“คล็อปป์” กร้าว! เตรียมแข้งหงส์แดง จัดเต็มนัดเยือนผี ในเอฟเอคัพ

คล็อปป์

เจอเกนย์ คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ออกมาบอกว่า เขาจะส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามในเกมเอฟเอคัพ รอบที่ 4 ที่จะออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลแทรฟฟอร์ด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวลงสนามดวลกันอีกครั้ง หลังจากฟัดกันในพรีเมียร์ลีก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คราวนี้เป็นเกมเอฟเอคัพ รอบที่ 4 โดยจะแข่งขันที่สนามโอลแทรฟฟอร์ด ในวันที่ 24 มกราคม 2564 ซึ่งตามศักยภาพของขุมกำลังแล้ว ทั้งสองทีมไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ผลงานของทีมช่วงหลังต่างกันอย่างชัดเจน โดยฝั่งหงส์แดง ฟอร์มออกทะเลสุด หากไม่นับเกมที่พวกเขาชนะ แอสตัล วิลล่า ที่ส่งทีมเยาวชนลงเล่น ในเอฟเอคัพ รอบที่ 3 ด้วยสกอร์ 4-1 นั่นจะส่งให้พวกเขาไม่ชนะใคร 5 นัดติดต่อกัน และ 4 นัดหลังสุด พวกเขายิงประตูไม่ได้เลย ส่วนฝั่งทัพผีแดง ตอนนี้กำลังดีดสุดขีด พวกเขาแพ้แค่เกมเดียว จาก 12 นัดหลังสุด ซึ่งเป็นเพียงเกมคาราบาวคัพ และเก็บชัยชนะได้ 8 นัด ที่เหลือเสมอ 3 นัด ซึ่งทาง เจอเกนย์ คล็อปป์ ได้กล่าวว่า “ผมจะส่งทีมที่ดีที่สุดในเวลานี้ลงสนาม เราต้องการชัยชนะในเกมนี้ และเรามาตัดสินกันในวันนั้น ว่าจะออกหมู่หรือจ่า ตอนนี้ทัพปีศาจแดง แกร่งทั่วแผ่นสุดๆ และแน่นอนพวกเราต้องการที่จะผ่านเข้ารอบ ซึ่งหากจะทำแบบนั้นได้ เราต้องอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดตลอด 90 นาที พักหลังลูกทีมของผมขาดความมั่นใจ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่อยู่ดีๆมันก็เดินเข้ามาหาเรา มันต้องใช้เวลาแก้ไขบางสิ่งบางอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง ตอนนี้มีหลายอย่างที่เป็นปัญหาของทีมเรา อย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือ เกมรุกของเรายิงประตูไม่ได้เลย ความเด็ดขาดในพื้นที่สุดท้ายของเราหายไป เรื่องแบบนี้มันแก้ไขได้ ไม่ใช่ว่ามันจะอยู่กับเราไปตลอด เมื่อเราตั้งใจทำงานอย่างหนัก ทุกอย่างมันจะดีขึ้น เราไม่ได้ผลการแข่งขันอย่างที่เราต้องการในช่วง 5 เกมหลัง เกมในสนามบางอย่างเราทำได้ดีแล้ว แต่ก็มีบางอย่างที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ และเราจะเร่งแก้ไขให้มันกลับมาดีให้ได้” ทางด้าน จอจินิโอ ไวนาลดุม กองกลางคนสำคัญได้กล่าวว่า “เราสร้างโอกาสในการทำประตูได้อย่างมากมาย แต่ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้  มันเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง หากมองในมุมมองของคนดู ก็จะบอกว่าทีมเราขาดความมั่นใจ ไร้ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย แต่ผมยังคิดว่าทีมเรา เล่นด้วยความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แต่โอกาสมากมายที่เรามีนั้น มันกลับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย เกมหน้าเราจะต้องดวลกับทัพปีศาจแดง และเราจะต้องพยายามเก็บชัยเหนือพวกเขาให้จงได้” สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ เว็บสล็อตยอดนิยม เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “คล็อปป์”กุนซือหงส์แดง ขอรับผิดชอบคนเดียว เกมหงส์พ่ายเบิร์นลีย์ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้ กับตำแหน่งกุนซือเต็มตัวสเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1

“เคราซ์” คุยโว! หงส์ยังลุ้นแชมป์เต็มตัว จบซีซั่นผียังไงก็อยู่ใต้ตีน

เคราซ์

ปีเตอร์ เคราซ์ อดีตกองหน้าร่างโย่งของ ลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความมั่นใจว่า อดีตต้นสังกัดของเขา ยังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว แถมยังแอบแซะคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าจบฤดูกาลนี้ยังไงอันดับก็ยังคงอยู่ใต้ตีนพวกเขาอีกเช่นเคย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลับเข้าฝั่งสักที หลังจากไม่ชนะใครในลีกมาหลายนัด โดยนัดล่าสุดบุกไปเอาชนะ ทอตแนมฮอต สเปอร์ 3-1 เก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนเต็ม มีเพิ่มเป็น 37 คะแนน อยู่อันดับที่ 4 ของตาราง ตามหลังทีมนำ “ทัพเรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 4 คะแนน แต่ลงเล่นมากกว่า 1 นัด แต่โปรแกรม 3 เกมถัดไปถือว่าหนักเอาเรื่อง เมื่อต้องดวลกับ เวสแฮมต์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเบาหน่อยก็คือเจอกับ ไบรจ์ตั้น แต่ก็ไม่ง่ายเพราะอีกฝั่งต้องการทุกคะแนนเพื่อลุ้นหนีตกชั้น ซึ่งทาง ปีเตอร์ เคราซ์ ได้กล่าวหลังจบเกมว่า "ผมยังคงเชื่อมั่นในตัวของพวกเขาเสมอ" "แม้จะยังไม่ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย ผมได้ติดปลายนวมกับ ริโอ เฟอร์ดินาน เอาไว้ด้วยว่าเกมนี้พวกเขาจะกลับมาได้ และแน่นอนเมื่อจบ 38 นัด พลพรรคปีศาจแดง จะยังคงอยู่ใต้ตีนทัพหงส์แดง อีกเช่นเคย และที่แน่นอนที่สุดคือ ใครจะมากาชื่อทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ออกจากเส้นทางการลุ้นแชมป์ไม่ได้เด็ดขาด การที่พวกเขาเลือกวาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ให้มาบัญชาเกมรับมันเป็นอะไรที่สุดยอดเอามากๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ากังวลอยู่ในน้อยเมื่อต้องส่ง แน็ท ฟิลลิปส์ ลงสนามมาแทนที่ โจเอล มาติป ใช่แล้ว ตอนนี้ทัพส์หงแดง กำลังมีปัญหาในแนวรับ โดยเฉพาะตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แต่จะไปกังวลอะไรมาก เพราะพวกเขายังมีสุดยอดผู้เล่นในแนวรุกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอันตรายทุกวินาทีอยู่ในทีม” ทางด้าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เกมนี้ยิงได้ 1 ประตู และจ่าย 1 แอสซิสต์ ได้กล่าวหลังจบเกมว่า “เกมนี้เราต้องการสามคะแนนเต็ม และมันเหมาะสมแล้วที่จะเป็นของเรา ฝั่งเราเล่นได้เหนือกว่าตลอด 90 นาที ส่วนพวกเขาก็โดนวีเออาร์ริบประตูคืน ซึ่งประตูนั้น อาจจะเปลี่ยนเกมนี้ได้เช่นกัน แต่เกมนี้เราเล่นได้ตามแผนที่กุนซือได้วางหมากเอาไว้แบบไม่ผิดเพี้ยน สามคะแนนสมควรที่จะเป็นของเราอย่างแท้จริง ความจริงมันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนะ เรายังคงเล่นแบบเดิม ลงสนามด้วยความมุ่งมั่นเช่นเดิม ให้ความยำเกรงคู่แข่งเหมือนที่เคยเป็น และเชื่อมั่นในทีมว่าจะสามารถเอาชนะได้” สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ gclub1688 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “คล็อปป์”กุนซือหงส์แดง ขอรับผิดชอบคนเดียว เกมหงส์พ่ายเบิร์นลีย์ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้ กับตำแหน่งกุนซือเต็มตัวสเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1

“คล็อปป์” ประกาศกร้าว! หงส์แดง ทีมดีทีมเดิมกลับมาแล้ว

เจอเกนย์ คล็อปป์

เจอเกนย์ คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ออกมาบอกว่า เกมนัดล่าสุดที่บุกไปเอาชนะ ทอตแนมฮอต สเปอร์ คือฟอร์มการเล่นที่หายไปของทัพหงส์แดง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 20 บุกไปเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนมฮอต สเปอร์ 3-1 โดยได้สามประตูจาก โรเบอร์โต้ ฟิร์เมียโน่ นาที 45+4 อเล็กซานเดอร์. อาร์โนลด์ นาที 47 และ ซาดิโอ มาเน่ นาที 65 ส่วนสเปอร์ ได้ประตูจาก ปิแอร์ เอมิล ฮอยแบร์ก นาที 49 จบเกมนี้ส่งให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนน กลับไปอยู่อันดับที่ 4 ไล่หลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 คะแนน แต่ลงสนามมากกว่า 1 นัด ส่วนทอตแนมฮอต สเปอร์ มี 33 คะแนน จากการลงสนาม 19 นัด อยู่อันดับที่ 6 คล็อปป์ ได้กล่าวหลังจบเกมว่า "เกมนัดนี้เป็นอะไรที่สูสีและเข้มข้นเหมือนที่เราคิดเอาไว้" ซึ่งทาง เจอเกนย์ คล็อปป์ ได้กล่าวหลังจบเกมว่า “เกมนัดนี้เป็นอะไรที่สูสีและเข้มข้นเหมือนที่เราคิดเอาไว้ก่อนการแข่งขัน เราได้ประตูในช่วงเวลาที่เหมาะสมมากๆ คนที่ยิงประตูก็สมควรที่จะยิงได้  ทุกอย่างในเกมนี้มองแล้วดูดีไปหมด ถ้าไม่รวมประตูที่เราเสียไป ทุกอย่างในเกมนี้ไม่เกี่ยวกับแผนการเล่น หรือความฟิตสมบูรณ์ของรางกายหรอกนะ แต่นี่มันคือแนวทางการเล่นในแบบที่เราเป็นอยู่แล้ว แบบนี้แหละคือสิ่งที่เราเป็น โดยเฉพาะเกมในครึ่งหลัง นี่แหละคือความเป็นหงส์แดงอย่างแท้จริง เกมนี้ผมจำไม่ได้ว่า ลูกทีมของโจเซ่ มูริญโญ่ ได้โอกาสสร้างเกมรุกบ่อยแค่ไหน แต่ที่รู้คือทีมเราเล่นเกมรับกันได้แข็งแกร่งมาก เป็นการเล่นที่ทรงประสิทธิภาพ และฟอร์มแบบนี้แหละที่ผมอยากจะให้เป็น พวกเราดันสูงไปถึงกลางสนาม และดันไปเซ็ตบอลที่กรอบเขตโทษฝั่งตรงข้ามอยู่บ่อยครั้ง เราเล่นเกมเพรสซิ่งได้อย่างดุดัน และสวนกลับได้น่ากลัว เกมนี้แนวรับพวกเราดันสูง แต่ก็ไม่ได้ดันสูงแบบไม่ระวังอะไรเลย” โปรแกรมนัดต่อไป ลิเวอร์พูล จะออกไปเยือน เวสแฮมต์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 ในวันที่ 31 มกราคม ตามด้วยการเปิดบ้านรับมือ ไบรจ์ตั้น ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ต่อด้วยการเล่นในแอนฟิลด์ ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ โจ๊กเกอร์123 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “คล็อปป์”กุนซือหงส์แดง ขอรับผิดชอบคนเดียว เกมหงส์พ่ายเบิร์นลีย์ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้

