“Edinson Cavani” ผู้ไม่ชอบระบบ วีเออาร์ และซูเปอร์ลีก

Edinson Cavani

                หลังจากที่ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้รับคำวิจารณ์มากมายทั้งการเข้าร่วมซูเปอร์ลีกและคำตัดสินต่าง ๆ ทางกองหน้าตัวเก๋าอย่าง Edinson Cavani ก็ออกมาพูดถึงทั้งการแข่งขันเจ้าปัญหาและการตัดสินแบบวีเออาร์ที่กลายเป็นเป้าให้ปีศาจแดงจะต้องปวดหัวอยู่เสมอ ซึ่งทาง Cavani ก็ยอมรับว่า เขาประหลาดใจไม่น้อยที่เจ้าของต้นสังกัดที่เขาลงเล่นอยู่กลับเลือกตัดสินใจที่จะหักหลังแฟนบอลอย่างไม่น่าเชื่อและจับกลุ่มกับยักษ์ใหญ่ในยุโรปเพื่อแยกไปแข่งขันกันเอง แม้ว่าสุดท้ายทุกอย่างจะถูกยุติไปอย่างรวดเร็วก็ตาม                 ทางกองหน้าชาวอุรุกวัยได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับทางสื่อที่ชื่อ Dos De Punta ไว้ว่า ช่วงที่ซูเปอร์ลีกเกิดขึ้นมานั้น เจ้าตัวก็ไม่ได้เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะถ้ามันเกิดขึ้นก็คงจะเปลี่ยนวงการฟุตบอลไปทั้งหมดเลย รวมถึงเขาไม่ได้ชอบการแข่งขันแบบนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการกีดกันไม่ให้ทีมที่ดีกว่าได้ไปเล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกหรือการหยุดความฝันของทีมระดับกลางที่ต้องการจะพยายามเพื่อโอกาสไปเล่นในการแข่งขันที่สโมสรทั่วยุโรปยอมรับ อีกทั้งการการตัดสินใจครั้งนี้ยังหักหลังแฟนบอลอีกด้วย "Edinson Cavani" ออกมาวิจารณ์ในเรื่องการใช้เทคโนโลยี                 นอกจากเรื่องซูเปอร์ลีกที่กองหน้าคนนี้ไม่พอใจแล้วนั้น ทาง Cavani ยังออกมาวิจารณ์ในเรื่องการใช้เทคโนโลยีในวงการฟุตบอลเช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของระบบวีเออาร์ที่ทำให้เสน่ห์ของฟุตบอลลดลงไป ซึ่งผู้เล่นคนนี้มองว่า การที่นักเตะไม่รู้ระบบการตัดสินใจของกรรมการและจำเป็นต้องยืนเฉย ๆ เพื่อรอฉลองประตู อีกทั้งกฎล้ำหน้าที่บางครั้งก็เกิดขึ้นในจังหวะที่มันใกล้เคียงมากจนเกินไปหรือการให้ฟาวล์ย้อนหลังจากที่มีการต่อบอลจนทำประตูได้ไปแล้ว ซึ่งมันทำให้อารมณ์ร่วมกับเกมตกลงไปนั่นเอง                 แต่สิ่งที่กองหน้าจอมเก๋าต้องเข้าใจก็คือ การเกิดระบบวีเออาร์ขึ้นมาก็เพื่อป้องกันการผิดพลาดของมนุษย์ที่หลายครั้งไม่อาจมองได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งย้อนกลับไปในยุคก่อนหน้านี้ก็จะมีแค่เพียงแฟนบอลทางบ้านเท่านั้นที่มีโอกาสดูจังหวะฉายซ้ำ ทว่าการใช้เทคโนโลยีน่าจะเป็นทางออกต่อไปของวงการอย่างแน่นอน สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ สล็อตเว็บใหญ่ที่สุด เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ บาเยิร์น มิวนิค จ้องซิวแนวรับ “งูใหญ่” เสริมแกร่งซัมเมอร์นี้ปีศาจแดง คุยสัญญาใหม่ “ป็อกบา” ไม่คืบเพราะปัญหาเรื่องค่าเหนื่อย“Mario Kempes” พูดถึงตำนาน “Messi” ควรย้ายไปทีมใหญ่อื่น ๆ ได้แล้ว

