และนี่ก็เป็นนัดที่ 2 ของฟุตบอลอุ่นเครื่อง ซึ่งนัดแรกแข่งที่ประเทศไทย สามารถเอาชนะทีมคู่รักคู่แค้น อย่างลิเวอร์พูลมาได้อย่างสวยงาม ถึง 4 ประตูต่อ 0 ส่วนนัดที่ 2 แข่งขันที่ประเทศออสเตรเลีย กับทีมเจ้าบ้าน เมลเบิร์นวิคตอรี่ ซึ่งในนัดนี้ผู้จัดการทีม เอริก เทนฮาก ก็จัดหนัก จัดเต็มเหมือนนัดแรก โดยขนนักเตะชุดใหญ่ลงสนาม อยากคบครัน โดยเปลี่ยนผู้เล่นแค่ไม่กี่ตำแหน่ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นชุดใหญ่ทั้งหมด ส่วนฟอร์มการเล่น แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด ในนัดนี้ ก็ยังดุดัน มีสไตล์การเล่น มีสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้วอย่างชัดเจน สามารถครองเกม ได้มากกว่าถึง 76 เปอร์เซ็นต์ สำหรับแฟนผีแดง เมื่อเห็นฟอร์มการเล่นแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าฤดูกาลนี้จะมีผลงานดีขึ้นอย่างแน่นอน เผลอ ๆ อาจจะมีโอกาสถึงลุ้นแชมป์ ได้เลย ถึงแม้ว่าในช่วงต้นของเกมจะถูกขึ้นนำไปก่อน เพียง 5 นาทีแรกของเกมเท่านั้น แต่หลังจากนั้นแมนยูก็กลับมาเล่นในฟอร์มของตัวเอง ทำเกมบุกเข้าใส่ อยู่ตลอดเวลา และในช่วงครึ่งหลังผู้จัดการทีมก็สั่งเปลี่ยน ผู้เล่นดาวรุ่งลงมาทั้งหมด และเมื่อได้รับโอกาส ผู้เล่นดาวรุ่งก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหลายคน จบเกมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 1 แมนเชตเตอร์ยูไนเต็ด ยังคงต้องพัฒนาทีม ฟุตบอล ให้ดีขึ้น จากฟอร์มการเล่นฟุตบอล ปรีซีซั่นของแมนยู ทั้งสองนัดนั้น จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาการเล่นดีกว่าปีที่ผ่านมาขึ้นมาก และผู้เล่นทุกคนก็มีความมุ่งมั่นมากขึ้นไม่ว่าตัวจริง หรือ ตัวสำรองรวมถึงนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับโอกาส ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและมีอนาคตหลายคนข่าวกีฬาทั่วโลก ทำให้เราแฟนบอลมั่นใจได้ฤดูกาลแข่งขันที่จะมาถึง ทีมรักของตนเอง จะสามารถทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน และยังได้กองหลังตัวใหมามาเสริมทีมอีกด้วย แต่ก็มีอีกอย่างหนึ่งที่แฟนบอลต้องทราบ ในการแข่งขันอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัดที่ผ่านมา จะมีลูกที่ได้ประตูที่เกิดจากความผิดพลาดของกองหลังทีมคู่แข่งเองอยู่หลายครั้ง และจากเกมที่ลงเล่น เมื่อเทียบศักยภาพของนักเตะแล้ว คุณภาพของนักเตะแมนยูจะเหนือกว่า โดยนัดแรกพี่ชนะลิเวอร์พูลมาได้นั้น เป็นการทำผิดพลาดของกองหลังดาวรุ่ง และทีมคู่แข่งก็ไม่ได้ใช้นักเตะตัวจริงลงมาทั้งหมด ส่วนใน นัดที่ 2 นักเตะของแมนยูมีคุณภาพฝีเท้า มากกว่าทีม เมลเบิร์นวิคตอรี่ อยู่หลายขุม จึงทำให้คิดไปได้ว่า ทีมนั้นยังไม่ได้เจอของจริง ไม่ได้เจอทีม ฟุตบอล ที่มีศักยภาพที่ใกล้เคียง หรือในระดับเดียวกัน และประตูที่ทำได้ ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความผิดพลาดของคู่แข่งเอง และเหล่าแฟนบอลทั้งหลายก็อย่าพึ่งนิ่งนอนใจ หรือ หลงระเริง ถึงจะทำประตูได้ถึง 8 ประตูก็ตาม เพราะยังมีความผิดพลาดให้เห็น และ ต้องพัฒนาทีมให้ดีขึ้นไปอีก ถ้าอยากจะลุ้นแชมป์ จริง ๆ “พรีเมียร์ลีก2022” ตารางแข่งขันอย่างเป็นทางการสเปอร์ส เร่งหารือสัญญาใหม่ “เคน” คาดเซ็นยาวถึงปี 2027 พร้อมเพิ่มค่าเหนื่อยบาร์เซโลน่า โหวตอนุมัติมาตรการหาเงิน หวังแก้วิกฤติหนี้สิน 1,000 ล้านยูโรบอสเนีย ชนะ ฟินแลนด์ 3-2