หนาหู!! กระแสข่าวลือ สาลิกาดง เตรียมดึง “พอช” คุมทีม

สาลิกาดง

ข่าวเรื่องการคุมทีมของกุนซือ สตีฟ บรู๊ซยังคลุมเครือมาก โดยการเข้ามาเทคโอเวอร์ของเศรษฐีชาวซาอุดิอาระเบีย และผู้สันทัดกรณีอย่างมาร์ค ลอว์เรนสันได้ออกมายกย่องสตีฟ บรู๊ซว่าทำผลงานคุมทีม สาลิกาดง ได้ดี แต่อนาคตการคุมทีมของอดีตกุนซือแอสตัน วิลล่าและซันเดอร์แลนด์เป็นอย่างไร หลายคนเริ่มสงสัยกันแล้ว โดยบรู๊ซได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นกุนซือที่มีผลงานใช้ได้ในงบประมาณที่จำกัดของสโมสร โดยเขาพาทีมเอาชนะทีมใหญ่อย่าเงชลซีและแมนยูได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาเหมาะที่จะคุมทีมกลางตารางเท่านั้น จากการเปิดเผยของสกายสปอร์ตส์เชื่อว่าเจ้าของทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิลได้นัดหมายอดีตเฮดโค้ชสเปอร์สที่ชื่อเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มาคุมทีมแทนที่เพื่อให้นิวคาสเซิลเป็นทีมในระดับที่ลุ้นแชมป์กับทีมอื่นได้บ้าง หน่วยงานด้านการลงทุนทางสาธารณะของซาอุดิอาระเบีย (PIF) ได้ระบุกุนซือที่จะคุมทีมนิวคาสเซิลในซีซั่นหน้าเลยก็คือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ "สาลิกาดง"ทำแบบนี้กับสตีฟ นั้นหมายความว่าเขาไม่เชื่อใจกุนซือรายนี้เลย ลอว์เรนสันเขียนที่ bbc sport ว่าเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะที่เจ้าของทีมคนใหม่ของสาลิกาดง นิวคาสเซิล ทำแบบนี้กับสตีฟ นั้นหมายความว่าเขาไม่เชื่อใจกุนซือรายนี้เลย โดยบรู๊ซดูเหมือนไม่ได้รับความเคารพเท่าที่ควร ทั้งที่เขาเข้ามารับเผือกร้อนแทนที่ของกุนซือราฟา เบนิเตซเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว โดยในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมของบรู๊ซยิงประตูได้กว่า 8 ประตูในสามเกมล่าสุด และเก็บได้ 7 แต้ม นั้นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้สาลิกาดงสามารถอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก แล้วพวกเขาจะเอาเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มาคุมทีมอีกหรือ มันเป็นเรื่องที่น่าตลก นั่นหมายความว่าบรู๊ซยังเป็นกุนซือที่ดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานกับทีมที่ไม่ได้มีนักเตะชั้นยอดอะไร   นั่นหมายความว่าเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่เป็นกุนซือบิ๊กเนม แล้วมีการโต้เถียงว่าจะหากุนซือที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ เราควรให้โอกาสอดีตกุนซือเบอร์มิงแฮมรายนี้ (บรู๊ซ) มากกว่า ผลงานของทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิลยังเหลืออีก 5 เกมในพรีเมียร์ลีก เมื่อต้องแข่งกับ แมนซิตี้,วัตฟอร์ด, สเปอร์ส,ไบรท์ตันและลิเวอร์พูล โดยเวลานี้ทีมอยู่อันดับที่ 12 เก็บได้ 43 แต้มจาก 33 เกม เป็นผลงานที่ดีทีเดียว แล้วคุณในฐานะที่เป็นแฟนบอลสาลิกาดง ทูนส์ อาร์มี่มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการที่เจ้าของทีมคนใหม่จะว่าจ้าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (พอช) มาคุมทีม หรือจะเปิดโอกาสให้บรู๊ซได้คุมทีมต่อไป สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “สเตอร์ลิ่ง”กำลังคึก บอกฤดูกาลใหม่ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!หงส์แดง เตรียมเสริมทีม หวังดึง “ติอาโก้” มิดฟิลด์จากเสือใต้“ซีดาน”เป่าปาก มาดริด เชือด เกตาเฟ่ เกมยากสุดของซีซั่น

“สเตอร์ลิ่ง”กำลังคึก บอกฤดูกาลใหม่ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!

สเตอร์ลิ่ง

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาบอกว่า ฤดูกาลใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บชัยเหนือ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4-0 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายมีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 4-0 ซึ่งทาง ราอีม สเตอร์ลิ่งมีส่วนกับ 1 ประตู ซึ่งเขาได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ทีมของเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงบัลลังค์แชมป์พรีเมียร์ลีกคืนจาก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า โดยทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่งได้กล่าวว่า  “ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาแข็งแกร่ง ทั้งเกมรุก และเกมรับ เกมเพรสซิ่งของพวกเขาเล่นงานคู่แข่ง พวกเขามีฤดูกาลที่สุดยอดเอามากๆ เพราะฉะนั้นยามใดที่ต้องลงสนามเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเราจะต้องใส่เต็มที่ตลอด เพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุด พวกเรารู้สถานะดีว่าพวกเราเป็นทีมตาม พวกเราก็มีพลาดบางเป็นบางครั้ง แต่เราได้พิสูจน์กับทีมระดับแชมป์แล้ว ผลออกมาคือพวกเราสู้ได้ดี และผลการแข่งขันที่ออกมามันยอดเยี่ยมมาก สำหรับผม ฤดูกาลหน้ามันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และพวกเราเริ่มต้นมันได้เยี่ยมสุดๆ ” "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" เคยค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล ราฮีม สเตอร์ลิ่ง  ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เคยค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวที่นั่น โดยเขาได้ลงสนามให้ทีมหงส์แดง 129 นัด ยิงได้ 23 ประตู ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว44 ล้านปอนด์ ซึ่งตอนนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก โดย ราฮีม สเตอร์ลิ่งกลายเป็นกำลงสำคัญของทัพเรือใบสีฟ้า ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ปัจจุบันลงสนามให้ทีมไปแล้ว 234 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 92 ประตู ในส่วนของฤดูกาล 2019/2020 ลงสนาม 43 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 23 ประตู สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม หงส์แดง เตรียมเสริมทีม หวังดึง “ติอาโก้” มิดฟิลด์จากเสือใต้“ซีดาน”เป่าปาก มาดริด เชือด เกตาเฟ่ เกมยากสุดของซีซั่นหลังซัดประตู”กรีนวู้ด”แสดงสัญลักษณ์นิ้ว A สื่อถึง “โกเมส”

หงส์แดง เตรียมเสริมทีม หวังดึง “ติอาโก้” มิดฟิลด์จากเสือใต้

ติอาโก้

ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 เตรียมเข้าเจรจากับ บาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์บุนเดสลีก้า เพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ ในการขอซื้อตัว "ติอาโก้ อัลคันทาร่า" ดาวเตะทีมชาติสเปน "ติอาโก้" ดาวเตะทีมชาติสเปน เหลือสัญญากับ บาเยิร์น 1 ปี ติอาโก้ดาวเตะทีมชาติสเปน ยังเหลือสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค ถึงเดือนมิถุนายน ปี 2021 และการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ ดาวเตะวัย 29 ปี จะตัดสินใจย้ายออกจากถิ่น อาริอันซ์ อาริน่า เพื่อไปหาความท้าทายใหม่ ซึ่งตอนนี้ ลิเวอร์พูล คือทีมที่กำลังสนใจอยากได้ตัวติอาโก้ อัลคันทาร่ามาร่วมทีม ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมาก เพราะพวกเขาเตรียมจะปล่อยตัว นาบิล เกอิต้า รวมไปถึง อดัมส์ ลัลลาน่า และการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ ฟาบินโญ่ กองกลางตัวเก่งก็ยังไม่ไปถึงไหน โดยทาง บาเยิร์น มิวนิค ตั้งค่าตัวเอาไว้ที่ 35 ล้านยูโร แต่ทาง ลิเวอร์พูล ไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว และจากสัญญาที่เหลืออีกแค่ 1 ปี  พวกเขาคิดว่ามันน่าจะราคาสูงเกินไป แต่ถ้าหากขอลดราคาไม่ได้ พวกเขาก็พร้อมจะเจรจาขอเป็นการผ่อนจ่ายเป็นงวดแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินก้อนโต ซึ่งในสมัยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคุมทีม โบรุทเซีย ดอร์ทมุนต์  เขาเคยอยากได้ตัวติอาโก้ อัลคันทาร่ามาร่วมทีม ซึ่งครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่เขาจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักเตะที่เขาชื่นชอบ ติอาโก้กองกลางวัย 29 ปี ย้ายจาก บาเซโลน่า มาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 ด้วยค่าตัว 22 ล้านยูโร ลงสนามให้ทีมเสือใต้  230 นัด รวมทุกรายการ ยิงได้ 31 ประตู  ในส่วนของฤดูกาล 2019/2020 ลงสนาม 35 นัด ยิงได้ 3 ประตู สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “ซีดาน”เป่าปาก มาดริด เชือด เกตาเฟ่ เกมยากสุดของซีซั่นหลังซัดประตู”กรีนวู้ด”แสดงสัญลักษณ์นิ้ว A สื่อถึง “โกเมส”เสือใต้เซ็นสัญญา 5 ปี 55 ลป.ซิว “ซาเน่”จากเรือใบสีฟ้าสมใจ

“ซีดาน”เป่าปาก มาดริด เชือด เกตาเฟ่ เกมยากสุดของซีซั่น

มาดริด

ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศสของสโมสร เรอัล มาดริด ออกอาการโล่งใจที่ลูกทีมราชันชุดขาว เอาชนะ เกตาเฟ่ ในฟุตบอลลาลีก้าสเปนนัดล่าสุดได้ ชมลูกทีมเล่นอย่างอดทน  ซึ่งแม้จะนำห่าง 4 คะแนน แต่ก็ยังไม่ประมาท บาร์เซโลน่า เรอัล มาดริดลงสนามในฟุตบอลลาลก้า ฤดูกาล 2019/2020 นัดที่ 33  ซึ่งพวกเขาเป็นฝ่ายเบียดชนะ เกตาเฟ่ ไปอย่างน้ำลายเหนียว 1-0 จากจุดโทษของ เซอร์คิโอ รามอส กัปตันทีม ในนาที่ 79 ทำให้ตอนนี้ หลังจากผ่านไป 33 นัด ราชันชุดขาว มี 74 คะแนน ทางฝั่งของ บาร์เซโลน่า มี 70 คะแนน เหลือการแข่งขันอีกเพียง 5 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสที่ เรอัล มาดริด จะคว้าแชมป์ไปครองมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว ซึ่งทาง ซีเนอดีน ซีดาน ได้กล่าวว่า “เกมนัดนี้มันยากสุดๆ เราคิดเอาไว้แล้วว่ามันจะไม่ใช่เกมที่ง่าย แต่ลูกทีมของผม ก็เล่นกันอย่างมีระเบียบและอดทน และเราคิดอยู่เสมอว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเราจะยิงประตูได้ และสุดท้ายมันก็มาจริงๆ  แต่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ผมบอกเลยว่าเกมนัดนี้ เป็นเกมที่ยากที่สุดของฤดูกาลนี้ เราพยายามเล่นกันเป็นทีม ให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับทีม และช่วยกันแย่งบอลมาเวลาที่เราเสียบอล และผลก็ออกมาดี และผมหวังว่าทีมเราจะรักษาการเล่นแบบนี้เอาไว้ เรายังไม่เป็นแชมป์หรอกนะ เกมมันยังไม่จบ แต่เรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว และมันเป็นอะไรที่หนักเอาการ ที่ต้องลงสนามทุกๆ 3 วัน” ฟุตบอลลาลีก้านัดต่อไป เรอัล มาดริด ฟุตบอลลาลีก้านัดต่อไป เรอัล มาดริดจะต้องออกไปเยือนทีมแกร่งอย่าง แอทเธเลติก บิลเบา ในวันที่ 5 มิถุนายน ขณะที่ บาเซโลน่า เจอกันหนักไม่พ้กัน ต้องออกไปเยือน บีญาเรอัล ในวันที่ 6 มิถุนายน สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม หลังซดประตู”กรีนวู้ด”แสดงสัญลักษณ์นิ้ว A สื่อถึง “โกเมส”เสือใต้เซ็นสัญญา 5 ปี 55 ลป.ซิว “ซาเน่”จากเรือใบสีฟ้าสมใจหงส์แดงได้แชมป์ PL แล้ว แต่หวังทุบ “สถิติ” ของพรีเมียร์ลีก

หลังซัดประตู”กรีนวู้ด”แสดงสัญลักษณ์นิ้ว A สื่อถึง “โกเมส”