VAR มีประโยชน์ ช่วยการตัดสิน ในโลกฟุตบอลจริงหรือไม่

                ในโลกของฟุตบอลในยุคปัจจุบันนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไปและต่างออกไปจากอดีต โดยฟุตบอลในยุคปัจจุบันนั้นได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตัดสิน หนึ่งในเทคโนโลยีที่ว่านั้น คือเทคโนโลยี VAR หรือที่ย่อมาจาก Video Assistant referee หมายถึงการ การตัดสินจังหวะเจ้าปัญหา จังหวะก่ำกึ่ง หรือ จังหวะ 50-50 โดยใช้วีดีโอที่บันทึกภาพมาช่วยตัดสิน ซึ่งบางคนก็เห็นด้วยเนื่องจากมองว่ามีการตัดสินอย่างยุติธรรม แต่บางส่วนก็ไม่เห้นด้วยเนื่องจากมองว่าจะทำให้สเน่ห์ของฟุตบอลนั้นหายไป                 โดย VAR หรือ Video Assistant referee เริ่มใช้เป็นครั้งแรกใน เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ ในอเมริกา เมื่อปี 2016  ซึ่งก็ถือว่ากระแสตอบรับเป็นไปในทิศทางบวก เมื่อกระแสตอบรับเป็นไปในทางบวก เมื่อVAR เป็นที่ยอมรับมากขึ้นฟุตบอลลีกอาชีพหลายๆลีกในยุโรปรวมถึงเอเชียก็ได้นำเทคโนโลยีVAR เข้ามาช่วยในการตัดสิน รวมถึงเกมการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยเทคโนโลยีVAR ได้ช่วยให้การตัดสินและเป็นไปอย่างยุติธรรมในการแข่งขันฟุตบอลในการแข่งขัน ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ในฤดูกาล 2018-2019 เป็นการพบกันของสเปอร์สและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยในจังหวะนั้น ราฮีม สเตียร์ริ่ง ผู้เล่นของฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถทำประตูได้ แต่พอเช็ดจากVAR พบว่า ราฮีม สเตียร์ริ่ง อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แม้ว่า VAR จะเป็นที่ยอมรับพอสมควรในฟุตบอลยุคปัจจุบัน                 แต่ก็มีหลายๆจังหวะที่มองว่าVAR ก็ตัดสินผิดพลาด ยกตัวอย่างหนึ่งเหตุการณ์ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์VAR และการทำงานของผู้ตัดสินในสนามอย่าง มาร์ติน แอคินสัน โดยในนัดนั้นเป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกเป็นการพบกันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล  โดยในจังหวะนั้น วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ กองหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าสกัด โอริกี้ กองหน้าของลิเวอร์พูลจากข้างหลัง แต่ไม่ได้ฟาล์ว จนเป็นจังหวะขึ้นนำของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหลังจากนั้นการใช้VAR ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก                 แม้ว่าในโลกฟุตบอลในยุคปัจจุบันนี้จะมีเสียงตอบรับทั้งทางด้านบวกและทางด้านลบในการนำเอาเทคโนโลยีVAR หรือ Video Assistant referee มาช่วยในการตัดสิน ทั้งจากทางแฟนบอล ทางโค้ช หรือแม้กระทั่งทางฝั่งของตัวนักเตะเอง แต่ทางประธาน FIFA ได้กล่าวว่าVAR ไม่ได้มีไว้เพื่อแก้ไขคำตัดสินแต่อย่างใด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการในสนามว่าจะเรียกดูVAR หรือไม่ และเมื่อดูVAR แล้ว ผู้ตัดสินจะเปลี่ยนคำตัดสินหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ตัดสิน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการใช้VAR มาช่วยในการตัดสิน มีทั้งฝ่ายที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ จึงทำให้มีฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และต้องดูกันต่อไปว่าการใช้VAR นั้นจะมีการปรับปรุงให้เหมาะสมยังไงกับยุคปัจจุบัน สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ทำไม “แดนนี่ โรส” ถึงต้องถูกตำรวจเรียกตลอดเวลาที่ขับรถยนต์บนท้องถนนคนนี้แหละเจ๋งที่สุด “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” ถูกซูฮกเป็นเเข้งที่ทุกทีมควรคว้าตัวตกลงกันได้เสียที! ต้นสังกัดแข้ง “ซานโช่” ขานหน้ารับสัญญาฉบับใหม่