“ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” กับ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ ตบเท้าเข้าร่วม

ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

                กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ แห่งวงการฟุตบอลยุโรปประกอบไปด้วย บิ๊กซิกส์แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส), 3. ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี (เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส), และ 3 ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน (เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลนา) เตรียมร่วมมือกันก่อตั้งลีกใหม่ขึ้นมาในนาม “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” สาเหตุหลักในการที่ทั้ง 12 ทีมยักษ์ใหญ่ตัดสินจะแยกตัวออกมาจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก                 ส่วนหนึ่งมาจากการที่สมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีการแบ่งผลประโยชน์ให้กับบรรดาทีมใหญ่น้อยเกินกว่าความเป็นจริง โดยที่ ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เลือกที่จะแบ่งเงินให้กับบรรดาทีมเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จักที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก ทำให้ 12 ทีมยักษ์ใหญ่มองว่าพวกเขาได้รับส่วนแบ่งที่น้อยเกินไป โดยเฉพาะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ที่ทีมใหญ่ได้เงินส่วนแบ่งน้อยกว่าทีมที่ตกชั้นเสียอีก                 จากการตัดสินใจของ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ที่ต้องการจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกจะทำให้พวกเขาได้รับส่วนแบ่งทางด้านการเงินที่เพิ่มมากขึ้น เพราะจะจัดการแข่งขันในช่วงกลางสัปดาห์เรียกได้ว่าท้าชนกับทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า อย่างเต็มตัว จะทำให้แฟนฟุตบอลได้ดูบิ๊กแมตช์ทุกสัปดาห์การแข่งขัน ซึ่ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกจะช่วยให้พวกเขาได้ทั้งค่าสปอนเซอร์, ค่าถ่ายทอดสด และอีกหลายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย                 แต่ก็ใช่ว่าเรื่องนี้ทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า จะอยู่เฉยๆ พวกเขาได้ออกมาแบนทั้ง 12 ทีมยักษ์ใหญ่ออกจากการแข่งขันลีกในประเทศ รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก หากทั้ง 12 ทีมทำการจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกขึ้นมาจริง และจะแบนนักฟุตบอลทั้งหมดที่อยู่ใน 12 ทีมยักษ์ใหญ่ห้ามลงเล่นเกมระดับชาติอีกด้วย แต่ตัวตั้งตัวตีอย่าง ฟลอเลนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ก็บอกว่าหากโดนแบนจริงๆ พวกเขาก็จะจัดเกมทีมชาติขึ้นมาเองโดยที่ไม่แคร์ทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า อย่างเด็ดขาด                 ไม่ใช่แค่เพียง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ),