แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดีลแห่งอนาคต ! เซ็นสัญญา Kayky วัย 17 ปี

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดาวรุ่ง

                เป็นการเซ็นสัญญาแห่งอนาคตอย่างแน่นอน สำหรับทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตัดสินใจซื้อนักเตะดาวรุ่งอย่างบราซิลอย่าง Kayky เข้ามาสู่ทีมเป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัวประมาณ 9 ล้านปอนด์ ซึ่งชื่อเสียงของดาวเตะคนนี้ก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับยอดนักเตะอีกคนของประเทศอย่าง Neymar Jr. เลยทีเดียว โดยทาง Kayky จะได้ลงเล่นกับทีมฟลูมิเนนเซ่ไปก่อนจนจบปี 2021 ก่อนที่จะย้ายมาวาดลวดลายที่สนามเอธิฮัดสเตเดี้ยมหรืออาจจะถูกส่งต่อไปเก็บประสบการณ์ที่อื่นแบบยืมตัวได้เช่นกัน อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีทีมซัคห์ตาร์ โดเนทส์ให้ความสนใจอีกด้วย สำหรับนักเตะคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนนี้มีชื่อจริงว่า  "Kayky da Silva Chagas"                 ที่เพิ่งจะมีโอกาสติดทีมชุดใหญ่ในปีที่ผ่านมา แต่ทว่าเขาเป็นที่จับตามองจากเรือใบสีฟ้ามาเป็นเวลานานแล้ว โดยเจ้าตัวสามารถทำประตูได้เพียงสองลูกจากการลงสนามแค่เก้านัดเท่านั้น แม้ว่าการโชว์ลีลาเลี้ยงเดี่ยวเข้าไปยิงทีมโนวาอิกัวคิวถือเป็นการแสดงศักยภาพที่ดาวรุ่งคนนี้จะกลายเป็นนักเตะชั้นยอดได้เลยทีเดียว ส่วนผลงานก่อนหน้านี้ของเจ้าตัวก็คือ การเป็นดาวซัลโวของลีกอายุต่ำกว่า 17 ปีที่สามารถยิงไปได้ถึง 12 ประตูนั่นเอง                 ด้านโค้ชยุคอายุต่ำกว่า 17 ปีของฟลูมิเนนเซ่ก็ออกมาแสดงความเห็นต่อปีกตัวใหม่ของแมนเชสเตอร์ซิตี้ไว้ว่า Kayky คือนักเตะที่โดดเด่นจากเทคนิคที่ยอดเยี่ยมของเขา ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหลบแบบหนึ่งต่อหนึ่งหรือความสามารถในการทำประตูที่มีคุณภาพเช่นกัน รวมถึงเขายังมีไหวพริบในสนามอย่างมาก ทั้งการหาพื้นที่ว่างให้กับตัวเองไปจนถึงการจ่ายบอลสร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตูได้ นอกจากนี้เขายังมีจิตวิญญาณความเป็นผู้ชนะในสนามที่เขาจะเรียนรู้ต่อไปในอนาคต                  ทาง Kayky นั้นก็คงจะมีโอกาสไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้กับรุ่นพี่อย่าง Gabriel Jesus อย่างแน่นอน ซึ่งก็นับเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับทีมไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ในทีมเรือใบสีฟ้ายังมีดาวรุ่งชาวบราซิลอีกหลายคนทั้ง Yan Couto หรือ Diego Rosa ที่ถูกส่งออกไปยืมตัวอยู่นั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ทดลองเล่นสล็อต RT เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” เตือนแมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนใจจากซูเปอร์ลีกซะ!!“มูรินโญ่” ไม่รอด โดนเด้ง! สเปอร์ส ปลดจากเก้าอี้ ผู้จัดการแล้ว!มูรินโญ่ กระเป๋าตุง! รับเงินชดเชยอื้อ หลังถูก “สเปอร์ส” ปลดพ้นทีม

“อลาบา” เก็บกระเป๋า ย้ายซบ มาดริด 5 ปี สื่อทุกสำนักยัน!

อลาบา

สื่อในเยอรมันแทบจะทุกฉบับ และสื่อในเมืองสเปน ต่างก็ออกมาระบุตรงกันว่า ดาวิด อลาบา ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ “ เสือใต้ ” บาเยิร์น มิวนิค ได้ตอบตกลงที่จะย้ายมาสวมเครื่องแบบของ “ ราชันชุดขาว ” เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งเมืองสเปนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญาในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งแน่นอนว่า อลาบา ก็คงจะได้ค่าเหนื่อยตามที่เอเย่นต์ และเจ้าตัวได้เรียกร้องก่อนหน้านี้ อลาบา ถึงตัดสินใจย้ายซบ มาดริด ตามที่เป็นข่าว สำหรับ ราชันชุดขาว แล้ว พวกเขาได้มีข่าวกับอลาบา มาอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่เพียงแค่ เรอัล มาดริด ทีมเดียวเท่านั้น ซึ่ง “ หงส์แดง ” ลิเวอร์พูล, เชลซี หรือแม้กระทั่งสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมแห่งลีกเอิง ต่างก็ต้องการตัวอลาบา เข้าไปร่วมทีมเช่นเดียวกัน สำหรับดาวเตะวัย 28 ปีนักเตะสัญชาติออสเตรีย เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องเป็นอย่างมาก หลังจากที่สามารถเล่นได้ทั้งกองหลัง และมิดฟิลด์ ซึ่งแน่นอนว่าอลาบา เป็นผู้เล่นที่มีสไตล์กระตือรือร้น และครองบอลเก่ง ซึ่งความโดดเด่นของอลาบา ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในช่วงที่เขาทำผลงานกับ “ เสือใต้ ” นั่นก็คือการเล่นริมเส้นไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งฟลูแบ็ค หรือ ว่าปีกอลาบา ก็จะทำได้ดีเสมอ นั่นจึงเป็นการการันตีว่าอลาบา เป็นนักเตะที่มีฝีเท้าไม่ธรรมดา และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีทีมใหญ่ในยุโรปให้ความสนใจอลาบา หลายทีมด้วยกัน แต่สำหรับตอนนี้สื่อในเมืองสเปน และเยอรมัน ก็ได้ระบุตรงกันว่าอลาบา ได้ตอบตกลงเซ็นสัญญา 5 ปีกับ เรอัล มาดริด ซึ่งถ้าหากว่าข่าวนี้คอนเฟิร์มและ มาดริด ออกมาแถลง นั่นจะเท่ากับว่าอลาบา จะสวมเครื่องแบบ ราชันชุดขาว เพื่อลงเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ถึงปี 2026 และนอกเหนือจากการเซ็นสัญญาของอลาบา ครั้งนี้แล้ว สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คงจะเป็นค่าเหนื่อยของ อลาบา ที่ได้เรียกร้องไว้ถึง 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ( 8 ล้านลาท ) ซึ่งถือว่าเป็นค่าเหนื่อยที่ทุบสถิติที่ เรอัล มาดริด จ่ายให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ ซุปเปอร์สตาร์ของวงการลูกหนัง และถึงแม้ว่า ราชันชุดขาว ยังไม่ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัด หรือ ว่าแถลงสัญญาที่ได้เซ็นไว้กับอลาบา แต่โอกาสถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ก็มีความเป็นไปได้สูง หลังจากที่อลาบา ได้ปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่กับทีม   “ เสือใต้ ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์

“เปเรซ” ปฏิเสธ เสียงแข็ง! ดึง “ โด้ ” สวมเครื่องแบบ ราชัน

"เปเรซ" ปฏิเสธ เสียงแข็ง!

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสูงสุดของ “ ราชันชุดขาว ” เรอัล มาดริด ยังคงทำตามนโยบายเดิมในช่วงที่เจ้าตัวได้หาเสียง หลังจากที่ เปเรซ ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานของสโมสร เรอัล มาดริด ในสมัยที่ 5 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และนโยบายหลักของเจ้าตัวก็คือ เปเรส จะไม่ดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์หมายเลข 7 ที่ขายให้ “ ม้าลาย ” ยูเวนตุส กลับมาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด อีกแน่นอน หลังจากที่ เปเรซ รู้ดีว่า ถ้าหากว่าดึง โรนัลโด้ กลับคืนมา สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาแล้วก็คือภาระค่าเหนื่อย โรนัลโด้ ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ในปีฤดูกาล 2018 และเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จกับการร่วมทัพกับ “ ม้าลาย ” ยูเวนตุส เป็นอย่างมาก แต่ทว่าสิ่งที่ โรนัลโด้ ผิดหวังนั่นก็คือ นับตั้งแต่ที่ โรนัลโด้ ย้ายไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส เจ้าตัวยังไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกของถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว และแน่นอนว่าเรื่องของการตกรอบก็ดูเหมือนจะไม่สมศักดิ์ศรีของ โรนัลโด้ อีกด้วยหลังจากที่ ยูเวนตุส เป็นทีมที่มีนักเตะที่แข็งแกร่ง และถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก แต่ทว่าด้วยโชคชะตา หรือ ว่าฝีเท้าของนักเตะ ทำให้พวกเขาไปไม่ถึงฝันสักที และอีกหนึ่งประเด็นก็คือว่า “ ม้าลาย ” ยูเวนตุส ต้องการที่จะขาย โรนัลโด้ ออกจากทีมทันทีหลังจากที่พวกเขาต้องประสบปัญหาขาดทุนทางด้านเงินยังหนัก และค่าเหนื่อยของ โรนัลโด้ ก็จะสามารถประหยัดช่วยค่าใช้จ่ายช่วย “ ยูเว่ ” ได้อีกมากพอสมควร ถ้าหากว่า โรนัลโด้ ย้ายออกจากทีม และในช่วงนั้น “ ม้าลาย ” ยูเวนตุส ก็จะได้ค่าฉีกสัญญาจาก โรนัลโด้ อีกต่างหาก แต่สำหรับในฝั่ง เรอัล มาดริด โดยที่ เปเรซ ออกมาพูดถึงว่า “ โรนัลโด้ เป็นที่รักของทุกคนใน เรอัล มาดริด แฟนบอลรักเขามาก พวกเรารู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ” “ แต่อย่าลืมไปว่า ถ้าหาก โรนัลโด้ ย้ายกลับคืนมา สภาพคล่องของทีม มาดริด คงจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน หลังจากที่พวกเราทราบตัวเลขค่าเหนื่อยของ โรนัลโด้ อยู่แล้ว ” “

“เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” เตือนแมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนใจจากซูเปอร์ลีกซะ!!

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

                เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีการจัดตั้งการแข่งขัน “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ขึ้น โดยระบุสิ่งนั้นจะเป็นการทำลายวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง ทั้งฟุตบอลอังกฤษ และวงการฟุตบอลทั่วโลกจะได้รับผลกระทบไปด้วย พร้อมเผยไม่คิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดจะมีส่วนกับเรื่องนี้ โดยอยากให้ “ปีศาจแดง” เปลี่ยนใจจากเรื่องดังกล่าวซะ                 กลายเป็นประเด็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ขึ้นมาในชั่วข้ามคืนกับการก่อตั้ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก โดยบรรดายักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลยุโรปทั้ง 12 ทีม ประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี, อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน และยูเวนตุส จากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลนา จาก ลา ลีกา สเปน "เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ แต่อย่างไรก็ตามแนวคิดของทั้ง 12 ทีมถูกคัดค้านจากทั้ง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ), สมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า), สมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), รัฐบาลอังกฤษ และพรีเมียร์ลีก รวมถึงถูกวิจารณ์อย่างมากจากทั้งอดีตนักฟุตบอล และผู้จัดการทีม โดยเฉพาะเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้อย่างชัดเจน                 โดยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดเผยว่า “การก่อตั้งการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก จะเป็นการทำลายประวัติศาสตร์สวยงามของฟุตบอลยุโรปที่ผ่านมา 70 ปีทั้งหมด มันเป็นการหลีกหนีจากประวัติศาสตร์ที่มียาวนาน ในฐานะที่ผมเคยลงเล่นกับทีมท้องถิ่นอย่างดันเฟิร์มลินตอนยุค 60 และเคยพาอเบอร์ดีนคว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1983 ผมถือว่าการที่ทีมเล็กๆ ได้ไปยืนบนจุดสูงสุดของการแข่งขัน มันเปรียบเสมือนได้ปีภูเขาเอเวอร์เรสต์ยังไงยังงั้น และถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ทุกทีมตระหนักถึงเรื่องนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“มูรินโญ่” ไม่รอด โดนเด้ง! สเปอร์ส ปลดจากเก้าอี้ ผู้จัดการแล้ว!

มูรินโญ่

                ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังกุนซือเชื้อสายโปรตุเกส ทำผลงานให้กับทีมได้อย่างย่ำแย่ล่าสุดบุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 2 – 2 ทำให้หล่นไปอยู่ที่ 7 ของตารางคะแนน โอกาสที่จะทำอันดับไปแข่งบอลถ้วยสโมสรยุโรปริบหรี่ลงทุกที โดย “ไก่เดือยทอง” แต่งตัว ไรอัน เมสัน อดีตนักเตะของทีมรับหน้าที่ผู้จัดการทีมร่วมกับ คริส พาวล์ ไปก่อนพลางๆ ทางสโมสรได้แยกทางกับ "โชเซ่ มูรินโญ่" เป็นที่เรียบร้อย                 โดย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าทางสโมสรได้แยกทางกับ โชเซ่ มูรินโญ่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ในการปลดครั้งนี้มาจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ทำผลงานไม่เข้าตาบอร์ดบริหารของทีม จนทำให้โอกาสที่ “ไก่เดือยทอง” จะได้ไปเล่นในฟุตบอลสโมสรยุโรปฤดูกาลหน้าน้องลง หลังจากในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดพวกเขาทำได้เพียงแค่ไล่ตีเสมอเอฟเวอร์ตัน 2 – 2 จนทำให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส หล่นไปอยู่อันดับที่ 7 ของตารางคะแนนในตอนนี้                 ภายหลังจากที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ได้ประกาศปลดโชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากทีม พวกเขาก็ได้ทำการแต่งตั้ง ไรอัน เมสัน อดีตมิดฟิลด์ของทีมวัย 29 ปี เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวแทนจนจบฤดูกาล โดย เมสัน จะทำงานร่วมกับ คริส พาวล์ และเกมแรกที่ เมสัน กับ พาวล์ จะได้ลงคุมทีมร่วมกันคือ ศึก คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 25 เมษายน 2564 นี้ โดยจะเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี                 สำหรับ ไรอัน เมสัน นั้นเป็นเด็กปั้นของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส มาตั้งแต่แรกและได้ก้าวขึ้นชุดใหญ่ในปี 2008 และลงเล่นให้กับ “ไก่เดือยทอง” จนถึงปี 2016 ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม ฮัลล์ ซิตี แต่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2018 ตอนมีอายุได้ 26 ปีเท่านั้น จากนั้นเจ้าตัวได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์ของ ท็อตแน่ม