“ซาเวจ” บอก! หากไม่มี “คาวานี่” ผีแดง แมนยูฯ คงไม่ชนะฟูแล่ม

ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตนักเตะของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในนักวิจารณ์ฟุตบอลชื่อดังของประเทศอังกฤษ ออกมาบอกว่า เกมล่าสุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ ฟูแล่ม 2-1 หากไม่มี เอดิสัน คาวานี่ สกอร์อาจจะไม่เป็นแบบนั้น "เอดิสัน คาวานี่" ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ยิงได้ 1 ประตู บวกกับอีกลูกของ พอล ป็อกบา ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ส่งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่แซงฟูแล่ม 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 19 ส่งให้ “พลพรรคปีศาจแดง” กลับขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ซึ่งทาง ร็อบบี้ ซาเวจ ได้กล่าวว่า “เอดิสัน คาวานี่ซัดไปแล้ว 409 ประตู นับตั้งแต่ค้าแข้งมา คิดดูว่าเขาจะมีความเฉียบขาดในการยิงประตูมากขนาดไหน เขารอจังหวะที่ อัลฟอน อาเรโอล่า ทำพลาด และจัดการกับมันได้อย่างเด็ดขาด ความจริงบอลจากเท้าของ บรูโน แฟร์นานเดส ก็ถือว่าดูดี แต่ผู้รักษาประตูน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และเมื่อเขาพลาดขึ้นมา กองหน้าเบอร์ 9 ขนานแท้อย่าง เอดิสัน คาวานี่ก็จัดให้อย่างสาสม” “ตามความคิดของผมนะ ไม่ได้จะว่าใคร หากจังหวะนี้หากเป็น อองโทนี่ มาร์กซิยาล ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ผลที่ออกมาอาจจะไม่เป็นเหมือนที่ เอดิสัน คาวานี่ทำก็เป็นได้ เพราะสัญชาตญานในการทำประตูเขายังไม่ถึงขั้นนั้น ก็เพราะเขามีสิ่งนี้ติดตัวนั่นแหละ เขาถึงซัดไปถึง 409 ประตู” เอดิสัน คาวานี่ดาวเตะวัย 33 ปี สร้างชื่อมากับ ปาแลร์โม ก่อนจะมามีชื่อเสียงตอนอยู่กับ นาโปลี ลงสนาม 138 นัด ยิงได้ 104 ประตู และไปพีคสุดๆกับ ปารีส แซงแชร์กแมง ลงสนาม 304 นัด ยิงได้ 200 ประตู หลังหมดสัญญากับยอดทีมของประเทศฝรั่งเศส ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัว ลงสนามให้ทัพปีศาจแดง 17 นัด ยิงได้ 5 ประตู สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ gclub casino เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ “คล็อปป์”กุนซือหงส์แดง ขอรับผิดชอบคนเดียว เกมหงส์พ่ายเบิร์นลีย์ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้ กับตำแหน่งกุนซือเต็มตัวสเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง

“คล็อปป์”กุนซือหงส์แดง ขอรับผิดชอบคนเดียว เกมหงส์พ่ายเบิร์นลีย์

คล็อปป์

เจอเกนย์ คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ออกมาบอกว่า เขาขอเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว หลังพา “ทัพหงส์แดง” พ่ายคาแอนฟิลด์ต่อ เบิร์นลีย์ 0-1 ทั้งที่เป็นฝ่ายพับสนามบุกตลอดทั้งเกม ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ลงสนามในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 19 พ่ายให้กับ เบิร์นลีย์ 0-1 ซึ่งเกมนี้พวกเขาครองบอลถึง 71.6% มีโอกาสทำประตูถึง 27 ครั้ง แต่กลับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย ส่งให้ตอนนี้พวกเขา ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกัน แถมยังยิงประตูไม่ได้ แม้แต่ลูกเดียว นับเป็นเวลามากกว่า 500 นาทีแล้ว ที่พักเขายังไม่สามารถยิงประตูได้  ส่งผลให้พวกเขายังอยู่อันดับที่ 4 ตามเดิม มีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 คะแนน ซึ่งทาง เจอเกนย์ คล็อปป์ ได้กล่าวหลังจบเกมว่า “มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะแพ้ในเกมนี้ แต่สุดท้ายเราดันแพ้ ทุกอย่างคือความรับผิดชอบของผม เพราะผมมีหน้าที่จัดทีมให้พร้อมที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด ที่จะการันตีสามคะแนนเต็มในเกมนัดนี้ เกมนี้เราครองบอลเยอะมาก แต่ปัญหาก็คือในจังหวะสำคัญ ในพื้นที่สุดท้ายเราทำได้ไม่ดีพอ สัปดาห์ที่แล้ว เราก็เจอปัญหาแบบนี้ เราเซ็ตเกมรุกมาจนถึงจังหวะที่ต้องจบแล้ว แต่เราดันไม่ยิง เราพยายามอย่างหนัก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังใช้ไม่ได้ผลกับเกมนี้ ความผิดพลาดต่างๆ ขอให้มาลงที่ตัวผม ส่วนเวลาทีมได้รับชัยชนะ ต้องยกความดีความชอบให้กับลูกทีมของผม เพราะพวกเขาเป็นคนลงแรง จนทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นมา” ทางด้าน เจมี่ คาราเกอร์ อดีตกองหลังคนดังของ ลิเวอร์พูล ได้กล่าวว่า “เรากำลังวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นที่ก้มต่ำของลิเวอร์พูล ส่วน เจอเกนย์ คล็อปป์ ได้ออกมาปกป้องลูกทีมของเขา เพราะพวกเขาเคยพาความสำเร็จมาสู่ทีม ตอนนี้พวกเขาตามหลังจ่าฝูง 6 คะแนน แน่นอนช่องว่างมันมีโอกาสลดลงมาได้ แต่โปรแกรมต่อจากนี้มันก็ไม่ไดง่ายเลย ดูเหมือนคำว่าแชมป์จะค่อยๆเดินห่างออกจากพวกเขาไปเรื่อยๆ แต่สำหรับผมนะ ตอนนี้พวกเขาควรจะคิดถึงโควต้ายูฟ่าแชมป์เปียนลีก ก่อนที่จะมาคิดถึงเรื่องป้องกันแชมป์ ซึ่งก่อนอื่นเลย พวกเขาต้องกลับมายิงประตูให้ได้ก่อน” สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ สูตรบาคาร่า เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้ กับตำแหน่งกุนซือเต็มตัวสเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1 – 1เวสต์แฮม หืดขึ้นคอเบียดชัย สต็อคพอร์ท ท้ายเกม เข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4

ปิดตำนานกองหน้า “รูนี่ย์” รับงานคุม ดาร์บี้ กับตำแหน่งกุนซือเต็มตัว

รูนี่ย์

                เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ประกาศยุติบทบาทการเป็นนักฟุตบอลเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา หลังจากโชกโชนอยู่ในสังเวียนลูกหนังมายาวนานกว่า 20 ปี โดยเจ้าตัวจะหันหน้าเข้ารับงานการเป็นผู้จัดการทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้ สโมสรสุดท้ายในชีวิตการค้าแข้งอย่างเต็มตัว                 โดย เวย์น รูนี่ย์ ที่ปัจจุบันมีอายุ 35 ปี ย้ายมาอยู่กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2020 ในตำแหน่งผู้เล่น – โค้ช และซึ่งในตอนนั้นผู้จัดการทีมของ “แกะเขาเหล็ก” คือ ฟิลิป โคคู อดีตตำนานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ แต่หลังจากเริ่มฤดูกาล 2020 – 2021 มาไม่เท่าไหร่ผลงานของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ก็ดิ่งลงเหวทันทีโดยไปจมอยู่ในอันดับสุดท้ายของศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ทำให้ โคคู ถูกปลดจากตำแหน่งทันและสโมสรดาร์บี้ เคาน์ตี้ ได้แต่งตั้งให้ เวย์น รูนี่ย์ รับหน้าที่เป็นผู้เล่น – ควบคู่ผู้จัดการทีมไปด้วย หลังจากที่ "เวย์น รูนี่ย์" เข้ารับตำแหน่งกุนซือขัดตาทัพ ผลงานของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ก็ดีขึ้นตามลำดับ                 โดยเขาพาต้นสังกัดขยับหนีจากบ๊วยและมีโอกาสรอดพ้นการตกชั้น จนกระทั่งล่าสุด เวย์น รูนี่ย์ก็ได้ปิดฉากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว โดยเจ้าตัวจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ อย่างเต็มตัว โดยจะคุมทัพ “แกะเขาเหล็ก” เป็นเวลา 2 ปีครึ่งด้วยกัน และในเกมแรกของการเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัวนั้น ดาร์บี้ แพ้ให้กับ ร็อตเธอร์แฮม ไป 0 – 1 ในเกมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา                 สำหรับเส้นทางค้าแข้งของ เวย์น รูนี่ย์นั้นเริ่มต้นจากการเป็นเด็กปั้นของ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะสร้างชื่อขึ้นมาจนถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงไปร่วมทีมในฤดูกาล 2004 – 2005 และที่ “โรงละครแห่งความฝัน” เวย์น รูนี่ย์ได้สร้างผลงานสุดยอดออกมาอย่างต่อเนื่องจนได้ก้าวไปเป็นตำนานของสโมสร “ปีศาจแดง” พร้อมกับทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติลงอย่างยิ่งใหญ่ (ในสโมสร รูนี่ย์ยิงไป 253 ประตู, ชาร์ลตัน ยิงไป 249 ประตู, ในทีมชาติอังกฤษ รูนี่ย์ยิงไป