โกเมส

การเฉลิมฉลองของ "เมสัน กรีนวู้ด" เป็นข้อความแสดงถึงการจากไปของ นักเตะเพื่อนร่วมทีม แมนยู อังเคล "โกเมส" กรีนวู้ดทำประตูในเกมที่เอาชนะไบรท์ตันของให้แมนยู และแสดงความดีใจโดยทำสัญลักษณ์รูปมือเป็นตัว A สื่อถึงอังเคล โกเมสนักเตะรุ่นราวคราวเดียวกัน ขณะที่อังเคล โกเมสส่งข้อความขอบคุณกลับมา กรีนวูด ยิงให้แมนยู ขึ้นนำในเกมที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม โดยเขาเลี้ยงบอลผ่านลูอิส ดังก์ โดยกระชากบอลเข้าไปยิงด้วยสเต็ปเท้าที่รวดเร็ว ก่อนที่จะยิงบอลผ่านนักเตะเจ้าบ้าน ในนาทีที่16 และนำไปสู่เกมที่ชนะได้ 3-0 และกองหน้าวัย 18 ปีเขาได้ทำเครื่องหมาย 'A' ด้วยนิ้วของเขาซึ่งเป็นการแสดงความขอบคุณให้แก่ อังเคล โกเมสวัยรุ่นผู้ซึ่งจะกลายเป็นนักเตะอิสระในวันพุธหลังจากล้มเหลวในการตกลงทำสัญญาใหม่ โกเมส วัย 19 ปีใช้อินสตาแกรมเพื่อโพสต์ข้อความขอบคุณไปยังเพื่อนร่วมทีม กรีนวู้ดหลังจากที่ทั้งสองคนมาเล่นด้วยกันที่แมนยู "โกเมส" โพสต์ภาพการฉลองประตูของ"เมสัน กรีนวู้ด" กองกลางอังเคล โกเมสโพสต์ภาพการฉลองประตูของเมสัน กรีนวู้ด พร้อมกับแคปชันคำบรรยายใต้ภาพว่า "ไม่มีคำบรรยายใดๆ ! ฉันรักนายพี่ชาย" และกรีนวูดกลับโพสต์บอก โกเมส: "สัญญาย่อมเป็นสัญญา" โกเมสตกเป็นข่าวลือว่าจะย้ายไปยังทีมคู่แข่ง เชลซี แต่แฟรงค์ แลมพาร์ดปฏิเสธข่าวดังกล่าวที่ให้ความสนใจโกเมสในวันอังคาร และเมื่อถูกถามว่ามีความสนใจโกเมสหรือไม่ แลมพาร์ดตอบว่าไม่โกเมสที่ได้ลงสนาม 6 เกมในฤดูกาลนี้ถือเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมของแมนยู และสโมสรตั้งใจจะต่อสัญญาเขาต่อไป แต่ความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงในเงื่อนไขใหม่หมายถึงนักเตะเยาวชนจะมีอิสระที่จะเข้าร่วมสโมสรใด ๆ แม้ว่าแมนยูจะให้เงินค่าเหนื่อยในช่วงที่ซ้อมก็ตาม ขณะที่กรีนวู้ดนักเตะรุ่นราวไล่ๆ กันได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับแมนยูไปแล้ว โดยการยิงประตูแรกให้ทีมปิศาจแดง นับเป็นลูกที่หกของเขาในฤดูกาลนี้ ศูนย์หน้าตัวกลางรายนี้ยังยิงประตูได้ 5 ลูกในเกมยูโรป้าลีก และผู้จัดการทีมโอเล่ กุนนาร์ โซลชาให้เครดิตเขาเป็นอย่างมาก เขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถสูง และทีมพยายามปั้นเขาให้เป็นนักเตะกองหน้าที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก เวลานี้แมนยูมี 52  แต้มมีแต้มตามหลังเชลซี (ทีมอันดับสี่) อยู่ 2 แต้ม แต่ว่าแมนยูแข่งมากกว่าหนึ่งเกม การแข่งขันแย่งท๊อปโฟร์เป็นการแข่งขันที่เข้มข้นมาก สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เสือใต้เซ็นสัญญา 5 ปี 55 ลป.ซิว “ซาเน่”จากเรือใบสีฟ้าสมใจหงส์แดงได้แชมป์ PL แล้ว แต่หวังทุบ “สถิติ” ของพรีเมียร์ลีกปืนใหญ่คิดแผน เสริมทัพ นักเตะสู้ศึกฤดูกาลหน้า

