You are here
Home > Search Results for "%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C %E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%94"

ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 นี้ ทีมลุ้นแชมป์ใน มีทีมไหนบ้าง

ลาลีกา สเปน

                สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ลาลีกา สเปน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งลีกฟุตบอลในยุโรปที่ได้รับความสนใจและติดตามรับชมและเชียร์ของแฟนบอลชาวไทยมากมาย มีสโมสรชื่อดังของลาลีกา สเปน ที่มีแฟนคลับในบ้านเรามากมายเต็มไปหมด และ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงการลุ้นแชมป์ของลาลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้ ที่แม้ว่าทีมจะมีทีมทำคะแนนนำโด่ง แต่ก็ถือได้ว่ามันก็มีโอกาสพลิกผันได้เช่นเดียวกัน เพราะแต่ละทีมในปัจจุบันของลาลีกา สเปน นั้นก็มีลุ้นแชมป์หลายทีมเลยทีเดียว จะมีทีมไหนบ้างนั้นก็มาดูกันเลย 3 ทีมลุ้นแชมป์ใน ศึก ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22                 สโมสร เรอัล มาดริด ปัจจุบันนั้นพวกเขาทำคะแนนนำเป็นจ่าฝูงของ ศึกลาลีกา สเปน โดยปัจจุบันนั้นพวกเขาแข่งไป 33 เกม มี 78 คะแนน ถือได้ว่ามีโอกาสสูงเลยทีเดียวที่จะก้าวไปคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ แต่ก็ถือได้ว่าเมื่อเกมยังไม่จบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ และพวกเขานั้นก็จะประมาทไม่ได้เลย กับแต่ละนัดที่ลงเล่น เพราะแต่ละทีมคู่แข่งนั้น ก็ถือได้ว่าน่ากลัวมากๆในเวลานี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำคะแนนแซงพวกเขาได้เช่นเดียวกัน                           สโมสร บาร์เซโลน่า สำหรับเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ข่าวกีฬาทั่วโลกในตอนแรกพวกเขาเป็นทีมที่คาดหวังอะไรไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้ หลังจากเกิดวิกฤตทางการเงินในทีมอย่างหนัก และถึงขั้นที่พวกเขานั้นหล่นไปอยู่ในระดับกลางตารางหลายเดือนเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันนั้นพลิกผันกลับกลายมาเป็นทีมที่สามารถขึ้นมาลุ้นแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ โดยปัจจุบันแข่งไป 32 นัด พวกเค้ามี 63 คะแนน โดยแข่งน้อยกว่าจากฝูงอยู่ 1 เกมและมีแต้มตามหลังที่สามารถทำแต้มขึ้นไปแซงได้                  สโมสร เซบีย่า ในช่วงแรกของการแข่งขันในลาลีกา สเปน ฤดูกาลนี้พวกเขานั้นเป็นทีมที่ขับเที่ยวมากับ เรอัล มาดริด ถือได้ว่าพวกเขานั้นมีทีมที่ดีมากในฤดูกาลนี้ สามารถต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ได้ ในช่วงแรก และกลายมาเป็นอีกหนึ่งทีมลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ที่เหนือความคาดหมายเลยทีเดียว โดยปัจจุบันพวกเขาแข่ง 33 นัดมี 63 คะแนน ซึ่งก็ยังมีโอกาสที่จะทำแต้มเพื่อลุ้นแชมป์ได้อยู่  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้เล่นที่มีโอกาสหลุดจากทีมหากได้กุนซือคนใหม่เข้ามายูเวนตุส เล็งทาบ “เกปา” จาก เชลซี เฝ้าเสาซีซันหน้า ค่าตัวแตะ 60 ล้านปอนด์แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมขาย “เฮนเอร์สัน” ช่วงซัมเมอร์นี้ หากได้ราคา 40 ล้านปอนด์“ทีมปาแลร์โม่” รู้จักนักเตะคนดังระดับโลก ที่เคยเล่นให้กับ

เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องใช้เงินมหาศาล

เลสเตอร์ ซิตี้

                หากจะพูดถึง สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ แฟนบอลในบ้านเราก็อาจจะมีจำนวนน้อยมากที่ติดตามเชียร์ ยิ่งในยุคสมัยก่อนแล้ว ก็ยิ่งแทบไม่มีใครให้ความสนใจไว้ด้วยซ้ำ อาจจะมีบ้างประปราย แต่หากจะพูดถึงในปัจจุบันนี้ ก็ถือว่าพวกเขามีแฟนบอลในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นอยู่พอสมควร เนื่องจากว่าปัจจุบันเจ้าของทีมฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นก็คือริษัท คิง พาวเวอร์ ซือเป็นของคนไทยนั่นเอง ถือได้ว่าจนทำให้ได้รับการยกย่องจากชาวอังกฤษให้เป็นเจ้าของทีมยอดเยี่ยมที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งก็ต้องบอกว่าความสำเร็จที่เขานำมาสู่ทีมนั้น มันเป็นตัวที่ส่งผลให้เขาได้ถูกยกย่องจนทุกวันนี้ ความสำเร็จของ สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้                 สโมสร เลสเตอร์ซิตี้ พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อย่างเหลือเชื่อ ใน ฤดูกาล 2015-2016 ซึ่งที่ต้องบอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ เพราะว่าพวกเขาเป็นสโมสรเล็กๆ ที่ไม่ได้มีนักเตะชื่อดังในทีมเลย และอีกทั้งพวกเขาก็เพิ่งเลื่อนชั้นพรีเมียร์ลีก ได้ไม่กี่ปี แต่เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ ทุกคนก็หันมาจับจ้องและตั้งข้อสงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงประสบความสำเร็จได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เงินมหาศาลเหมือนที่อื่นๆ ข่าวกีฬาทั่วโลกความสำเร็จนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งคำตอบนั้นมันก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน คำตอบง่ายๆก็คือมันเป็นเรื่องของการบริหาร พวกเขามีเจ้าของทีมคือบริษัทคิงพาวเวอร์ ผู้เข้ามาจัดการทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ทั้งการปั้นนักเตะเยาวชน สนามฝึกซ้อมที่มีมาตรฐาน ห้องฟิตเนส สนามแข่งขัน รวมไปถึงการใช้จ่ายในรูปแบบของการคัดเลือกนักฟุตบอลเข้าทีมที่พวกเขามีนักฟุตบอลในพื้นที่ และประสบความสำเร็จมากมายขายได้เงินเข้าสโมสรจำนวนมหาศาลในปัจจุบัน และในปัจจุบันนี้ก็เรียกได้ว่าสโมสร เลสเตอร์ซิตี้ กลายเป็นทีมใหญ่อีกหนึ่งทีมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ว่าจะไม่ใช่ทีมที่มีโอกาสได้ลุ้นแชมป์อีกครั้งdumboslot แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีมาตรฐานสูง และอยู่ในอันดับต้นของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน สถิติสุดห่วย 3 ทีมในลีกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ไม่อยากจดจำโค้ชฟุตบอล กับ 3 กฎเหล็กสุดเพี้ยน ของทีมต่าง ๆ“อิบราฮิโมวิช” แข้งประจำ เอซี มิลาน ลั่นยังไม่คิดแขวนเกือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแข้ง “ริโอ” จวกสื่ออังกฤษเขียนข่าวมั่วซั่ว

“เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” สุดยอดกุนซือในโลกฟุตบอลยุคใหม่

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ถ้าหากจะพูดถึงกุนซือทีมฟุตบอลที่เป็นสุดยอดของโลกในยุคใหม่ ก็ต้องยกให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปัจจุบันเขาเป็นกุนซือของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้ซึ่งโด่งดังมาจากการเป็นกุนซือของสโมสรเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่ง ลาลีกา สเปน โดยรูปแบบของการเล่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นเรียกได้เขามีหลักการในการเล่นที่เรียกว่าจับทางได้ยาก มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด และเป็นแบบแผนการเล่นที่ได้ผลทุกครั้ง และความสำเร็จนั้นก็การันตีได้เลยว่าเขาไปคุมทีมไหนก็สามารถทำให้ทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ทุกทีม ความเป็นมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า                 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเตะเขาโตมากับพี่โดนชนของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งสเปนยางสำหรับความสามารถของเขาก็เริ่มต้นด้วยการเป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถในเรื่องของการเล่นแนะนำข่าวกีฬาทั่วโลกว่าการอยู่ที่บ้านหัวหน้าไม่ใช่ใครก็จะสามารถอยู่ได้ต้องเป็นผู้เล่นที่มีทักษะและฝีเท้าที่อยู่เหนือกว่านักฟุตบอลคนอื่นและเป็ป กวาร์ดิโอล่า ก็คือหนึ่งในนักเตะผู้นั้น และสิ่งที่แตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆก็คือ เป็ป กวาร์ดิโอล่า เขาให้ความสนใจกับการเป็นโค้ชตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่งนักเตะ ซึ่งต้นแบบของการเป็นโค้ชที่ดีของเขานั้นก็คือ โค้ชทีมเยาวชน ของ สโมสรบาร์เซโลน่านั้นเอง เขาคนนั้นคือ ออลิโอ ทอร์ด ซึ่ง เป็ป กวาร์ดิโอลา เลือกที่จะทำการเรียนรู้เกี่ยวกับแผนของโค้ชที่ได้แนะนำเขา มากกว่าการที่เขาจะศึกษาเพียงแค่ทักษะของการเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เรียกได้ชีวิตของเขานั้นได้ชื่นชอบและทำการเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นโค้ชตั้งแต่อายุเพียงแค่ 13 ปี และมันก็ได้ส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน กับผลงานของเขาufabet1688 จะมีใครบ้างที่จะไม่รู้จักสุดยอดกุนซือในยุคสมัยนี้ ซึ่งหากจะยกย่องว่าใครคือที่ 1 ของโลกก็คงต้องยกให้เขาเลย สถิติสุดห่วย 3 ทีมในลีกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ไม่อยากจดจำโค้ชฟุตบอล กับ 3 กฎเหล็กสุดเพี้ยน ของทีมต่าง ๆ“อิบราฮิโมวิช” แข้งประจำ เอซี มิลาน ลั่นยังไม่คิดแขวนเกือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแข้ง “ริโอ” จวกสื่ออังกฤษเขียนข่าวมั่วซั่ว

“ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค” ทำไม “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” ถึงไม่ส่ง ลงสนาม

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค

                เมื่อพูดถึงกุนซือของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันนั้นพวกเขาก็เป็น ไมเคิล คาริก ที่ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนคนเก่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่เพิ่งโดนปลดไปไม่นานนี้เอง ซึ่งมันมีข้อสงสัยในช่วงที่ กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าทำไมเขาไม่ส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลางที่เคยมีชื่อเข้าชิงบัลลงดอร์ลงสนาม เนื่องจากว่าหากจะพูดถึง ฝีเท้าของ ดอนนี่ฟาน เดอเบค แล้วก็ต้องบอกว่าเขาเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าเทพ และเป็นนักเตะที่สโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมต้องการตัวไปร่วมทีม สาเหตุที่ "ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค" ไม่ค่อยได้ลงสนาม ในยุคกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา                 คำตอบที่ว่าทำไม ดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่มีฝีเท้าเทพ และเคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์มาแล้ว ไม่ได้ลงสนามเลยในยุคของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยส่วนใหญ่เขาจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองของทีมมากกว่า จนมีข่าวว่าเขาต้องการที่จะย้ายออกจากทีม โดยสาเหตุหลักๆก็คือ สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตัว ดอนนี่ ฟานเดอเบค มาร่วมทีมนั้นข่าวกีฬาทั่วโลก มันไม่ได้เป็นสิ่งที่กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องการเลย เขาไม่ได้ให้ความสนใจที่จะดึงตัว ดอนนี่ ร่วมทีม แต่ด้วยการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสัมพันธ์อันดีกับทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตสังกัดเก่าของ ดอนนี่ เพราะเนื่องจากว่าผู้บริหารทีม คือ เอ็ดวิน ฟานเดอ ซา อดีตผู้รักษาประตู ของทีมปีศาจแดง มันจึงทำให้ดิลนี้เกิดขึ้น และการได้ตัวนี้มาร่วมทีมนั้นมันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายอกีด้วย ซึ่งสิ่งที่ทางบอร์ดบริหาร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำนั้น ก็ไม่ได้ทำตามความต้องการของกุนซือของทีม อย่าง โอเล่ แต่พวกเขาทำตามความต้องการของแฟนฟุตบอล ที่เกิดกระแสอยากจะได้ ดอนนี่ ฟานเดอเบค มาร่วมทีม และผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือการที่ดอนนี่ แทบไม่ได้ลงสนามเลยslot168 เนื่องจากว่ากุนซือ ของทีมไม่ได้มีความสนใจและต้องการตัวเขามาใช้งาน สถิติสุดห่วย 3 ทีมในลีกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ไม่อยากจดจำโค้ชฟุตบอล กับ 3 กฎเหล็กสุดเพี้ยน ของทีมต่าง ๆ“อิบราฮิโมวิช” แข้งประจำ เอซี มิลาน ลั่นยังไม่คิดแขวนเกือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแข้ง “ริโอ” จวกสื่ออังกฤษเขียนข่าวมั่วซั่ว

