่ทราบว่านักเตะลีลาสไตล์การเล่นเป็นแบบไหน หากเปรียบเทียบความสนใจโดยส่วนตัวแล้วเขาพุ่งเป้าไปที่ เชส ฟาเบรกาส ที่สมัยนั้นเป็นนักเตะภายใต้สังกัดทีมคู่ปรับร่วมลีกทีมสิงโตน้ำเงินคราม  "เดวิด มอยส์" ผู้จัดการทีมประสบการณ์สูงทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรที่มีชื่อเสียงในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าในตอนนั้นเขาได้ปฏิเสธที่จะคว้าตัว ติอาโก้ แข้งกองกลางฝีเท้าดี ให้มาอยู่ค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงเพราะไม่ได้มีความสนใจและไม่มีความรู้เรื่องสไตล์การเล่นของนักเตะ ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นนักเตะให้ความสนใจที่อยากจะมาอยู่กับทีมเพราะต้องการย้ายออกจากทีมต้นสังกัด ซึ่งค่าหัวของนักเตะในเวลานั้นอยู่ที่ 17 ล้านปอนด์หรือประมาณ 680 ล้านบาท ซึ่งคนที่พยายามผลักดันให้สัญญาการคว้าตัวแข้งกองกลางรายนี้สำเร็จนั่นก็คือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานของทีมนั่นเองแต่เขาก็กลับมองข้ามสัญญาไปอย่างน่าเสียดาย  “ตอนนั้นผมยังจำได้ดีทุกอย่างเป็นไปได้สวยเหลือแค่ผมเซ็นอนุมัติเท่านั้น แต่ผมกลับไม่สนใจสัญญาฉบับนี้เลยสักนิดเพราะผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นนักเตะที่มีลีลาการเล่นเป็นแบบไหนและจะเข้ากับทีมของเราได้หรือไม่ จนในที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปค้าแข้งกับทีมเสือเหลืองและอยู่เป็นกำลังสำคัญหลักจนทำผลงานให้ทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ตอนนั้นผมยอมรับว่าในหัวของผมคิดแต่จะคว้าตัวกองกลางของทีมเชลซีเข้ามาร่วมทัพให้ได้” เดวิด มอยส์ กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufaone เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล สื่อเผย! “แวร์เนอร์” ถูกทาบทามจากทีมใหญ่ก่อนโดนเชลซีสอยตัวราชันชุดขาว หวังปล่อย “แกเร็ธ เบล” เซฟค่าเหนื่อย 30 ล้านปอนด์“ตราโอเร่” ตัดสินใจถอนตัวจากสเปน หลังติดเชื้อโควิด-19

สงครามกุหลาบ – ตำนานเล่าขานของ ปีศาจแดง กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ตอน 2)

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ด้วยเหตุเริ่มต้นมาจากเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ในยามที่ทั้งสองสโมสรมีโอกาสได้ลงปะทะกันเมื่อไร ก็มักจะถูกจับ ‘สุมไฟ’ โยงความแค้นเป็นดังฟืน เข้าไปในกองไฟในสงคราม จนเป็นที่มาของ ‘สงครามกุหลาบ’  ในวงการฟุตบอลไปโดยปริยาย ซึ่งในการเจอกันระหว่าง ‘ปีศาจแดง’ กับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ จึงได้รับความสนใจจากแฟนบอลของทั้งคู่ ในการเข้ามาดูสงครามที่ทั้งสองทีมใส่ ‘สตั๊ด’ แทนดาบ ลงสนามรบห้ำหั่นกัน  เมื่อแฟนบอลรุ่นเยาว์ในยุคนี้ได้ยินชื่อของ ลีดส์ ยูไนเต็ดก็คงจะเคยเห็นแค่ว่าเป็นทีมที่วนเวียนอยู่ในลีกรองของประเทศอังกฤษ และแม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงความยิ่งใหญ่ผ่านหูมาบ้าง แต่ก็คงจะนึกไม่ออกว่าทีม ๆ นี้ เคยยิ่งใหญ่เพียงใดในอดีต ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ ไม่ใช่ทีมที่มีชื่อเสียงในฐานะแค่ว่าเป็นอริกับปีศาจแดงเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาก็เคยเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่โลดเล่นอยู่บนลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างยาวนาน ต่อสู้แย่งแชมป์กับทีมใหญ่ทีมอื่นอยู่ตลอด และแชมป์ลีกสูงสุดก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1991/92 ก็เป็น ลีดส์ ยูไนเต็ดทีมนี้ที่คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ส่วนในฟุตบอลยุโรปที่ใหญ่ที่สุดอย่าง ‘ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก’ พวกเขาก็เคยไปไกลที่สุดถึงรอบรองชนะเลิศในปี 2001 อีกด้วย โดยเรื่องความสำเร็จในวงการลูกหนังนั้น ทั้งสองทีมก็ชิงดีชิงเด่นกันมาหลายยุคหลายสมัย โดยฤดูกาล 1964/65 ‘ปีศาจแดง’ ที่กุมบังเหียนโดย ‘เซอร์ แมตต์ บัสบี้’ ได้มาเจอกับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ ที่คุมทัพโดย ‘ดอน เรวี่’  ในศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ ฮิลล์สโบโร่ "ลีดส์ ยูไนเต็ด" ไปวางมวยกับ "เดนนิส ลอว์" แม้จะจบเกมด้วยสกอร์ต้มจืด ยิงกันไม่ได้สักลูก  แต่ไฮไลท์ความเดือดในเกมนั้นไปอยู่ที่จังหวะที่ ‘แจ็คกี้ ชาร์ลตัน’ เซ็นเตอร์แบคของ ลีดส์ ยูไนเต็ดไปวางมวยกับ ‘เดนนิส ลอว์’ ของยูไนเต็ด และจากผลเสมอในเกมนี้ ทำให้ต้องไปเตะนัดรีเพลย์ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ‘ยูงทอง’ ที่เป็นฝ่ายชนะเข้ารอบชิงชนะเลิศไป  นอกจากนั้น ความแค้นในตลาดซื้อขายก็ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสงครามกุหลาบนี้ เพราะตำนานของปีศาจแดงหลาย ๆ คนอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์, เอริค คันโตน่า รวมถึง อลัน สมิธ ก็ขโมยมาจากคู่ปรับอย่าง ลีดส์ ทั้งสิ้น ไหนจะยังมีประเด็นบาดหมางส่วนตัวรายคู่ ไม่ว่าจะเป็นคู่ของ ‘รอย คีน’ กับ ‘อาล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์’ ที่ฝ่าย รอย คีน ได้รับบาดเจ็บ แต่ถูก ฮาแลนด์ กล่าวหาว่าสำออย ก่อนที่ รอย คีน จะไปเอาคืนในเกมต่อมา โดยการเสียบขาคู่ใส่ ฮาแลนด์ จนขาหัก จนเกือบต้องแขวนสตั๊ด ไหนจะยังมีคู่ของ ‘ร็อบบี้