มูรินโญ่ กระเป๋าตุง! รับเงินชดเชยอื้อ หลังถูก “สเปอร์ส” ปลดพ้นทีม

มูรินโญ่

            มูรินโญ่ กุนซือจอมแท็กติกชาวโปรตุกีสถูกอดีตต้นสังกัดทีมล่าสุดอย่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ประกาศปลดฟ้าผ่าเมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ทว่า การถูกไล่ออกจากงานในครั้งนี้ของเทรนเนอร์วัย 58 ปี กลับทำเงินมหาศาลให้เจ้าตัวจากค่าชดเชยที่ สเปอร์ส ต้องจ่ายย้อนหลังตามที่ระบุไว้ในสัญญาซึ่งทั้งสองฝ่ายเซ็นกันไว้เมื่อช่วงปลายปี 2019 ซึ่งว่ากันว่าเจ้าเงินชดเชยที่ว่านี้มหาศาลแตะหลักพันล้านบาทเลยทีเดียว มูรินโญ่ เตรียมรับค่าชดเชยจาก สเปอร์ส จำนวน 30 ล้านปอนด์             มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีส จะได้รับเงินชดเชยจากอดีตต้นสังกัดอย่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นจำนวน 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,300 บาท จากการที่เจ้าตัวถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ สเปอร์ส เมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา  โดยกุนซือเลือดฝอยทองใช้เวลากับทีมดังแห่งกรุงลอนดอนเหนือไปเพียง 17 เดือน นับตั้งแต่ที่เจ้าตัวได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแทนที่ของ “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” ที่ถูกปลดพ้นทีมไปเมื่อเดือนพศจิกายน ปี 2019 และเซ็นสัญญายาวถึงปี 2023 แต่เจ้าตัวก็ถูกปลดขณะที่ยังเหลือสัญญากว่า 2 ปี              ขณะที่ทางด้าน “แดเนี่ยล เลวี่” ประธานสโมสรของ สเปอร์ส ได้ออกมาเปิดเผยว่า “มูรินโญ่เป็นมืออาชีพมาก เขาแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในช่วงที่เกิดโรคระบาด ผมมีความสัขกับการทำงานร่วมกับเขา และเสียใจที่หลายอย่างไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ แต่เขาจะได้รับการต้อนรับที่นี่เสมอ เราขอบคุณเขาและทีมงานทุกคนสำหรับการทุ่มเทที่ผ่านมา”             ทั้งนี้ มูรินโญ่ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือที่ได้รับเงินชดเชยหลังถูกปลดพ้นตำแหน่งมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกลูกหนัง โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้รับเงินชดเชยรวม 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท จากการถูก เชลซี ปลดจากตำแหน่งถึงสองครั้ง และอีก 17 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 738 ล้านบาท จาก เรอัล มารดิด ก่อนจะได้จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีก 15 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 651 ล้านบาท ทำให้รวม ๆ แล้ว มูรินโญ่ได้เงินชดเชยไปแล้วถึง 93.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,060 ล้านบาท เลยทีเดียว สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ทางเข้าจีคลับ เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “Kylian Mbappe” ดาวรุ่งแข้งทองของปารีสแซงต์แชร์แมงรีลมาดริด กับ “Eder Militao” กองหลังที่ต้องการย้ายออกไป“Martinelli” กองหน้าปืนใหญ่ที่อาจบาดเจ็บในเวลาสำคัญ

“กรีนวู๊ด” ซัดเบิ้ล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มเบิร์นลีย์