อาร์เซนอล จ้องคว้าตัวรุก “ม้าลาย” เสริมทัพซัมเมอร์ปีหน้า

อาร์เซนอล จ้องคว้าตัวรุก “ม้าลาย”

            อาร์เซนอล มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่า กำลังวางแผนที่จะดึงตัว “เดยัน คูลูเซฟสกี้” ตัวรุกดีกรีทีมชาติสวีเดนของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า หลังไม่ค่อยได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงกับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ โดย “จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ” เหยี่ยวข่าวคนดังชาวอิตาเลียนได้ออกมาเปิดเผยว่า “ไอ้ปืนใหญ่” มีแผนที่จะยื่นข้อเสนอเป็นเงินไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท เพื่อล่อให้ทีมดังแห่งเมืองตูรินยอมปล่อยนักเตะออกมาค้าแข้งในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม หลังจบซีซันนี้ อาร์เซนอล พร้อมทุ่ม 30 ล้านปอนด์ กระชาก “คูลูเซฟสกี้” เสริมทัพ             “จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ” นักข่าวสายลูกหนังความน่าเชื่อถือสูงชาวอิตาเลียน ได้ออกมาเปิดเผยกับ ฟุตบอล เดลี่ ว่า “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล กำลังพิจารณาที่จะดึงตัว “เดยัน คูลูเซฟสกี้” กองกลางตัวรุกวัย 21 ปี ของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ไปเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมิถุนายนปีหน้า หลังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ฤดูกาลนี้เท่าที่ควรข่าวกีฬาทั่วโลก ลงเล่นรวมทุกรายการไป 18 นัด แต่เป็นตัวจริงเพียงแค่ 3 นัด ทำได้ 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ เท่านั้น  โดยดาวเตะชาวสวีดิชยังเหลือสัญญาผูกพันกับทัพ “เบียงโคเนรี่” อีกราว 3 ปีครึ่ง จนถึงช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2025 และคาดกันว่าผู้บริหารของทีมดังแห่งเมืองตูรินตั้งค่าหัวดาวเตะชาวสวีดิชไว้ราว 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,340 ล้านบาท             ทั้งนี้ เป็นที่เข้าใจกันว่า “มิเกล อาร์เตต้า” ผู้จัดการทีมหนุ่มของ อาร์เซนอล กำลังมองหาตัวรุกพลังหนุ่มหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพ หลังจากที่พลาดได้ตัว “ดูซาน วลาโฮวิช” กองหน้าตัวเก่งของทีม “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า เนื่องจากนักเตะมีความไม่สนใจที่จะย้ายมาร่วมทีม             สำหรับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ย้ายจาก อตาลันต้า มาค้าแข้งกับ ยูเวนตุสUFABET ในซีซัน 2020/2021 ลงเล่นไปแล้ว 65 นัด ทำได้ 8 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ สถิติสุดห่วย

