“ฆวน มาต้า” เข้าเรียนโค้ช พร้อมรับงานหลังเลิกเล่น คุมต่อโซลชาเลยไหม!

วางแผนชีวิตหลังเลิกเล่นเอาไว้แล้วสำหรับ ฆวน มาต้า ดาวเตะชาวสเปน ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยอายุ 33 ปี ที่เข้าสู่ช่วงท้ายของอาชีพนักฟุตบอล เขาได้เปิดเผยว่า ได้เข้าคอร์สการเป็นโค้ชแล้ว ฆวน มาต้าเจ้าของค่าตัว 37 ล้านปอนด์ในปี 2014 เขาได้รับการขยายสัญญากับทีมออกไปอีก 1 ปี และมีแนวโน้มว่า เขาจะเลิกเล่นฟุตบอลหลังจบฤดูกาลนี้แล้วผันตัวไปรับงานโค้ช สอดคล้องกับคำพูดของ "ฆวน มาต้า" ที่เขาได้กล่าวไว้ "ผมได้เริ่มเข้าคอร์สอบรมเพื่อนเรียนรู้การเป็นโค้ชแล้วครับ มันเป็นการเข้าเรียนในช่วงที่ว่างจากการฝึกซ้อมและการแข่งขัน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และอีกอย่างผมก็อายุล่วงเลย 30 ปีมาแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะต้องวางแผนอนาคตของตัวเองหลังจากเลิกเล่นฟุตบอล ผมก็อยากเล่นฟุตบอลต่อไปเรื่อยๆนั้นแหละ ผมจะลงเล่นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ต้องเลิกแล้ว ในชีวิตผมไม่มีอะไรที่ดูดีไปกว่าการได้ลงเล่นฟุตบอลอีกแล้ว แต่เมื่อผมเริ่มอายุมากขึ้น ผมก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม และเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างเพื่ออนาคตของตัวเอง" ทางด้าน โอเลย์ กุนนาร์ โซลชา ได้เปิดเผยว่า การต่อสัญญากับ ฆวน มาต้า ออกไปเป็นเพราะต้องการให้อยู่สอนนักเตะดาวรุ่งภายในทีม เกี่ยวกับระเบียบวินัย และการวางตัว สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ ซึ่งกุนซือชาวนอเวย์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ทีมของเราเต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่ง ดังนั้นการมีนักเตะที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพสูง คอยเป็นแบบอย่างของพวกเขามันจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะนักเตะส่วนใหญ่ของเรา ก็ก้าวขึ้นมาจากอคาเดมี่ของสโมสรเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อพวกเขาได้มีโอกาสเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ แล้วได้เห็นนักเตะระดับแชมป์โลกอย่าง ฆวน มาต้า ได้เห็นการวางตัวที่ดี เห็นถึงระเบียบ ทราบถึงวินัย และวิธีการปฎิบัติตัวอย่างมืออาชีพแม้จะไม่ได้ลงสนาม เขาเป็นนักเตะชั้นยอด แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงสนามเท่าที่ควรจะเป็น แต่เขาก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับทีมเลย เขามีความเป็นมืออาชีพสูง และมีทัศนคติที่ดี ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเตะรุ่นน้องภายในทีม" “เดปาย” ถึงสเปนแล้ว! กำลังเสริมรายที่ 4 ทัพต่างดาว บาร์เซโลน่า“กัตตูโซ่” รู้ซึ้ง โลกโซลเชียลนั้น สุดแสนอันตราย เจอมาแล้ว!บาเซโลน่า การเงินมีปัญหา! ต่างดาวเปิดท้าย เร่งขายแข้งดังออกจากทีม

“เฟอร์นานโด ตอร์เรส” กับบทบาทใหม่ในตำแหน่งโค้ช

เฟอร์นันโด ตอร์เรส

เฟอร์นานโด ตอร์เรส ผู้เล่นชาวสเปนได้ยุติบทบาทการค้าแข้งไปเมื่อไปเมื่อปี 2562 ด้วยวัย 35 ปีและดูเหมือนว่าเขากำลังได้รับบทบาทใหม่ในตำแหน่งโค้ชของทีมแอตเลติโก้ มาดริดชุดอคาเดมี่ เรียกได้ว่ากลับสู่บ้านเกิดอีกครั้งสำหรับ "เฟอร์นันโด ตอร์เรส" เขาเป็นผู้เล่นที่เริ่มต้นเล่นให้กับทีมอัตเลติโกตั้งแต่เด็กโดยเขาเริ่มเล่นให้กับชุดเยาวชนตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปี 2544 และหลังจากนั้นเขาก็ได้ก้าวสู่การเป็นผู้เล่นทีมแอตเลติโก มาดริดชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2550 โดยสามารถทำประตูไปมากถึง 91 ประตูจากการลงแข่งทั้งหมด 214 นัดหลังจากนั้นเขาก็ได้เดินทางสู่พรีเมียร์ลีกอังกฤษโดยเริ่มต้นเล่นให้กับทีมลิเวอร์พูลโดยเขาลงเล่นให้กับทีมหงส์แดงเป็นเวลา 4 ปีแล้วทำประตูไปมากถึง 65 ประตูเลยทีเดียว ในช่วงปลายการค้าแข้งให้กับหงส์แดงลิเวอร์พูลนั้นฟอร์มของเขานั้นย่ำแย่เป็นอย่างมากไม่สามารถทำประตูได้บ่อยในที่สุดทีมลิเวอร์พูลก็ปล่อยตัวเขาไป หลังจากนั้นเขาก็ได้ร่วมเดินทางไปต่อกับทีมสิงห์สำอางเชลซีจนถึงปี 2558 ซึ่งก็เป็นช่วงที่เขายังทำผลงานได้ไม่ดีมากนักแต่ก็สามารถพาเชลซีนั้นคว้าแชมป์อย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นสมัยแรกตามด้วยยูฟ่ายูโรปาลีก และในช่วงที่เฟอร์นานโด ตอร์เรสค้าแข้งให้กับทีมเชลซีนั้นก็ยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกด้วย สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ หลังจากที่เขาเล่นให้กับทีมเชลซีเขาก็เดินทางไปเล่นให้กับทีมเอซีมิลานที่ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นก็กลับไปเล่นให้กับทีมแอตเลติโก้ มาดริดอีกครั้งจนถึงปี 2561 และเขาก็จบการเดินทางการเป็นนักเตะอาชีพที่สโมสร ซางัน โทซุ หลังจากนั้นข่าวคราวของเฟอร์นันโด ตอร์เรสก็ได้เงียบไปจนกระทั่งทีมแอตเลติโก้มาดริดได้แต่งตั้งเขาให้เป็นโค้ชให้กับทีมชุดเยาวชน และเป็นการยืนยันทางเว็บไซต์ของแอตเลติโก มาดริดโดยตรงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและใช้ชื่อข่าวว่า “Fernando is coming home” โดยจะเริ่มคุมทีมชุด Academy ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปีหน้า “เดปาย” ถึงสเปนแล้ว! กำลังเสริมรายที่ 4 ทัพต่างดาว บาร์เซโลน่า“กัตตูโซ่” รู้ซึ้ง โลกโซลเชียลนั้น สุดแสนอันตราย เจอมาแล้ว!บาเซโลน่า การเงินมีปัญหา! ต่างดาวเปิดท้าย เร่งขายแข้งดังออกจากทีม

ธรรมเนียมของประธาน ฟุตบอลเมืองไทย “เป็นคนจ่ายทำอะไรก็ได้”