สาวกลิเวอร์พูล วางแผนทำป้ายยกย่องแข้งผีอย่าง “แรชฟอร์ด”

                กองเชียร์ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วางแผนเตรียมทำป้ายยกย่องให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริตลอดกาลในเกม “แดงเดือด” ที่ทั้งสองทีมจะพบกันในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564 ณ สนาม “แอนฟิลด์” หลังจากที่ มาร์คัส แรชฟอร์ดมีส่วนสำคัญอย่างมากในการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษเดินหน้าแจกอาหารกลางวันฟรีให้กับเด็กในประเทศต่อไป "แรชฟอร์ด" ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเรื่อง การแจกอาหารกลางวันฟรีให้กับเยาวชน                 โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอังกฤษวางแผนจะยกเลิกการแจกอาหารกลางวันฟรีให้กับเยาวชนทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ดออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเรื่องดังกล่าว จนสุดท้ายรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจที่จะยังคงแจกอาหารฟรีให้กับเด็กๆ ต่อไป และหลังจากนั้น มาร์คัส แรชฟอร์ดยังเดินหน้าทำการกุศลเพื่อหาอาการมาให้กับเด็กเยาวชน ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากในสหราชอาณาจักรและในอีกหลายๆ ประเทศที่ได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด                 ก่อนหน้านี้เอฟเวอร์ตัน ทีมร่วมเมืองของลิเวอร์พูล ก็ได้เคยทำป้ายสรรเสริญการกระทำดังกล่าวของ มาร์คัส แรชฟอร์ดมาแล้ว ซึ่งล่าสุดแฟนบอลบางส่วนของ ลิเวอร์พูล ก็เตรียมแผนการที่จะทำป้ายยกย่องดาวยิงทีมชาติอังกฤษแม้ว่า มาร์คัส แรชฟอร์ดจะเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือว่าเป็นทีมคู่แค้นของ “หงส์แดง” ก็ตาม โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า “@Timd7204” ได้โพสต์ถามว่า “มีแฟนบอลลิเวอร์พูล ทำป้ายให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ดเพื่อนำไปชูที่อัฒจรรย์ฝั่งเจ้าบ้านหรือเปล่า ?” ซึ่งหลังจากนั้นก็มีแฟนบอลลิเวอร์พูลหลายๆ คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยกันมากมายโดยเฉพาะแอคเคาน์ที่ชื่อว่า “@Thomokop208” ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ส่วนตัวของผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าแน่หากพวกเราไม่ทำป้ายยกย่องให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ดสิ่งที่พวกทำไม่ได้แปลว่าเราเชียร์กองหน้าของทีมคู่แข่ง แต่เป็นการยกย่องในสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อสังคม เพื่อเด็กๆ คุณทำได้ดีมาก มาร์คัส” สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ sa gaming เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ สเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1 – 1เวสต์แฮม หืดขึ้นคอเบียดชัย สต็อคพอร์ท ท้ายเกม เข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือน เบิร์นลีย์ ในศึกพรีเมียลีก ผงาดขึ้นจ่าฝูง

อิสตันบลู บาซัคเซเอียร์ ยกเลิกสัญญากับ “สเคอร์เทล” แล้ว!!