“Zinedine Zidane” ที่เตรียมออกจากรีลมาดริดหลังจบฤดูกาล

Zinedine Zidane

                เตรียมปิดตำนานผู้จัดการทีมรอบที่สองไปแล้ว สำหรับทาง Zinedine Zidane ที่ออกมาประกาศว่า ตัวเขาจะไม่อยู่กับรีลมาดริดต่อไปอย่างแน่นอนหลังจบฤดูกาลปัจจุบัน ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยกับลูกทีมไปแล้วตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมกับเซบีย่าที่จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 นั่นเอง รวมถึงยังนับเป็นการก้าวลงจากตำแหน่งเองเป็นครั้งที่สอง จากเดิมที่ครั้งก่อนเจ้าตัวต้องการพักจากงานคุมทีมชั่วคราวเมื่อพาต้นสังกัดเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้สามสมัยซ้อนในปี 2018 นั่นเอง                 สำหรับฤดูกาลที่ผู้จัดการทีมคนนี้จะส่งท้ายการคุมรอบที่สองของเขาก็จะจบลงในวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเกมที่เจอกับบียาร์รีล โดยก่อนหน้านี้ทางสื่อต่าง ๆ ก็เชื่อว่า Zinedine Zidane จะไม่อยู่กับทีมต่อไปอย่างแน่นอน หลังจากที่ต้องตกรอบรายการใหญ่ของยุโรปด้วยฝีมือของเชลซี รวมถึงเจ้าตัวก็เริ่มจะหมดไฟกับการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เขาได้พักจากการทำงานไปไม่นาน แต่ทว่าผลงานของทีมจากกุนซือที่ชื่อว่า Julen Lopetegui กับ Santiago Solari กลับไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ดีเท่ากับตำนานของทีมคนนี้ได้เลย จนต้องถูกเรียกตัวมาคุมทีมอีกครั้งหนึ่ง หาก "Zinedine Zidane" ไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมของรีลมาดริดแล้ว                 สโมสรที่น่าจะสนใจใช้บริการเขาอีกแห่งก็คือยูเวนตุส ซึ่งเป็นต้นสังกัดเก่าของเขาสมัยเป็นผู้เล่นเช่นกัน โดยทีมม้าลายแห่งตูรินก็กำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าราชันย์ชุดขาว หลังจากที่หมดลุ้นแชมป์ลีกไปตั้งแต่ไก่โห่ จนกระทั่งกระแสการหาคนมาแทนที่ Andrea Pirlo ในตำแหน่งกุนซือเริ่มหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ จนชื่อของตำนานชาวฝรั่งเศสเป็นมาทำหน้าที่นายใหญ่ของทีมในอนาคตได้เช่นกัน                 เป้าหมายสุดท้ายของ Zinedine Zidane ในฐานะผู้จัดการทีมก็คือพารีลมาดริดพลิกแซงคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแอตแลนติโก้มาดริดให้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะมีคะแนนตามหลังอยู่ถึงสองคะแนน แต่ทว่าจากสถิติเฮดทูเฮดที่ทีมราชันย์ทำได้ดีกว่าก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญให้ยักษ์ใหญ่ของยุโรปพลิกสถานการณ์ได้นั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ บาคาร่า วอเลท เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์ถล่มโรม่า ยับเยิน 6 – 2“โซลชา” ที่บ้านเกิด พร้อมใจสร้างรูปเพื่อเป็นเกียรติที่สร้างชื่อเสียงให้เมือง“เนย์มาร์” ถูก “โปเซ็ตติโน่” เอ่ยปากชม คุมไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

“Mario Kempes” พูดถึงตำนาน “Messi” ควรย้ายไปทีมใหญ่อื่น ๆ ได้แล้ว

                เป็นคำแนะนำที่แฟนบาร์เซโลน่าคงไม่พอใจอย่างแน่นอน เมื่อทาง Mario Kempes ตำนานชาวอาร์เจนติน่าชุดแชมป์ฟุตบอลโลกได้ออกมาแนะนำรุ่นน้องอย่าง Lionel Messi ว่ามันถึงเวลาที่เขาจะต้องย้ายไปอยู่กับยักษ์ใหญ่ทีมอื่น ๆ ในยุโรปได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ซิตี้ ปารีสแซงต์แชร์แมงหรือบาเยิร์นมิวนิคนั่นเอง โดยสัญญากับเขากับเจ้าบุญทุ่มจะหมดลงเมื่อจบฤดูกาลนี้และทำให้เขาสามารถย้ายทีมได้อย่างไร้ค่าตัวเลยทีเดียว แต่ทว่าทั้งเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนร่วมชาติต่างให้คำแนะนำที่ต่างออกไปจนต้องจับตาดูเมื่อช่วงเวลานั้นมาถึง สำหรับ "Mario Kempes" เองก็เคยลงสนามให้กับบาเลนเซีย                 ที่เป็นคู่แข่งร่วมลีกกับบาร์เซโลน่าในช่วงยุค 70 และ 80 ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า Messi เองคงจะรู้สึกอุ่นใจกับต้นสังกัดอย่างมาก แต่ทว่าเขาก็คงรู้ตัวแล้วว่า โอกาสที่จะเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งก็คงจะเหลือน้อยเต็มที ไม่ว่าจะเป็นสถานะทางการเงินที่กำลังมีปัญหา รวมถึงระบบเยาวชนของทีมก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนอย่างที่เคย จนทำให้สโมสรยังไม่มีตัวแทนของตำนานของทีมที่ต่างตบเท้าออกจากทีมไปในช่วงหลัง ซึ่งมันก็คงถึงเวลาที่ Messi จะย้ายไปสู่ทีมอื่นอย่างเรือใบสีฟ้า บาเยิร์นมิวนิคหรือแม้แต่ไปเล่นกับเพื่อนเก่าอย่าง Neymar ที่ปารีสนั่นเอง                 หาก Lionel Messi ย้ายออกจากบาร์เซโลน่าจริง ๆ ตัวเขาก็คงจะต้องหาสโมสรที่พร้อมรองรับค่าเหนื่อยที่สูงระดับโลก ซึ่งทำให้เหลือทีมที่มีกำลังทรัพย์มากพออย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้หรือปารีสแซงต์แชร์แมงเท่านั้น ซึ่งทางบาเยิร์นมิวนิคเองก็คงไม่พร้อมที่จ่ายค่าเหนื่อยสูงระดับที่เจ้าตัวเคยได้ในถิ่นคัมป์นูอย่างแน่นอน นอกจากนี้หากเขาย้ายไปทีมใหม่จริงนั้น ก็คงต้องเป็นสโมสรที่ยังกระหายความสำเร็จมากพอจะดึงดูดใจของ Messi อีกด้วย                 จากการบาร์เซโลน่ายังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของสโมสรก็ทำให้อนาคตของ Lionel Messi ไม่แน่นอนเช่นกัน แม้ว่าทีมอาจต้องการให้เขาเป็นกำลังหลักในช่วงถ่ายเลือด แต่ทว่าด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ของเจ้าตัวก็อาจหันไปหาความท้าทายใหม่ในช่วงท้ายอาชีพของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจตามที่ตำนานชาวอาร์เจนติน่ามองไว้นั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ทางเข้าจีคลับ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์ถล่มโรม่า ยับเยิน 6 – 2“โซลชา” ที่บ้านเกิด พร้อมใจสร้างรูปเพื่อเป็นเกียรติที่สร้างชื่อเสียงให้เมือง“เนย์มาร์” ถูก “โปเซ็ตติโน่” เอ่ยปากชม คุมไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

เชลซี ที่ต้องเผชิญหน้าความล้มเหลวในถ้วย เอฟเอคัพ จากเลสเตอร์

เชลซี

                เป็นผลการแข่งขันที่ผิดคาดไปเลยทีเดียว เมื่อทาง เชลซี ของ Thomas Tuchel ที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงมาตลอดจะต้องมาสะดุดในเกมที่เจอกับอาร์เซน่อลและเลสเตอร์ซิตี้ รวมถึงในเกมหลังยังทำให้พวกเขาต้องชวดแชมป์เอฟเอคัพไปอย่างน่าเสียดายเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นความพ่ายแพ้ต่อหน้าแฟนบอลครั้งแรกในรอบปีอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่นายใหญ่ชาวเยอรมันทำทีมแพ้สองเกมติดต่อกันจนทำให้หลายคนเริ่มกังวลถึงการแข่งขันในช่วงเกมที่เหลือแล้วเช่นกัน ความพ่ายของ เชลซี ในเกมเอฟเอคัพก็เกิดขึ้นมาจากลูกยิงของ "Youri Tielemans"                 ที่ช่วยให้เลสเตอร์ซิตี้สามารถคว้าแชมป์ถ้วยเก่าแก่ของเกาะอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ส่วนทางด้านสิงโตน้ำเงินครามที่ครองบอลและสร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่ากลับไม่เฉียบคมพอ รวมถึงลูกยิงตีเสมอในเกมก็ดันถูกจับล้ำหน้าไปแบบไม่มีข้อแก้ตัวแต่อย่างใด เช่นเดียวกับผลงานที่เข้าฝักของทางผู้รักษาประตูอย่าง Kasper Schmeichel ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ตามตำนานผู้พ่อของตัวเองไปอีกรายการต่อจากพรีเมียร์ลีกนั่น อีกทั้งยังเป็นฝันร้ายของสิงห์น้ำเงินที่ต้องเป็นรองแชมป์สองปีติดต่อกัน ปัญหาของเชลซีก็คือพวกเขายังมีเป้าหมายที่ต้องเล่นทั้งในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่จบเกมเอฟเอคัพไปแล้ว ซึ่งทีมสิงโตน้ำเงินครามยังไม่รับประกันว่า ตัวเขาจะได้ไปเล่นในรายการใหญ่ของยุโรปในช่วงปีหน้าหรือไม่ เนื่องจากยังครองอันดับสี่ในตารางอยู่และห่างจากลิเวอร์พูลเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น หากพวกเขายังเกิดพลาดในเกมที่เหลือก็อาจทำให้ตัวเองตกลงไปอยู่ในอันดับห้าของตารางได้เลยเช่นกัน แม้ว่าทีมดังจากลอนดอนจะยังได้เปรียบคู่แข่งอื่น ๆ อยู่ก็ตาม สุดท้ายแล้วเรื่องที่น่าเป็นห่วงของเชลซีก็คือทาง Thomas Tuchel เองก็มีสถิติไม่ดีในการเล่นในรอบชิงชนะเลิศเท่าไหร่นัก ทั้งการพ่ายแพ่ต่อบาเยิร์นมิวนิคในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อนและเกมที่เจอกับเลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งก็เป็นอาจลดความมั่นใจของทีมไปพอสมควร แม้ว่าพวกเขาจะได้เจอกับจิ้งจอกสีน้ำเงินอีกรอบในเกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อมาเพื่อหาโอกาสล้างแค้นนั่เอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ufabet1688 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์ถล่มโรม่า ยับเยิน 6 – 2“โซลชา” ที่บ้านเกิด พร้อมใจสร้างรูปเพื่อเป็นเกียรติที่สร้างชื่อเสียงให้เมือง“เนย์มาร์” ถูก “โปเซ็ตติโน่” เอ่ยปากชม คุมไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