                เมสัน กรีนวู๊ด กองหน้าดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โชว์ฟอร์มสุดเฉียบยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยต้นสังกัดเปิดบ้านไล่ถล่ม เบิร์นลีย์ ที่กำลังหนีตกชั้นไปแบบขาดลอย 3 – 1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมจ่าฝูงที่ 8 คะแนน                 ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ โดยเจ้าบ้านฟอร์มกำลังร้อนแรงอีกครั้งชนะในลีกติดต่อกันมาแล้ว 4 นัดด้วยกัน ส่วนทีมเยือนกำลังดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก                 เริ่มครึ่งแรกมาเป็นเจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัด แต่ปัญหาคือเบิร์นลีย์ ลงไปตั้งรับจนลึกทำให้ แนวรุกของ “ปีศาจแดง” ยังไม่สามารถเจาะกำแพงได้ เลยเสมอกันอยู่ที่ 0 – 0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก "เมสัน กรีนวู๊ด" ที่วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเข้าไป!!                 ครึ่งหลัง โซลชา แก้เกมทันทีถอดเอา เฟร็ด ออกแล้วส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงเล่นแทน และเริ่มมาได้แค่ 3 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตะลุยขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจะจ่ายเข้าในเขตโทษให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโปรตุเกสปล่อยบอลลอดขาและเป็น เมสัน กรีนวู๊ด ที่วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเข้าไป                 เจ้าบ้านดีใจได้แค่แปบเดียว เพราะเบิร์นลีย์ ตามตีเสมออย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุมและเป็น เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ เบียดเอาชนะ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะโขกเข้าไปไม่เหลือ สกอร์กลับมาเป็น 1 – 1                 จากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกอย่างพายุบุแคมเพื่อเอาประตูขึ้นนำ และมาประสบความสำเร็จในนาที 84 จากผลงานของ ปอล ป๊อกบา ที่เปิดขวางมาให้กับ กรีนวู๊ด ก่อนที่ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษจะแตะเข้าเขตโทษและกดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับของทีมเยือนพุ่งเข้าประตูไป “ปีศาจแดง” นำ 2 – 1                 ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” กับ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ ตบเท้าเข้าร่วม

ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

                กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ แห่งวงการฟุตบอลยุโรปประกอบไปด้วย บิ๊กซิกส์แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส), 3. ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี (เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส), และ 3 ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน (เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลนา) เตรียมร่วมมือกันก่อตั้งลีกใหม่ขึ้นมาในนาม “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” สาเหตุหลักในการที่ทั้ง 12 ทีมยักษ์ใหญ่ตัดสินจะแยกตัวออกมาจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก                 ส่วนหนึ่งมาจากการที่สมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีการแบ่งผลประโยชน์ให้กับบรรดาทีมใหญ่น้อยเกินกว่าความเป็นจริง โดยที่ ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เลือกที่จะแบ่งเงินให้กับบรรดาทีมเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จักที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก ทำให้ 12 ทีมยักษ์ใหญ่มองว่าพวกเขาได้รับส่วนแบ่งที่น้อยเกินไป โดยเฉพาะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ที่ทีมใหญ่ได้เงินส่วนแบ่งน้อยกว่าทีมที่ตกชั้นเสียอีก                 จากการตัดสินใจของ 12 ทีมยักษ์ใหญ่ที่ต้องการจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกจะทำให้พวกเขาได้รับส่วนแบ่งทางด้านการเงินที่เพิ่มมากขึ้น เพราะจะจัดการแข่งขันในช่วงกลางสัปดาห์เรียกได้ว่าท้าชนกับทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า อย่างเต็มตัว จะทำให้แฟนฟุตบอลได้ดูบิ๊กแมตช์ทุกสัปดาห์การแข่งขัน ซึ่ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกจะช่วยให้พวกเขาได้ทั้งค่าสปอนเซอร์, ค่าถ่ายทอดสด และอีกหลายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย                 แต่ก็ใช่ว่าเรื่องนี้ทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า จะอยู่เฉยๆ พวกเขาได้ออกมาแบนทั้ง 12 ทีมยักษ์ใหญ่ออกจากการแข่งขันลีกในประเทศ รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก หากทั้ง 12 ทีมทำการจัด ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกขึ้นมาจริง และจะแบนนักฟุตบอลทั้งหมดที่อยู่ใน 12 ทีมยักษ์ใหญ่ห้ามลงเล่นเกมระดับชาติอีกด้วย แต่ตัวตั้งตัวตีอย่าง ฟลอเลนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ก็บอกว่าหากโดนแบนจริงๆ พวกเขาก็จะจัดเกมทีมชาติขึ้นมาเองโดยที่ไม่แคร์ทาง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า อย่างเด็ดขาด                 ไม่ใช่แค่เพียง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ),