สเคอร์เทล

                อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ทีมดังในลีกตุรกี ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ มาร์ติน สเคอร์เทล ปราการหลังตัวเก๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สเคอร์เทล ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่เอ็นร้อยหวายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และจะไม่ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดในเกมที่เหลือทั้งหมด โดยการยกเลิกสัญญาครั้งนี้เป็นการตกลงกันด้วยดีจากทั้งสองฝ่าย "สเคอร์เทล" วัย 36 ปี ย้ายมาร่วมทีม อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ เมื่อช่วงปี 2019                 และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพา อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ครองแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศตุรกีได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และยังเป็นแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย                 และในซีซั่นนี้ สเคอร์เทลก็เป็นกำลังสำคัญในการพา อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ตะลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่สุดท้ายต้องกระเด็กตกรอบแรกไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับอาการบาดเจ็บของสเคอร์เทลนั้น อยู่ในเกมลีกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ พบกับ คาซิมปาซ่า ซึ่ง สเคอร์เทลได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ซึ่งเกมนั้นผลจบลงที่ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ เสมอกับ คาซิมปาซ่า ไป 2 – 2                 หลังจากนั้นได้มีการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของสเคอร์เทลพบว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นร้อยหวายและเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแพทย์ได้ลงความเห็นว่า สเคอร์เทล จะไม่ได้ลงเล่นให้กับ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ ตลอดทุกเกมที่เหลือในฤดูกาลนี้ จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายเลยตกลงยุติสัญญากันด้วยกัน จากนั้นได้มีคำถามไปยังสเคอร์เทล เกี่ยวกับเรื่องของการแขวนสตั๊ดซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ตอบบนอินสตราแกรมว่า “ไม่มีทางหรอกโว้ย”                 สำหรับ สเคอร์เทลนั้นโด่งดังสุดขีดในสมัยค้าแข้งให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระหว่างปี 2008 – 2016 และลงเล่นให้กับ “หงส์แดง” ไปทั้งหมด 320 นัด ยิงไป 18 ประตู จากนั้นเจ้าตัวได้ย้ายมาค้าแข้งในประเทศตุรกีกับสโมสรเฟเนร์บาห์เช่ ระหว่างปี 2016 – 2019 ก่อนที่จะมาอยู่กับ อิสตันบูล บาซัคเซเอียร์ และกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ และหากเพื่อนๆ อยากลงเดิมพัน หรือแทงบอลออนไลน์ สามารถเข้าร่วมสนุกได้ที่ ufa982 เว็บไซต์ที่กำลังมาแรงในเวลานี้ สเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1 – 1เวสต์แฮม หืดขึ้นคอเบียดชัย สต็อคพอร์ท ท้ายเกม เข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือน เบิร์นลีย์ ในศึกพรีเมียลีก ผงาดขึ้นจ่าฝูง

สเปอร์ส อดขึ้นที่ 3 ของตาราง หลังทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 1 – 1

                ท็อตแน่ม ฮ็อท สเปอร์ส ภายใต้การนำของ โชเซ มูรินโญ่ ชวดขึ้นที่ 3 ของตารางคะแนนอย่างน่าเสียดายหลังจากทำได้เพียงแค่เสมอกับฟูแล่ม ทีมท้ายตารางไป 1 – 1 ทั้งๆ ที่เกมนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส เป็นฝ่ายออกนำก่อนและมีโอกาสทำประตูปิดเกมหลายครั้งแต่พลาดไปทั้งหมด ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันที่ 13 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา                 ศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ 13 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส เปิดสนาม “ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส สเตเดียม” รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม โดยก่อนจะแข่งเกมนี้ สเปอร์ส มีผลงานที่ไม่สู้ดีนักเก็บได้เพียง 4 แต้มจากการลงเล่น 4 นัด ส่วนฟูแล่มนั้นไม่แพ้ใครมาแล้ว 4 นัดติดต่อกัน แต่เป็นการเสมอทั้งหมด สรุปเหตุการณ์ศึกพรีเมียร์ลีก ท็อตแน่ม ฮ็อท สเปอร์ส พบ ฟูแล่ม                 เริ่มเกมมาจนถึงนาที 25 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ที่นวดมาตั้งแต่เริ่มเกมก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1 – 0 จากจังหวะที่ทำเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย และเป็น เซร์คิโอ เรกีลอน เปิดบอลเข้ามาด้านในอย่างแม่นยำมาถึง แฮร์รี่ เคน โขกเข้าไปไม่เหลือ จากนั้นก็จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้                 ครึ่งหลังยังคงเป็น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ที่ทำเกมได้ดีกว่าและเกือบได้ประตูขึ้นนำในนาที 71 จากจังหวะที่ ซน ฮึง-มิน กดด้วยเท้าขวาแต่บอลพุ่งไปชนเสาเต็มๆ และเมื่อทำประตูไม่ได้เจ้าบ้านก็มาเสียประตูตีเสมอจนได้ในอีก 3 นาทีถัดมา จากจังหวะสวนกลับขึ้นมาและเป็น อเดโมล่า ลุคแมน ที่ลงมาเป็นตัวสำรองกระชากบอลหนี ดาวิซอน ซานเชส จากนั้นก็เปิดบอลให้ อีวาน คาวาเลโร่ โขกผ่านมือ อูโก้ โยริส เข้าไป                 จากนั้นกลายเป็น ฟูแล่ม ที่เปิดเกมบุกใส่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส แทนแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ จนกระทั่งในช่วงนาทีสุดท้ายแฟนบอลของ สเปอร์ส ก็ต้องดีใจเก้อเมื่อ เซร์คิโอ เรลีกอน จัดการส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้แล้ว แต่เมื่อผู้ตัดสินเช็คจาก VAR พบว่า ซน ฮึง – มิน ที่เป็นคนจ่ายให้กับ เรกีลอน