“Pirlo” กุนซือยูเวนตุส “Cristiano Ronaldo” ไม่มีปัญหากับการถูกเปลี่ยนตัว

"Pirlo" เปลี่ยนตัว Ronaldo

                ยังมีเรื่องให้พูดถึงอยู่ประจำสำหรับทางยูเวนตุสที่ล่าสุด แม้ว่าจะสามารถเอาชนะอินเตอร์มิลานไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 แต่ทว่าก็ยังมีประเด็นของ Cristiano Ronaldo ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วงท้ายเกมและไม่รออยู่ข้างสนามจนหมดเวลาการแข่งขันอีกด้วย จนทำให้มีคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าตัวอาจจะไม่พอใจกับการตัดสินใจของผู้จัดการทีมเท่าไหร่นัก แม้ว่าทาง Andrea Pirlo จะออกมายืนยันว่า กองหน้าตัวเก่งของพวกเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการถูกถอนออกจากเกมแต่อย่างใด "Pirlo" จำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้ รวมถึงเมื่อจบเกมทาง "Ronaldo" ก็ไม่มีปัญหาอะไร                 เมื่อเกิดกระแสข่าวไม่ดีออกมานั้น ทางผู้จัดการทีมของยูเวนตุสได้ออกมาแก้ตัวกับลูกทีมไว้ว่า เขาคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ Ronaldo มีความสุขที่โดนเปลี่ยนตัวออก รวมถึงเกมนี้ยังเป็นแมตช์แรกที่ตัวเขาถูกเปลี่ยนออกจากสนามอีกด้วย ซึ่งในช่วงที่กองหน้าคนนี้ต้องออกจากไปจากเกมนั้น ทีมม้าลายก็มีผู้เล่นน้อยกว่าจน Pirlo จำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้ รวมถึงเมื่อจบเกมทาง Ronaldo ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับทีมและยังยิ้มแย้มตามปกติเช่นกัน                 สำหรับเกมที่ยูเวนตุสสามารถเอาชนะไปได้อย่างน่าตื่นเต้นนั้น ทาง Ronaldo สามารถทำประตูไปได้ก่อนในนาทีที่ 24 แม้จะพลาดจุดโทษก็ตาม ก่อนอินเตอร์มิลานจะตีเสมอกลับมาได้จากจุดโทษเช่นกัน จนกระทั่งช่วงเวลาก่อนหมดครึ่งแรกที่ Juan Cuadrado จะมาทำประตูขึ้นนำให้กับเจ้าบ้านได้อีกครั้ง แต่ทว่าทางทีมม้าลายจะต้องมาเสียเปรียบตัวผู้เล่นจากการที่   Rodrigo Bentancur โดนใบเหลืองที่สองจนต้องจากการเกมไป ก่อนที่ Giorgio Chiellini จะมาทำเข้าประตูตัวเองจนเกมเสมอกันอีกครั้ง แล้วก็เป็นจุดโทษในนาทีที่ 88 ของ Cuadrado คนเดิมรับหน้าที่สังหารแทนกองหน้าอย่าง Ronaldo และทำประตูชัยให้กับทีมพวกเขาได้ในที่สุด                 สุดท้ายแล้วเป้าหมายของยูเวนตุสก็คือการพาทีมไปเล่นรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็ยังครองอันดับสี่ของตารางได้อยู่ ซึ่งทางนาโปลีคู่แข่งเล่นน้อยกว่าหนึ่งนัด จนโอกาสของพวกเขายังเปิดกว้างมากพอจะแย่งชิงกับทีมดังจากตูรินจนถึงเกมสุดท้ายเลยทีเดียว สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ จีคลับ168 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์ถล่มโรม่า ยับเยิน 6 – 2“โซลชา” ที่บ้านเกิด พร้อมใจสร้างรูปเพื่อเป็นเกียรติที่สร้างชื่อเสียงให้เมือง“เนย์มาร์” ถูก “โปเซ็ตติโน่” เอ่ยปากชม คุมไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