เสือใต้เซ็นสัญญา 5 ปี 55 ลป.ซิว “ซาเน่”จากเรือใบสีฟ้าสมใจ

ซาเน่

ในที่สุด บาเยิร์น มิวนิคก็ได้เซ็นสัญญาลีรอย ซาเน่ มิดฟิลด์จากทีมรองแชมป์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยเงินค่าตัว 55 ล้านปอนด์เมื่อคืนวันอังคาร ซาเน่ ได้ตกลงสัญญาห้าปีกับแชมป์เยอรมัน หลังจากเปิดเผยเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าเขาต้องการย้ายออกจากอิตติฮัด สเตเดี้ยม การย้ายทีมของซาเน่จัดว่าเป็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดช่วงนี้ ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 45 ล้านปอนด์บวกกับอีก 10 ล้านปอนด์ ที่จะได้จากบาเยิร์นในสัญญาปีสุดท้าย นักเตะวัย 24 ปีมีมูลค่าการย้ายทีมมากว่า 130 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าทั้งสองทีมตกลงเรื่องค่าตัวกันไว้ก่อนที่ซาเน่จะได้รับบาดเจ็บในรายการคอมมูนิตี้ ชิลด์ทำให้การเจรจาย้ายทีมต้องล้มเลิก ซาเน่ได้ลงสนามหลังเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์เพียงแค่เกมเดียวเป็น 11 นาทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกมที่ชนะเบิร์นลี่ย์ 5-0 การไม่ส่ง "ลีรอย ซาเน่" ร่วมทีมไปในการแข่งขันกับเชลซี เป็นการบ่งบอก การตัดสินใจไม่ส่งลีรอย ซาเน่ร่วมทีมไปในการแข่งขันกับเชลซีและนิวคาสเซิล ก็เป็นการบ่งบอกแล้วว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่าต้องการขายนักเตะชาวเยอรมันรายนี้ออกไปแน่นอน ซาเน่เวลานี้บินไปที่แคว้นบาวาเรียเรียบร้อบเพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทีมและ กุนซือ ฮันซี่-ดีเตอร์ ฟลิค แต่ก็ยังไม่อาจลงสนามได้ต้องรอจนกว่าจะเริ่มต้นฤดูกาลหน้าก่อน สื่อได้คาดหมายไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าบาเยิร์น มิวนิคต้องการจะได้ตัวลีรอย ซาเน่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่ชวดได้ตัวเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา   ทางแมนซิตี้ได้สอดแทรกสัญญาการขายนักเตะที่ 10% ไว้ด้วย หมายความว่าการซื้อขายครั้งต่อไป หากว่าบาเยิร์นขายเขาออกจากทีม แมนซิตี้จะได้เงินส่วนแบ่งจากการขายเขา 10% ด้วย และซาเน่จะได้รับเงินค่าเหนื่อยกว่า 350,000 ปอนด์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากล่าวว่าเขาไม่มีแผนสำรองในการซื้อนักเตะที่เป็นตัวตายตัวแทนของ ซาเน่เลยและมองว่าฟิล โฟเด้นนักเตะวัย 20 ปีที่จะเป็นตัวแทนของมิดฟิลด์ชาวเยอรมันได้ ริยาด มาห์เรซและ ราฮีม สเตอร์ลิงเชี่ยวชาญในการเล่นระบบกองหน้าสามคน ขณะที่กาเบรียล เชซุสเล่นได้อย่างน่าประทับใจในเกมที่ชนะรีล มาดริด ปัญหาของแมนซิตี้คือแผงหลังทำให้ทีมต้องพลาดท่าเสียแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล และเรือใบสีฟ้าต้องการกองหลังอย่างน้อยหนึ่งรายในช่วงซัมเมอร์นี้ และหากจะซื้อกองหลังสองคนต้องปล่อยกองหลังออกไปอย่างน้อยหนึ่งรายก่อน เป็นเพราะว่าการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าทำให้วงการฟุตบอลก็ได้รับผลกระทบไปด้วย สโมสรจะมองหาซื้อสองควรหนึ่งในศูนย์หลังปัจจุบันของพวกเขาออกไป สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม หงส์แดงได้แชมป์ PL แล้ว แต่หวังทุบ “สถิติ” ของพรีเมียร์ลีกปืนใหญ่คิดแผน เสริมทัพ นักเตะสู้ศึกฤดูกาลหน้า“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอล

หงส์แดงได้แชมป์ PL แล้ว แต่หวังทุบ “สถิติ” ของพรีเมียร์ลีก

สถิติ

ลิเวอร์พูล ที่คุมทีมโดยกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์พวกเขายังมีความท้าทายในการเล่นพรีเมียร์ลีกอยู่ดีแม้ว่าจะคว้าแชมป์ไปแล้วก็ตาม จากการที่พวกเขามีแต้มห่าง แมนซิตี้กว่า 23 แต้ม และเหลือการแข่งขันอีก 7 เกมนั่นหมายความว่าพวกเขาได้แชมป์ไปแล้ว และเหลือการแข่งขันอีกถึง 7 เกมกว่าจะจบฤดูกาล เรามาดูกันดีกว่าว่าพวกเขามีโอกาสทำลาย สถิติ อะไรได้บ้าง โดยพวกเขาเป็นทีมที่มีผลงานดีมากคือชนะติดต่อกันไปแล้วกว่า 18 เกมในพรีเมียร์ลีกและสถิติต้องมาถูกหยุดด้วยน้ำมือของวัตฟอร์ด ที่แตนอาละวาดชนะได้ 3-0 สถิติเก็บแต้มมากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจอร์เก้น คล็อปป์จะกระตุ้นให้นักเตะชนะแมนซิตี้เพื่อเก็บแต้มให้ได้ เพื่อโอกาสในการทำแต้มมากกว่า 100 แต้ม และเป็นการทำลายสถิติของแมนซิตี้ที่เก็บได้ 100 แต้มในฤดูกาล 2017/18 ด้วย โดยหากว่าพวกเขาชนะรวดจะเก็บแต้มได้มากที่สุดอยู่ที่ 107 แต้มหรือหากว่าต้องการจะแค่เบียดชนะแมนซิตี้ที่ 101 แต้มพวกเขาก็ยังมีโอกาสแพ้ได้ 2 เกมด้วย จำนวนเกมชนะมากที่สุด เวลานี้ทีมหงส์แดง ชนะไปแล้วกว่า 28 นัด หากว่าชนะได้อีก 7 เกมจะทำให้พวกเขาชนะในพรีเมียร์ลีกได้ 35 เกมจากทั้งหมด 38 เกม ทำลายสถิติของทีมเรือใบสีฟ้าได้อีกเช่นกัน ทุบ สถิติ จำนวนแต้มห่างจากทีมอันดับสองมากที่สุด ก่อนหน้านี้เป็นแมนซิตี้ที่ทำได้เมื่อฤดูกาล 2017/18 ที่มีแต้มเหนือกว่า ทีมอันดับสองก็คือแมนยูที่ 19 แต้ม เวลานี้พวกเขามีแต้มห่างจากทีมอันดับสองที่ 23 แต้ม ทีมที่ชนะเกมในบ้านมากนัดที่สุด โดยไม่เคยมีทีมไหนที่ชนะเกมในบ้านทั้ง 19 เกมของพรีเมียร์ลีก ถ้าลิเวอร์พูลชนะ แอสตัน วิลล่า,เบิร์นลี่ย์และเชลซีได้ พวกเขาจะทำสถิตินั้นได้สำเร็จ โดยมีสามทีมที่เก็บชัยชนะในบ้านได้ 18 เกม ชนะเกมเยือนมากนัดที่สุด สถิติชนะเกมเยือนมากนัดที่สุดอยู่ที่ 16 เกม โดยเวลานี้พวกเขาชนะไปแล้วกว่า 12 เกม หากว่าสี่เกมทีมเยือนที่เหลือ หากว่าชนะแมนซิตี้, นิวคาสเซิล, ไบรท์ตัน และอาร์เซนอลได้ พวกเขาจะทำสถิตินี้ (เป็นสถิติเทียบเท่าเท่านั้น) และจอร์แดน เฮนเดอร์สันกำลังจะกลายเป็นกัปตันทีมที่ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก อดีตนักเตะของซันเดอร์แลนด์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเป็นกัปตันทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ โดยเขารับสืบทอดปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากสตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ว่าเขาเหนือกว่าคือเขาพาทีมเป็นแชมป์อังกฤษ,แชมป์ยุโรปและแชมป์โลก สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม ปืนใหญ่คิดแผน เสริมทัพ นักเตะสู้ศึกฤดูกาลหน้า“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอลเสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับ

ปืนใหญ่คิดแผน เสริมทัพ นักเตะสู้ศึกฤดูกาลหน้า

เสริมทัพ

ปืนใหญ่ อาร์เซนอลที่ซีซั่นนี้คาดว่าจะมือเปล่า พวกเขาต้อง เสริมทัพ หลังจากที่การแข่งขันพรีเมียร์ลีกผ่านมาแล้ว 31 เกมพวกเขายังอยู่แค่กลางตารางและตามหลังทีมอันดับ 4 อยู่เยอะมาก ทำให้แฟนบอลคาดหวังว่าเมื่อตลาดนักเตะเปิดขึ้น กุนซืออย่างมิเกล อาร์เตต้าควรซื้อนักเตะเข้าเสริมทีมในหลายตำแหน่ง เกมที่ผ่านมาอาร์เซนอลเล่นได้ดีเมื่อบุกไปเยือนและชนะเซาแธมป์ตันได้ 2-0 หลังจากที่แพ้ต่อแมนซิตี้และไบรท์ตัน แบบชอกช้ำ แต่ว่าจำนวนนักเตะรายใหม่ที่อาร์เซนอลจะซื้อเข้าสู่ทีมยังเป็นปัญหา โดยมีกระแสข่าวลือว่าปืนใหญ่ต้องการเสริมทัพนักเตะหลายราย ข่าวลือของดานี่ เซบายอส นักเตะชาวสเปนที่ทีมเสริมทัพมาเมื่อต้นฤดูกาลที่แล้วกล่าวว่าเขาต้องย้ายกลับไปเล่นที่สเปน เพราะว่าหมดสัญญายืมตัวจากราชันชุดขาวแล้ว มิดฟิลด์ของรีล มาดริดย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลตั้งแต่ต้นซีซั่น โดยเป็นการยืมตัวในหนึ่งฤดูกาลเท่านั้นตั้งแต่ช่วงที่อูไน เอเมอรี่กุนซือชาวสเปนคุมทัพ นักเตะชาวสเปนต้องการจะอยู่ที่อังกฤษต่อไป แต่ว่าเขาอยากจะอยู่ด้วยสัญญาถาวรมากกว่า ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาของทั้งอาร์เซนอลและรีล มาดริดด้วย สุดท้ายก็อาจจะต้องกลับไปที่สเปน ผมได้ต่อสัญญากับอาร์เซนอลเป็นระยะเวลา 1 เดือน พวกเข้าวันที่ 1 สิงหาคม สัญญาของผมกับทีมก็จะหมดลงนั่นหมายความว่าผมต้องกลับไปเล่นที่มาดริดอีกครั้ง ปืนใหญ่สนใจ "ดานิโล่" มิดฟิลด์ของปอร์โต้ นามว่า ดานิโล่คาดว่าอาจจะได้ย้ายมาเล่นที่ลอนดอนเหนือในซัมเมอร์นี้ มิเกล อาร์เตต้าต้องการเสริมทัพให้ทีมหลังจากที่ซีซั่นนี้พวกเขาล้มเหลวในการผ่านไปเล่นฟุตบอลยุโรป มัตเตโอ เกวนดูชี่ถูกตั้งคำถามว่าเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ โดยถึงแม้ว่าเกมที่ผ่านมาจะชนะเซาแธมป์ตันก็ตาม ทำให้มีข่าวล่าสุดจาก espn ว่าดานิโล่จะเข้ามาเสียบแทนตำแหน่งของเขา และทีมดังจากโปรตุเกสต้องการค่าตัวนักเตะที่ราคา 55 ล้านปอนด์ขึ้นไป พูดคุยกับ "โซบอสไล" เสริมทัพ อาร์เซนอลต้องการเสริมทัพมิดฟิลด์ชาวฮังการีมีความคืบหน้าในการเซ็นสัญญา โดมินิค โซบอสไล แต่ว่ายังเหลือเพียงการเจรจาเงื่อนไขส่วนตัวเท่านั้น โซบอลไล นักเตะชาวฮังการี เป็นนักเตะคนสำคัญของทีมอาร์บี ซัลส์บวร์กหลังจากที่ย้ายมาจากไลเฟอริ่งเมื่อปี 2017 และเขาติดทีมชาติฮังการีชุดใหญ่แล้ว นักเตะวัย 19 ปียิงได้ 10 ลูก 16 แอสซิสต์จาก 37 เกมในฤดูกาลนี้ นับว่าเป็นนักเตะเนื้อหอมของลีกยุโรป ในเวลานี้ สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม “เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอลเสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับพาชม 3 คีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ทัพ เสือใต้ ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้

“เหยียดสีผิว” คือมะเร็งตัวร้าย ที่คอยทำลาย วงการฟุตบอล

เหยียดสีผิว

                เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆท่านคงได้ยินเรื่องราวของ จอร์จ ฟลอยด์ ผู้ต้องหาชาวอเมริกันผิวสี ที่ถูกตำรวจเอาหัวเข่ากดคอหอยในขณะจับกุม ทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้นักสิทธิมนุษยชนจากหลายๆประเทศ ออกมารวมตัวกันเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ เนื่องจากหลายๆฝ่ายมองว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับคนผิวสี ซึ่งในโลกของฟุตบอลนั้นก็มีกรณีคล้ายๆกับกรณีของ จอร์จ ฟลอยด์ นั่นก็คือการ เหยียดสีผิว วันนี้เราจะหยิบยกการเหยียดสีผิวของวงการฟุตบอล ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก                 เหตุการณ์แรกย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในลาลีก้า สเปน เป็นการพบกันของ บียาร์รีล กับ บาร์เซโลน่า โดยจังหวะนั้นฝั่งทีมเยือนนั่นก็คือทีม บาร์เซโลน่า ได้ลูกเตะมุม โดยคนที่รับหน้าที่การเตะลูกเตะมุม นั่นก็คือ ดานี่ อัลเวส แบ็คขวา ชาวบราซิล แทนที่เกมการแข่งขันจะดำเนินไปตามปกติ แต่ว่าในขณะที่เขากำลังจะเตะลูกเตะมุม ได้มีกล้วยปริศนาลอยมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝีมือของแฟนบอลทางฝั่งเจ้าบ้าน แต่ ดานี่ อัลเวส ก็รับมือกับสถานการณ์นั้นได้ดี ด้วยการหยิบกล้วยที่แฟนบอลฝั่งเจ้าบ้านโยนลงมาเพื่อปอกกิน เพื่อเป็นการประชดกับการเหยียดสีผิว ในครั้งนี้  โดยเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ได้มีเหล่าคนดังมากมายได้โพสต์รูปภาพกินกล้วย พร้อมแฮชแท๊กว่า saynotoracism เพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิว โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่                 เหตุการณ์ที่สองเป็นเหตุการณ์สดๆร้อนๆที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี โดยเกมการแข่งขันนัดนั้นเป็นการพบกันของ เวโรน่า เจ้าภาพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบรสชา โดยเหตุการณ์การ เหยียดสีผิว ในครั้งนี้คนที่เป็นผู้ถูกกระทำนั่นก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าผิวสี ชาวอิตาลีที่มีเชื้อสายกานา โดยในเกมนัดนั้น แฟนบอลทางฝั่งเจ้าภาพได้ตะโกนโห่ร้องเหยียดสีผิว มาริโอ บาโลเตลลี่ ตลอดทั้งเกม แต่แล้วความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด นาทีที่ 54 มาริโอ บาโลเตลลี่ เกิดฟิวส์ขาดควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ โดยการหยิบลูกบอลแล้วเตะไปยังอัฒจรรย์ฝั่งแฟนบอลเวโรน่า ทำให้กรรมการต้องเป่าหยุดเกมชั่วคราว โดยหลังจากจบเกมสโมสรเวโรน่า ก็โดนลงโทษตามระเบียบ                 ต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิว ของวงการฟุตบอลนั้นเป็นสาเหตุที่แก้ไปหายสักที เนื่องจากเหตุการณ์เหยียดสีผิวไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอดีต โดยส่วนใหญ่ลีกใหญ่ๆในยุโรป ไม่ค่อยใช้บริการของนักเตะนอกสหภาพยุโรปหรืออียู ซึ่งส่วนใหญ่นักเตะนอกอียูก็จะเป็นคนผิวสีหรือคนผิวเหลือง ดังนั้นก็ไม่แปลกที่นักเตะนอกอียูมาค้าแข้งในลีกยุโรปจะโดนเหยียดสีผิว และต้องยอมรับว่าการเหยียดสีผิวจะทำให้สเน่ห์ของฟุตบอลลดน้อยลงจนไม่มีค่าอะไรเลยในที่สุด สามารถติดตามข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น มากมายในเว็ปไซต์ได้เพิ่มเติม เสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับพาชม 3 คีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ทัพ เสือใต้ ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้“ผลบอล” ลิเวอร์พูล เกมฝืดก้าวข้าม เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้ เสมอกันไป 0-0