สงครามกุหลาบ – ตำนานเล่าขานของ ปีศาจแดง กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ตอน 1)

ปีศาจแดง

หากย้อนกลับไปพูดถึงความบาดหมางระหว่างสโมสรของ ‘ปีศาจแดง’ แมนฯ ยูไนเต็ด แฟนบอลในยุคปัจจุบันก็คงนึกถึงแต่ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล หรือเพื่อนบ้านน่ารำคาญอย่าง ‘แมนฯ ซิตี้’ ที่เพิ่งจะมามีปากมีเสียงจากการเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนจากซาอุ หรือหากย้อนไปหน่อยก็อาจจะนึกถึง ‘อาร์เซนอล’ ที่นำโดยสองแม่ทัพอย่าง ‘รอย คีน’ และ ‘แพทริค วิเอร่า’ แต่หลังจากหมดยุคของสองตำนานดังกล่าว ความระอุในสนามก็ค่อย ๆ จางตามไปด้วย นอกจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งทีมที่แฟนบอลสมัยใหม่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ว่านอกจากทีมข้างต้นแล้ว ปีศาจแดงยังเคยมีอดีตที่เป็นศัตรูคู่แค้นกับ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ แถมเรื่องราวความบาดหมางไม่ได้เกิดมาจากการชิงดีชิงเด่นกันในสนามเท่านั้น แต่ยังอิงมาจากประวัติศาสตร์จริงอีกด้วย และในฤดูกาลหน้านี้ทีม ‘ยูงทอง’ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็สามารถกระเสือกกระสนฝ่าอุปสรรคขวากหนามขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษได้อีกครั้ง นั่นหมายถึงการกลับไปเจอกันอีกครั้งกับอริอย่าง ยูไนเต็ด และเพื่ออรรถรสในการรับชมฟุตบอลของแฟนบอลสมัยใหม่ที่ยังไม่เคยทราบเรื่องราว บทความนี้จะพาย้อนไปถึงตำนานความบาดหมางของอดีตสองทีมที่เคยยิ่งใหญ่ในยุคอย่าง ‘แมนฯ ยูไนเต็ด’ และ ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘สงครามกุหลาบ’ นั่งไทม์แมชชีนกลับไปในช่วงปี 1455 -1485 เวลานั้น แดนผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษ ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จากการทะเลาะกันของตระกูลราชวงศ์ ‘แพลนทาเจนเนต’ แห่งราชสกุล ‘แลงคาสเตอร์’ ที่ครองแผ่นดินอยู่ในตอนนั้น นำโดย ‘พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6’ ซึ่งมีสัญลักษณ์ประจำตระกูลเป็น ‘กุหลาบแดง’ และไม่ลงรอยกับ ‘ริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์ค’ แห่งราชสกุล ‘ยอร์ค’ โดยมีสัญลักษณ์ของตระกูลเป็น ‘กุหลาบขาว’ นี่คือที่มาเริ่มต้นของ ‘สงครามกุหลาบ’ ‘ริชาร์ด’ ได้อ้างสิทธิ์ในการครองบัลลังก์ของ ‘พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6’ โดยอ้างว่า ‘ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์’ ผู้เป็นบิดาของพระเจ้าเฮนรี่ ได้เป็นบุคคลวิกลจริต โดยต่างฝากต่างก็คิดว่าตนคือผู้ที่มีสิทธิ์ และสุดท้าย เมื่อความเห็นไม่ลงรอย จากความบาดหมาง ก็ค่อย ๆ ก่อตัวเป็น ‘สงคราม’ ในเวลาต่อมา และหลังจากรบราฆ่าฟันกันมาอย่างยาวนาน ทางฝั่งของ ‘ยอร์ค’ ก็เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ และได้บังลังก์มาครองอย่างสมใจหมาย แต่เก้าอี้ร้อนที่ปล้นเค้ามานั้น ก็อยู่ได้แค่ 3 แผ่นดิน ก่อนจะถูก ‘เฮนรี่ ทิวดอร์’ จากราชวงศ์ ‘แลงคาสเตอร์’ มาช่วงชิงคืนไป และได้อภิเษกสมรสกับ ‘เอลิซาเบธ แห่งยอร์ค’ รวมสองตระกูลเป็นทองแผ่นเดียวกัน หลังจากที่ได้ก่อตั้งราชวงศ์ ‘ทิวดอร์’ ขึ้นมาเป็นราชวงศ์ใหม่ "ปีศาจแดง" ที่มี สีแดง เป็นสีประจำสโมสร                 และหากย้อนกลับไปพูดถึงเรื่อง ‘ฟุตบอล’ ในช่วงที่ตีรันฟันแทงกันอยู่นั้น ทีมอย่าง ปีศาจแดงแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี ‘สีแดง’ เป็นสีประจำสโมสร และยังมีรากฐานที่ตั้งอยู่ในแคว้น ‘แลงคาเชียร์’