ฟุตบอลเมืองไทย

ธรรมเนียมปฏิบัติของประธาน ฟุตบอลเมืองไทย "เป็นคนจ่ายทำอะไรก็ได้" โดยเราจะแบ่งเป็นหัวข้อ ดูสิว่าการเป็นคนจ่ายเงินแล้วจะได้สิทธิพิเศษอะไรบ้าง 3 ข้อของธรรมเนียมปฏิบัติประธาน ฟุตบอลเมืองไทย 1.ประธานสโมสรลงมานั่งที่ม้านั่งข้างสนาม ถ้าหากเป็นฟุตบอลยุโรปประธานสโมสรจะต้องนั่งอยู่ในห้องวีไอพี ไม่ลงมายุ่งกับโค้ชและนักฟุตบอล แต่ภาพของประธานสโมสรในไทยจะต่างออกไป เพราะมักลงมานั่งอยู่ข้างสนาม จนกลายเป็นภาพชินตาสำหรับแฟนบอล ซึ่งแต่ละคนก็มีบทบาทที่แตกต่างกันออกไป เช่น คุณเนวิน ชิดชอบ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะลงมานั่งดูเกมด้วยตัวเอง แต่ระหว่างเกมจะปล่อยให้โค้ชได้ทำหน้าที่ คุณระวิ โหลทอง ของเมืองทอง ยูไนเต็ด จะนั่งอยู่ในม้านั่งสำรองเพื่อชมเกม พร้อมกับพระเครื่องเต็มคอ แต่หากเป็นคุณมิติ ติยะไพรัช ของเชียงราย ยูไนเต็ด หรือ คุณธนวัฒน์ นิติกาญจนา จะมีบทบาทเป็นเสมือนเฮดโค้ชคนที่ 2 ที่จะช่วยบัญชาเกม 2. บอร์ดแทรกแซง         หลายทีมประธานสโมสรไม่ได้ลงมาดูเกมด้วยตัวเอง ปล่อยให้บอร์ดบริหารดูแลทีม ซึ่งในบางครั้งพยายามเข้าไปแทรกแซงการทำงานของโค้ช ซึ่งวิธีสังเกตนั้นจะง่ายมาก คือหากทีมไหนเปลี่ยนนักเตะและโค้ช คนแล้วคนเล่าแต่ทีมไม่ดีขึ้นและยังทรงบอลเดิม นั่นจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่าบอร์ดบริหารกำลังแทรกแซง  แต่ถึงอย่างไรก็ดีในบ้างครั้งผู้เป็นโค้ชก็อดทนไม่ไหว จนต้องเปิดปาพูดหรือลาออกไป เช่น โค้ชจุ่น ที่ร้องไห้ขณะให้สัมภาษณ์ เมื่อครั้งทำทีมบีจีปี 2014 เพราะถูกกดดันจากบอร์ด หรือกรณีล่าสุดของโค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ ที่ลาออกแบบช็อคแฟนบอล เพราะจัดตัวผู้เล่นไม่ถูกใจบอร์ด 3. ประธานสโมสรมักเป็นคนชูถ้วยก่อน   เมื่อใดก็ตามที่ทีมประสบความสำเร็จ ตามธรรมเนียมสากลโลก กัปตันทีมต้องเป็นคนแรกที่ชูถ้วยแชมป์ แต่สำหรับฟุตบอลไทยบางทีมประธานสโมสรกลับเป็นผู้ชูถ้วยคนแรกเสียอย่างนั้น เช่น การคว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพ ปี 2019 ของประจวบ เอฟซี ประธานสโมสรรับถ้วยแชมป์และวิ่งตรงขึ้นไปบนอัฒจรรย์ที่บอร์ดบริหารนั่งอยู่ ให้ได้สัมผัสถ้วย ขณะที่นักฟุตบอลอยู่ด้านล่างได้แต่ยืนมองและรอฉลองอยู่หลายนาที ซึ่งกลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ส่วนอีกกรณี คุณมิติ ชูถ้วยแชมป์ไทยลีก 1 แต่กรณีนี่ไม่เป็นที่วิจารณ์เพราะหลังชูถ้วยเสร็จก็ได้ส่งต่อเป็นทอดๆแก่นักเตะทันที  ทั้งหมดนี้จึงเป็นบทบาทของประธานสโมสรแบบไทยๆ ที่ในบางมุมก็มีผลดีกับทีมจากการลงมาคลุกคลีเพื่อรับรู้ปัญหาและความเป็นไปต่างๆ แต่ในอีกมุมหากไม่ได้ลงมาคลุกคลีและยังพยายามเข้าไปแทรกแซง จุดนี้จะสร้างความเสียหายมากกว่าผลดี ส่วนการชูถ้วยหากเป็นเพราะนักเตะให้เกียรติประธานสโมสรเป็นผู้ชูก็ย่อมทำได้ แต่หากต้องปล่อยให้นักเตะต้องยืนรอเก้อก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะแม้จะเป็นคนจ่ายแต่ถ้าไม่มีคนเล่นที่ดี ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้อย่างไร สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “โรเมโร่” ผู้รักษาประตูอดทน ที่อดย้ายออกจากรังปีศาจแดงเอฟเวอร์ตัน เสริมทัพต่อเนื่อง คว้ากองหลังดาวรุ่งก่อนตลาดวายลิเวอร์พูล ดวงแตกจนพ่ายแพ้ แอสตัน วิลล่า ยับด้วยสกอร์ 7-2