เสริมดี! สื่อรายงานดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา “มูนิเยร์” ขันแนวรับ

มูนิเยร์

สื่อต่างประเทศหลายสำนัก รายงานตรงกันว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จัดการเซ็นสัญญากับ โธมัส มูนิเยร์ แบ็คขวาจอมบุกของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาร่วมทีมล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อย สำหรับมูนิเยร์ จะหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถึงกระนั้นเจ้าตัวได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ข่อต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไป แม้จะเป็นสัญญาระยะสั้นถึงเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจาก เปแอสเช ยังมีโปรแกรมในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากการปัดต่อสัญญาใหม่ดังกล่าว ส่งผลให้มูนิเยร์ กลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่หลายทีมให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เนื่องจากสามารถเซ็นสัญญาเข้าร่วมสโมสรได้แบบไร้ค่าตัว อย่างไรก็ตามล่าสุด "บิลด์" สื่อดังของเยอรมัน ได้เปิดเผยว่ามูนิเยร์ ได้ตกลงที่จะย้ายไปร่วมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นที่เรียบร้อยด้วยสัญญา 4 ปี พร้อมเป็นการปิดฉากช่วงเวลาค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นระยะเวลา 4 ฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับ "สกาย สปอร์ตส" สื่อชั้นนำของอังกฤษ ที่รายงานตรงกันว่ามูนิเยร์ ได้เลือกเป้าทีมเป้าหมายในอนาคตแล้ว นั่นก็คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แทนที่จะเป็นหลายทีมดังในแดนผู้ดี โดยจากการที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าตัวมูนิเยร์ มาร่วมทัพได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องดีของสโมสรเนื่องจากเขาจะเข้าไปทำหน้าที่แทน อาชราฟ ฮาคีมี่ แบ็คขวาที่ "เสือเหลือง" ยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด และทาง "ราชันชุดขาว" ต้องการดึงตัวกลับไปสู่ทีมในฤดูกาลหลังโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โธมัส มูนิเยร์ ย้ายมาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตั้งแต่ปี 2016 สำหรับมูนิเยร์ ย้ายมาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตั้งแต่ปี 2016 ทว่าเขาเพิ่งได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเบลเยี่ยม ด้วยการมีส่วนสำคัญพาทัพ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ผงาดคว้าอันดับ 3 ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ด้วยการเอาชนะทีมชาติอังกฤษ 2-0 ในนัดชิงอันดับ 3 ส่วนกับสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มูนิเยร์ก็มีฟอร์มการเล่นที่ได้มาตรฐานตลอด 4 ซีซั่น เริ่มจากในฤดูกาล 2016–17 ที่เขาลงสนามไป 22 เกม ทำได้ 1 ประตูกับ 4 แอสซิสต์, ฤดูกาล