“Kylian Mbappe” ดาวรุ่งแข้งทองของปารีสแซงต์แชร์แมง

Kylian Mbappe

                คำพูดของ Neymar Jr. ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกองหน้าเพื่อนร่วมทีมปารีสแซงต์แชร์แมงอย่าง Kylian Mbappe ที่กำลังทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเสมอมา รวมถึงยังเป็นคนที่ช่วยดาวเตะชาวบราซิลปรับตัวในกรุงปารีสนับตั้งแต่ย้ายมาจากบาร์เซโลน่าในปี 2017 นั่นเอง นอกจากนี้ยังพยายามออกมาบอกใบ้ว่าดาวรุ่งจากทีมชาติฝรั่งเศสคนนี้เตรียมจะจรดปากกาเซ็นต่อสัญญากับเปเอสเชอีกไปในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ว่าจะมีกระแสข่าวลือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรีลมาดริดที่ต้องการจะซื้อนักเตะตัวเก่งของโลกไปร่วมทีมก็ตาม สิ่งที่ "Neymar" ได้พูดถึง "Kylian Mbappe" ไว้ก็คือ เขาเป็นคนสำคัญที่ทำให้กองหน้าชาวบราซิลปรับตัว                 กับความเป็นฝรั่งเศสได้ดี โดยเฉพาะความคิดความอ่านของคนที่นั่น ซึ่งการเข้ามาช่วยของรุ่นน้องคนนี้ก็ทำให้เขาดีใจที่ยังอยู่กับปารีสแซงต์แชร์แมงในปัจจุบัน ด้านนิสัยส่วนตัวของ Mbappe นั้นก็ยังเป็นคนที่ร่าเริง สุภาพและใจดีกับทุกคน จนกระทั่งทำให้ดาวดังที่เพิ่งย้ายมาในเวลานั้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายในการปรับตัวเข้าหาเพื่อนร่วมที่ต่อมาจะพากันยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่จะพาทีมเป็นแชมป์ลีกเอิงหลายสมัยไปถึงการเข้ารอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก                 แม้หลายคนจะคาดกันว่า Neymar อาจจะกลับไปร่วมทัพกับ Messi อีกครั้งที่บาร์เซโลน่า ทว่าปัจจุบันเจ้าตัวคงต้องการยืนเป็นกองหน้าตัวหลักให้กับยอดทีมจากลีกเอิงมากกว่า รวมถึงอาจจะอยู่กับเปเอสเชไปอีกนานถึงปี 2026 เลยทีเดียว ซึ่งเหตุผลก็มาจากการพัฒนาของทีมอย่างต่อไปเนื่องจนเกือบจะเป็นเจ้าแห่งยุโรปในปีก่อน โดยที่พวกเขาต้องแพ้ให้แก่เสือใต้บาเยิร์นมิวนิคไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงเป้าหมายหลักของทีมก็การเป็นแชมป์ของยุโรปที่ Neymar เคยได้มาแล้วนั่นเอง                 สุดท้ายแล้วการมีอยู่ของสุดยอดกองหน้าทั้ง Mbappe และ Neymar Jr. ก็น่าจะเป็นจุดสำคัญของทีมปารีสแซงต์แชร์แมงหรือเปเอสเชก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดได้ หลังจากที่พวกเขาได้พยายามอย่างหนักและเริ่มจะแข็งแกร่งพอจะสู้กับทีมอื่นในยุโรปได้แบบไม่เป็นรองแล้วเช่นกัน สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ royal777 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “การ์เซีย” เก็บของรอย้ายขึ้น “ยานแม่” หลังหมดสัญญา เทพซื้อขายลงมายันเอง!“Pirlo” กุนซือ และตำนาน ที่ต้องการแก้ตัวกับยูเวนตุสต่อไปปารีสแซงต์แชร์แมง กับ “Neymar Jr.” ที่โดนแบนสองเกมหลังจากเกมกับลีลล์