“บรูโน่ แฟร์นันด์ส” ยืนยันไร้บาดหมางเพื่อนร่วมทัพนัดแพ้ เซบีย่า

บรูโน่

บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าหลังจากจบเกมการแข่งขันนัดเก็บคะแนนสำคัญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมมีโปรแกรมดวลแข้งเจอกับเซบีย่า เกมการแข่งขันครั้งนี้ทีมได้พ่ายแพ้เฉือนคะแนน 2-1 ประตู และในจังหวะเกมการแข่งขันตัวนักเตะได้หันไปเถียงกับเพื่อนร่วมทีมอย่างหนักหน่วง จนหลายฝ่ายจับตามองว่าจะเกิดศึกภายในโอลด์แทรฟฟอร์ดหรือไม่ ภายหลังนักเตะได้ออกมาชี้แจงแลว่าเป็นการถกเถียงกันธรรมดาแค่นั้นไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นแต่อย่างใด  "บรูโน่ แฟร์นันด์ส" เเข้งโปรตุเกสฝีเท้าดี ทีมเเมนเชตเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งเพื่อนร่วมทีม วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แต่อย่างใดเป็นเพียงแค่การสาดอารมณ์ใส่กันเท่านั้น ถึงแม้จะมีคนบนโซเชียลถึงขั้นกับอ่านปากที่ทั้งคู่สบถใส่กัน แต่แข้งคงเก่งมองว่าการเล่นฟุตบอลเป็นเรื่องปกติที่มีการกระทบกระทั่งกันและทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนร่วมทีมกันเหมือนเดิม พร้อมกับยอมรับผลการแข่งขันที่ออกมาเพราะทีมทำผลงานได้ไม่ดีพอ เหตุการณ์การปะทะคารมระหว่าง 2 นักเตะเป็นจังหวะที่ทีมปีศาจแดงได้เสียประตูให้แก่ทีมคู่แข่งไปอย่างง่าย ๆ ซึ่งตัวแข้งโปรตุเกสได้เข้าไปต่อว่าเพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถป้องกันแนวรับได้สำเร็จ จนเกิดเป็นประเด็นตอบโต้กันอย่างดุเดือด “ผมคิดว่าการที่ทีมเราต้องพ่ายแพ้ให้แก่ทีมคู่แข่งนั้นไม่ได้เกิดที่ใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นเพราะเราทุกคนในทีมไม่สามารถป้องกันประตูได้สำเร็จ และผมก็ยินดีที่จะยอมรับคำตัดสินส่วนผมจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันในจังหวะนั้นเราทุกคนหัวเสียที่ต้องเสียประตูไปอย่างง่าย ๆ ผมหวังว่ามันจะเป็นบทเรียนให้เราทำผลงานในเกมการแข่งขันนัดถัดไปให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม” บรูโน่ แฟร์นันด์ส กล่าว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “ชอง” โอเคย้ายจาก แมนยู ไปเล่นกับ เบรเมน แบบยืมตัวรีล เบติส ใกล้ได้โกลของ แมน ซิตี้ “เคลาดิโอ บราโว่” แบบฟรีๆรวม 3 นักเตะน่าสนใจ หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดได้ตัว “จาดอน ซานโช่”