เวสต์แฮม หืดขึ้นคอเบียดชัย สต็อคพอร์ท ท้ายเกม เข้ารอบเอฟเอ คัพ รอบ 4

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

                เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก ภายใต้การนำของ เดวิด มอยส์ หืดขึ้นคออย่างหนักกว่าจะเอาชนะ สต็อคพอร์ท เคาน์ตี้ ทีมจากเนชั่นแนลลีก ในเกมเอฟเอ คัพ รอบที่ 3 เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา                 ศึกเอฟเอ คัพ รอบที่ 3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยกพลบุกไปเยือน สต็อคพอร์ท เคาน์ตี้ ทีมในระดับเนชั่นแนลลีก ถึงสนาม “เอ็ดจ์ลี่ย์ พาร์ค” โดยก่อนแข่งเกมนี้ สต็อคพอร์ท กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 3 นัดติดต่อกัน ส่วนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด นั้นเพิ่งจะเฉือนเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน มา 1 – 0 ช่วง 15 นาทีแรก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีโอกาสทักทายเจ้าบ้านถึง 2 ครั้ง                  และเกือบจะเป็นประตูทั้งสองครั้ง โดยจังหวะแรกในนาทีที่ 6 เมื่อ เดแคลน ไรซ์ ผ่านบอลให้ ชาอิด เบนราห์มา หาช่องปั่นด้วยเท้าขวาผ่านมือของ เบน ฮินซ์ลิฟฟ์ นายทวารเจ้าบ้านไปแล้วแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป อีกจังหวะในนาทีที่ 12 คราวนี้เป็น อังเดร ยาเมอร์เลนโก ได้กดด้วยขวาแต่บอลก็ถากเสาออกไปแบบฉิวเฉียด                 จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือ สต็อคพอร์ท เคาน์ตี้ สามารถต้านทานเกมรุกของอาคันตุกะจากพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งจบ 45 นาทีแรกเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยังเจาะ สต็อคพอร์ท เคาน์ตี้ ไม่ได้จึงทำให้เสมอกันอยู่ที่ 0 – 0                 ครึ่งหลังยังเป็นหนังม้วนเดิมเมื่อเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ในจังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอ ไม่ยิงออกเองก็ยิงไปถูก เบน ฮินซ์ลิฟฟ์ นายทวารของ สต็อคพอร์ท เคาน์ตี้ เซฟเอาไว้ได้ทั้งหมด                 อย่างไรก็ตามความพยายามของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 83 เมื่อได้เตะมุมก่อนที่จะเล่นสั้นๆ และเป็น จาร็อด โบเว่น เปิดเข้ามาอย่างสุดสวยให้กับ เคร็ก ดอว์สัน วิ่งตัดหน้าแนวรับของเจ้าบ้านก่อนจะโขกผ่านมือ ฮินซ์ลิฟฟ์ เข้าไปอย่างเด็ดขาด จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือเวสต์แฮม ยูไนเต็ด