ยูเวนตุส เฉือนชนะ อินเตอร์ มิลาน ยังมีลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก

ยูเวนตุส

                ยูเวนตุส ยังคงอยู่ในเส้นทางการคว้าโควตาไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า หลังล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ไป 3 – 2 แต่เกมนี้ไม่มีผลอะไรกับ อินเตอร์ มิลาน เนื่องจากพวกเขาคว้าแชมป์ไปแล้ว                 ศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ยูเวนตุส เปิดสนาม “อลิอันซ์ อารีน่า” ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้อย่าง อินเตอร์ มิลาน โดยเกมนี้เจ้าบ้านต้องการ 3 คะแนน เพื่อลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า เริ่มเกมมานาที 23 ยูเวนตุส เป็นฝ่ายได้เฮก่อน                 จากจังหวะที่ผู้ตัดสินขอเช็ควีเออาร์ในจังหวะที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน ไปดึงเสื้อของ จอร์โจ คิเอลลินี่ ก่อนที่จะเป่าให้ลูกโทษแก่ทัพ “ม้าลาย” และเป็น คริสเตียโน โรนัลโด ที่ซัดในจังหวะแรกแต่ถูก ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช เซฟเอาไว้ได้ แต่โชคยังดีที่บอลยังกระเด้งมาเข้าทาง ก่อนที่กัปตันทีมชาติโปรตุเกสจะซ้ำเข้าไปไม่เหลือ                 อย่างไรก็ตามในนาที 35 อินเตอร์ มิลาน ก็ตามตีเสมอ ยูเวนตุสมาเป็น 1 – 1 มาตไตส์ เดอ ลิกต์ ไปทำฟาวล์ใส่ เลาตาโร มาร์ติเนซ ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษแก่ “งูใหญ่” ก่อนที่ โรเมลู ลูกากู จะยิงเข้าไปไม่พลาด                 เกมตกเป็นของเจ้าบ้านอยู่ฝ่ายเดียวและในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ยูเวนตุสมาได้ประตูนำ 2 – 1 อีกครั้ง จากจังหวะที่ เดยัน คูลูเซฟสกี้ เปิดบอลเข้าเขตโทษแต่ถูกแนวรับทีมเยือนสกัดออกมาบริเวณด้านหน้ากรอบเขตโทษและเป็น ฮวน กวาดราโด ที่วิ่งเข้ามาซัดตูมเดียวตุงตาข่าว และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้                 ครึ่งหลังนาที 55 ยูเวนตุสต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ โรดริโก้ เบนทานเคอร์ โดนเหลือง - แดง ถูกไล่ออกจากสนามไป และจากนั้น อินเตอร์ มิลาน ที่ผู้เล่นเหนือกว่าก็เปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านอย่างไม่ยั้งและมาได้ประตูตีเสมอในนาที 83 แบบโชคช่วยจากจังหวะที่ ลูกากู ยืนรอในเขตโทษแต่เจ้าตัวกลับไปเหนี่ยว คิเอลลินี่ จนทำให้เสียหลักไปโดนบอลเข้าประตูตัวเอง และหลังจากกรรมการเช็ควีเออาร์ก็ยืนยันคำตัดสินเดิม แถมยังให้ใบเหลืองแก่แนวรับชาวอิตาเลียนอีกด้วย                

Top