ในช่วงเวลาที่สโมสรเชลซีมีผู้เล่นอย่างปีเตอร์ เช็คทำหน้าที่เป็น ผู้รักษาประตู หลักอย่างยาวนานนั้น ยังมีนักเตะที่ทำหน้าที่ในตำแหน่งเดียวกันอยู่คนหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสำรองอดทนของผู้รักษาประตูชาวกรีซทั้งๆ ที่เขามีฝีมือมากพอจะยืนเป็นตัวจริงให้กับทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกแต่ทว่าเจ้าตัวกลับเลือกที่จะสู้ในทีมสิงโตน้ำเงินครามต่อไป จนกระทั่งยอมย้ายออกไปเป็นสำรองในทีมอื่นอยู่ดี หลังจากที่คาร์โล คูดิชินี่ได้ย้ายทีมมาอยู่กับเชลซีในปี 1999 ก่อนที่จะยืดตัวจริงได้ต่อจากผู้รักษาประตูอย่างเอ็ด เดอ โก จากนั้นไม่นานจุดสูงสุดของคูดิชินี่ก็มาถึงเมื่อเขาได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2002/2003 อีกด้วย จนกระทั่งในฤดูกาล 2003/2004 ที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บหนักจนเมื่อการมาถึงของโชเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ทีมสิงโตน้ำเงินครามจึงได้ซื้อผู้รักษาประตูคนใหม่อย่างปีเตอร์ เช็คเข้ามาแทนที่คูดิชินี่ นับจากฤดูกาล 2004 ถึง 2009 นั้นทาง ผู้รักษาประตู ชาวอิตาลี ได้ตกเป็นสำรองอย่างถาวรให้แก่ปีเตอร์ เช็คจนกระทั่งในแมตช์ระหว่างเชลซีกับเรดดิ้งที่ทางเช็คได้รับอาการบาดเจ็บจนกะโหลกร้าว ส่วนคูดิชินี่ก็ถูกเล่นงานในเกมเช่นกันจนเจ้าตัวหมดสติและต้องพักการเล่นไปจนถึงปีใหม่เลยทีเดียว ก่อนที่ต่อมาคูดิชินี่จะย้ายออกจากรังสแตมป์ฟอร์ดบริดจ์ไปอยู่กับสเปอร์สแต่สุดท้ายเขาก็ยังคงเป็นผู้รักษาประตูคนสำรองต่อจากเฮเรโล่ โกเมซอยู่ดี น่าเสียดายที่คูดิชินี่มีโอกาสโชว์ในฐานะผู้รักษาประตูได้น้อยมาก โดยเขามีฤดูกาลที่ดีกับเชลซีเพียง 4 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับสเปอร์สอีกถึง 5 ฤดูกาล จนกระทั่งย้ายไปปิดอาชีพค้าแข้งกับทีมดังในสหรัฐอเมริกาอย่างแอลเอ กาแล็คซี่ในปี 2014 ที่เรียกได้ว่าถ้วยรางวัลของเขานั้นสวนทางกับฝีมืออย่างมากเลยทีเดียว สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ไก่สน เบล ไหม? ราชันชุดขาวยื่นข้อเสนอยืมแข้งพร้อมช่วยค่าเหนื่อย“แกเร็ธ เบล” ลุ้นคืนถิ่น หลังเอเย่นต์เผยนักเตะยังคงรัก “สเปอร์ส” สุดหัวใจไม่ต้องติดต่อมาละนะ “แจ๊ค กรีลิช ” ต่อสัญญากับวิลล่า ออกไปถึงปี 2025
Tag: ผู้รักษาประตู
ลาแล้ว อาร์เซนอล “มาร์ติเนซ” ย้ายไปอยู่กับ แอสตันวิลล่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์
ถือว่าเป็นตัวอย่างอีกหนึ่งความอดทนอดกลั้น และพยายามต่อสู้ในเวทีการค้าแข้งอาชีพอย่างดีเยี่ยมอีกคนหนึ่งนั่นก็คือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูอันดับ 2 ของทีมฟุตบอลปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่รอคอยโอกาสแสดงฝีมือมานานกว่า 10 ปี ในทีมอาร์เซนอลทีมนี้ ก่อนที่ มาร์ติเนซ จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือในฐานะผู้รักษาประตูติดต่อกันยาวหลายนัดแทน แบรนด์ เลโน ผู้รักษาประตูตัวจริงอันดับหนึ่งของทีมอาร์เซนอล เกิดอาการบาดเจ็บในระหว่างเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษในช่วง เดือน มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา ทำให้ มาร์ติเนซ ต้องรับหน้าที่ผู้รักษาประตูตัวจริงยาวนานหลายนัดนับแต่นั้นมาจนสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขัน และจบลงตรงที่ทีมอาร์เซนอล สามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพฤดูกาลที่ผ่านมาได้สำเร็จ แถมด้วยการเอาชนะทีมฟุตบอลหงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลที่ผ่านมา ในเกมการแข่งขัน คอมมูนิตี้ชิลด์ อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ของ มาร์ติเนซ นั่นก็คือ แม้ว่าเขาจะทำผลงานการแข่งขันได้ดีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ฝ่ายผู้บริหารของทีมอย่างจะให้โอกาสเขาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของทีมต่อไปหรือไม่เมื่อเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่และผู้รักษาประตูมา 1 ตัวจริงของทีมหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว โดย มาร์ติเนซ ก็มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า มีทีมฟุตบอลหลายทีมต้องการได้ตัวเขาไปร่วมทีม และติดต่อขอซื้อตัวมาในช่วงซัมเมอร์ 2020 นี้ แต่ "มาร์ติเนซ" ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะยังอยากอยู่กับทีมอาร์เซนอลต่อไป หากแต่ถ้าไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควรเขาก็อาจจำเป็นเลือกตัวเลือกที่เป็นเส้นทางที่ดีกว่าสำหรับตนเอง ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าทางฝ่ายผู้บริหารของอาร์เซนอลจะตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกเก็บใครเอาไว้นั่นก็คือการคืนตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงให้กับ แบรนด์ เลโน ที่หายจากอาการบาดเจ็บแล้ว กลายมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงในคืนวันที่ 12 กันยายน 2020 ที่ทีมอาร์เซนอลเดินทางไปเรียนบ้านของทีมฟุตบอลฟูแล่มในนัดเปิดสนามฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมา มันจึงทำให้มาร์ติเนซตัดใจได้เสียที และเลือกทำให้ดีกว่าโดยมีข่าวออกมาว่าผู้รักษาตัวคนนี้กำลังจะย้ายไปอยู่กับทีมสิงโตผงาด แอสตันวิลล่า ดูราคาค่าตัวที่ประมาณ 20 ล้านปอนด์ และได้มีการตรวจร่างกายการไปเรียบร้อยแล้วในวันเสาร์ที่ผ่านมา ปิดฉากตำนานผู้รักษาประตูขัดตาทัพแห่งทีมอาร์เซนอลในช่วงท้ายฤดูกาล 2019-2020 ในแบบนี้เอง สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม และขอบคุณที่มาของแหล่งข้อมูล Ufabet72 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล [บทวิเคราะห์]เจาะลึก 3 จุดแข็งของ “จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม” ที่ บาร์ซ่า อยากได้ตัวขอพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด! “เฟร็ด” เผยเส้นทางค้าแข้งไม่หวั่นแม้ผีมีตัวดีลิเวอร์พูล สุดคึกพร้อมลงป้องกันแชมป์ลีก กับยูงทอง เป็นนัดแรก
หลายคนไม่รู้จัก! “อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ” เป็นใคร ทำไม “แลมพาร์ด” ถึงต้องการตัว
พลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้เสริมทัพนักเตะใหม่เข้ามาได้อย่างน่ากลัวในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ทว่าอีก 1 ตำแหน่งที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ต้องการอย่างหนักนั่นก็คือตำแหน่งผู้รักษาประตูนั่นเอง เพราะว่า เกป้า อาร์ริซาบาลากา นายทวารมือ 1 ของทีม ฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งที่ผ่านมาเชลซี ก็มีข่าวกับผู้รักษาประตูหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ยาน โอบลัค , ดีน เฮนเดอร์สัน แต่สุดท้ายแล้วหวยดันมาออกที่ อาร์ดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูจากสโมสรแรนส์ ซะอย่างงั้น และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักเขา ให้มากขึ้นกันครับ "อาร์ดูอาร์ เมนดี้" มีชื่อเต็มว่า "อาร์ดูอาร์ โอโซเก้ เมนดี้" เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1992 ปัจจุบันเจ้าตัวมีอายุ 28 ปี ส่วนสูง 198 เซนติเมตร สังกัดอยู่สโมสรแรนส์ สโมสรชื่อดังในลีกเอิง ลีกสูงสุดของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส และได้ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเซเนกัล เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ซึ่งชื่อของ อาร์อูอาร์ เมนดี้ อาจจะไม่ได้คุ้นหูแฟนบอลซักเท่าไรนัก เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะเริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 19 ปีเข้าไปแล้ว กับสโมสรเชอร์บูร์ก สโมสรระดับดิวิชัน 3 ของฝรั่งเศส เมื่อปี 2011 ก่อนจะมีโอกาสได้ย้ายเข้ามาอยู่กับโอลิมปิก มาร์กเซย สโมสรชื่อดังของฝรั่งเศส เมื่อปี 2015 แต่ก็ได้อยู่เพียงแค่ทีมสำรองเท่านั้น และแทบจะไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย แต่เพรชอยู่ที่ไหนก็คือเพรช เพราะในปี 2017 สโมสรแร็งส์ ที่ในเวลานั้นอยู่ในลีกรองของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส เห็นแววของ เอดูอาร์ เมนดี้ จึงดึงตัวไปร่วมทีม ซึ่งที่นี่แหละทำให้นายทวารชาวเซเนกัล ได้โชว์ฟอร์มอย่างเต็มที่ โดยตัวเขาได้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 34 เกม และเก็บคลีนชีตไปได้มากถึง 18 ครั้ง ช่วยให้แร็งส์ สามารถคว้าแชมป์และเลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ซึ่ง เอดูอาร์ เมนดี้ ก็ยังสามารถรักษาฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง นถูกสโมสรแรนส์ สโมสรชื่อดังของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส คว้าตัวไปร่วมทีม ในช่วงซัมเมอร์ของฤดูกาล 2019-2020 ด้วยค่าตัวสุดถูก เพียงแค่ 3.5 ล้านปอนด์ เท่านั้น การย้ายมาอยู่กับแรนส์ เป็นเหมือนกับการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของ อาร์ดูอาร์ เมนดี้เพราะว่าเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวหนึบ มีค่าเฉลี่ยเสียประตูต่อเกมอยู่ที่ 0.79 เท่านั้น น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกเอิง แถมยังมีเปอร์เซ็นต์การป้องกันประตูสูงถึง 78.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกเอิง