“มิเกล อาร์เตต้า” ที่ต้องรับผิดชอบผลงานของอาร์เซน่อล

"มิเกล อาร์เตต้า" ที่ต้องรับผิดชอบผลงาน

                นับว่าเป็นผลงานการพ่ายแพ้อีกครั้งจนทำให้แฟนปืนใหญ่คงไม่พอใจเท่าไหร่นัก โดยทางมิเกล อาร์เตต้า นั้นอาจต้องยอมรับถึงมาตรฐานของทีมตัวเองที่ตอนนี้ทำคะแนนในตารางพรีเมียร์ลีกได้น้อยที่สุดเท่าที่สโมสรเคยมีมา ซึ่งน้อยกว่าที่อูไน เอเมอร์รี่เคยทำไว้เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย จนทางอาร์เซน่อลทำได้เพียงอยู่ในอันดับสิบสี่ของตารางพร้อมกับแต้มเพียง 13 คะแนนทั้งๆ ที่เล่นไปมากถึง 10 นัดแล้วด้วยกัน แม้ว่าทาง "มิเกล อาร์เตต้า" จะสามารถพาทีมเก่าของเขาเป็นแชมป์เอฟเอคัพได้                 รวมถึงแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์เหนือลิเวอร์พูลแชมป์เก่าก็ตาม แต่จากฟอร์มการเล่นที่ล่าสุดไปแพ้ต่อวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์นั้นก็อาจไม่ช่วยให้เขาอยู่ในทีมได้นานหากพวกเขาไม่สามารถสร้างมาตราฐานการเล่นที่ดีกลับมาได้นั่นเอง โดยตอนนี้ถือเป็นช่วงครบรอบหนึ่งปีหลังจากที่ผู้จัดการทีมคนเก่าต้องออกไป เนื่องจากผลงานที่ตกต่ำเช่นกัน                 นอกจากทางผลการแข่งขันของลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้าจะออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจของแฟนบอลอาร์เซน่อลแล้วนั้น เรื่องการยิงประตูก็กลายเป็นปัญหาสำคัญเช่นกัน เนื่องจากทีมที่มีคู่กองหน้าชื่อชั้นดีอย่างอเลกซานเดร ลาคาเซตต์กับปิแอร์ เอมเมอร์ริค โอบาเมยองนั้นกลับทำประตูไปได้เพียง 10 ลูกจากผู้เล่นทุกคนรวมกัน นอกจากนี้จากขาดหายไปของโธมัส พาร์ทลีย์ก็ทำให้ทีมปืนใหญ่กลายเป็นฟอร์มตกไปเลยทีเดียว                 คงจะต้องดูต่อไปว่าทางมิเกล อาร์เตต้าจะหาทางพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างไร เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน รวมถึงจุดเด่นที่เกมรุกของอาร์เซน่อลก็กลายเป็นปัญหากวนใจ ซึ่งพวกเขามีคิวจะต้องเจอกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์สคู่แค้นตลอดกาลและอาจต้องเอาชนะเพื่อเรียกศรัทธานั่นเอง สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

วิเคราะห์-ฟันธง ฟุตบอล ช้างเอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย คู่วันอาทิตย์ที่ 6 ธค

ช้างเอฟเอคัพ รอบ 32

        ศึกฟุตบอล ช้างเอฟเอคัพ รอบ 32 สุดท้าย ในส่วนของวันอาทิตย์มีลงทำการแข่งขัน 8 คู่ แต่ในส่วนนี้จะนำ 4 คู่แรกมาเจาะลึก ซึ่งมีทีมจากไทยลีก 1, 2 และ 3 ที่ฝ่าฟันจนเข้ามาถึงรอบนี้ โดยจากนี้จะมาวิเคราะห์และฟันธงว่าใครบ้างที่จะน่าจะผ่านเข้ารอบต่อไป วิเคราะห์-ฟันธง ฟุตบอล ช้างเอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย          สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ สุโขทัย เอฟซี การแข่งขันคู่นี้อาจต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากเชียงราย แชมป์เก่า 2 สมัยในรายการนี้พึ่งกลับมาจาการเล่น ACL ที่ประเทศกาตาร์ แล้วต้องกักตัวก่อน 14 วัน แต่สำหรับการวิเคราะห์ เชียงรายอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ACL รอบเพลย์ โดยในเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าหลุดดจากท็อปโฟร์แน่นอนแล้ว ส่วนทีมเยือนนับตั้งแต่ไม่มีฮิบสัน เมโล่ ผลงานของทีมก็ดรอปลง แถมยิงประตูไม่ค่อยได้ เกมนัดนี้เชื่อว่าเจ้าบ้านเป็นต่ออยู่แล้วแม้สุโขทัยจะส่งหน้าต่างชาติครบอัตรา ถ้ายิ่งทีมเยือนไม่มีเมโล่ เชียงรายก็แทบจะปิดประตูตีค้างคาได้เลย ฟันธงเชียงรายไม่แพ้          ลำปาง เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี รถม้ามรกตเจ้าบ้าน ลงเล่นอยู่ในไทยลีก 2 พร้อมกับรั้งอันดับที่ 10 ของตาราง ซึ่งนับตั้งแต่สมชาย มากมูล เข้ามา ทีมก็มีผลงานที่ดีขึ้น ส่วนช้างศึกยุทธหัตถีทีมเยือน ก็รั้งอันดับที่ 10 เหมือนกัน แต่อยู่ในไทยลีก 1 สำหรับเกมนี้เชื่อว่าทีมเยือนได้เปรียบในเรื่องศักยภาพผู้เล่น ส่วนจะเฉือนชนะได้เท่าไรก็ขึ้นอยู่ฟอร์มในวันแข่งขัน ฟันธงสุพรรณบุรีเฉือนแบบหืดจับ           วัดโบสถ์ ซิตี้ พบกับ สงขลา เอฟซี เกมคู่นี้เป็นการพบกันของทีมจากไทยลีก 3 ด้วยกัน โดยหนูนาจอมโหดเจ้าบ้าน รั้งอันดับที่ 7 โซนภาคเหนือ ส่วนทีมเยือนรั้งจ่าฝูงโซนภาคใต้ เกมคู่นี้เชื่อว่าการเดินทางไกลจะทำให้เกมสูสี แต่สุดท้ายขอฟันธงว่าสงขลาน่าจะเฉือนไปได้           ปลวกแดง ยูไนเต็ด พบกับ ตราด เอฟซี ช้างศึกระยองเจ้าถิ่น นำเป็นจ่าฝูงไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก จนเป็นเต็งที่น่าจะมีลุ้นเลื่อนชั้น ส่วนช้างขาวจ้าวเกาะทีมเยือน รั้งอันดับที่ 15 ในศึกไทยลีก 1 เกมคู่นี้จึงเชื่อว่าด้วยความห่างชั้นเจ้าบ้านจะต้านทานไม่อยู่ ฟันธงชัยชนะอยู่ที่ตราด สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์

วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 เลสเตอร์ เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

เลสเตอร์ เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

       เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 คู่วันอาทิตย์ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังฟอร์มดีจนขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวตารางได้สำเร็จ วันนี้ต้องเปิดรังคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม รับเจ้าหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ฟอร์มร้อนแรงไม่แพ้กัน สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-2-1 ส่วนทีมเยือนวางผัง 5-4-1         ทั้งสองทีมพยายามจะลำเลียงบอลเพื่อบุกเข้าใส่กันแต่ยังไม่ทันไร วูล์ฟแฮมป์ตันก็มาเสียจุดโทษจากแฮนด์บอล ก่อนที่วาร์ดี้จะยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ช่วงท้ายครึ่งแรกจะมาได้จุดโทษที่ 2 โชคดีว่ายิงไม่เข้า มิเช่นนั้นจะเป็นงานที่งานลำบากของทีมเยือนในการกลับคืนสู่เกม แต่ก็เอื้อความได้เปรียบทางแท็กติกแก่เจ้าบ้านที่จะเล่นง่ายขึ้น         ครึ่งแรกวูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในแดนเขตโทษของเลสเตอร์ได้เลย เพราะเจ้าบ้านวางแท็กติกยืนซ้อน 2 ชั้น ทำให้เจ้าหมาป่าไม่สามารถใช้จุดเด่นในลูกโต้กลับได้ อีกทั้งไม่มีความเชี่ยวชาญในการขึงบุก ภาพที่เห็นคือการถ่ายบอลไปมาจนเสียบอลคืนให้เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ก็มีสไตล์เกมบุกไม่ต่างจากทีมเยือน         เพราะเมื่อใดที่ได้เซตบอลก็จะไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากเปิดโด่งเข้ามา หรือฉวยโอกาสยิงเร็ว ส่วนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม ทีมเยือนใช้วิธีการบุกด้วยการเปิดบอลโด่ง เพื่อให้แถว 2 ได้ยิงเก็บตก ซึ่งถือว่าได้ผลดี เพียงแต่ไม่เป็นประตูเท่านั้น         บทสรุปของเกม เลสเตอร์ ถือว่าโชคดีที่ได้จุดโทษช่วงต้นเกม ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญในการคว้า 3 แต้มในวันนี้ แต่ส่วนที่ต้องปรับปรุงคือแท็กติกเกมรุก ที่การเซตเพลย์ใช้ไม่ได้ผลเลยในเกมนี้ แถมช่วงท้ายเกมจะโดนยิงตีเสมอหลายครั้ง ขณะที่วูล์ฟแฮมป์ตัน เสียลูกจุดโทษถึง 2 ลูกในเกมเดียว ซึ่งโชคดีที่โดนไปเพียงเม็ดเดียว ทำให้มีโอกาสกลับคืนสู่เกมได้ถ้ายิงตีเสมอ โดยในครึ่งหลังแท็กติกเกมบุกทำได้ดี แต่ไม่ใกล้เคียงนัก เพราะล้วนแต่เป็นลูกยิงนอกกรอบเขตโทษ ไม่ใช่การยิงเหน่งๆในระยะเผาขน สิ่งสำคัญของเจ้าหมาป่า คือการเพิ่มิติความหลากหลายในเกมรุกนับจากนี้     สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

AFC รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 กลุ่ม E เชียงราย ยูไนเต็ด เฉือน เอฟซี โซล

เชียงราย ยูไนเต็ด เฉือน เอฟซี โซล

        ศึกเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่จัดการแข่งขันขึ้น ณ สนามกลาง ประเทศกาตาร์ ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ลงเล่นนัดแรก ซึ่งรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 3 กับ เอฟซี โซล โดยพ่ายไป 5-0 ทำให้การแข่งขันเมื่อคืนกลายเป็นเกมชี้ชะตา หากพ่ายอีกจะตกรอบทันที แต่กลายเป็นว่าทัพกว่างโซ้งสามารถเฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 ต่อลมหายใจสำหรับการเข้ารอบต่อไป         ประเด็นที่ต้องกล่าวถึงในเกมนี้อย่างแรก คือฝั่งของเชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มดีขึ้นกว่าในนัดแรก ดังจะเห็นได้จากความรัดกุมในเกมรับที่มีสมาธิจดจ่อตลอดเวลา ทำให้คาดว่าอย่างน้อยสามารถที่จะแชร์แต้มได้ กระทั่งการได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ทำให้เชียงราย ยูไนเต็ด คลายความกดดัน แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าจังหวะนั้นค่อนข้างเป็นใจ ทำให้บิลล์สามารถซ้ำระยะเผาขนเข้าไป           เอฟซี โซล ได้บุกและครองบอลเหนือกว่าตามเชิง แต่ไม่สามารถทำเกมให้เป็นชิ้นเป็นอันได้เท่าไรนัก กระทั่งได้ประตูตีเสมอจากเตะมุม ซึ่งนับว่าเป็นจังหวะที่ลงล็อคพอดีระหว่างคนเปิดกับคนโหม่ง ก่อนที่หลังจากนั้นจะโหมบุกต่อเนื่อง แต่เชียงราย ยูไนเต็ด ก็สามารถดักบอลไว้ได้พร้อมกับการโต้กลับ แต่ก็ไม่อันตรายนัก เนื่องจากให้บอลกันช้าและมีตัวบุกขึ้นมาไม่กี่คน ความอันตรายในการสวนกลับของ เชียงราย ยูไนเต็ด ทำให้ เอฟซี โซล ประมาท         จนมาสู่ความพ่ายแพ้ ดังจะเห็นได้จากจังหวะโต้กลับนั้น ที่ตัวผู้เล่นของเชียงรายขึ้นมาเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งแนวรับของ เอฟซี โซล ก็ถอยลงมา 3 คนเช่นกัน และมองว่าจังหวะนี้กำลังจะดักบอลอยู่ได้อยู่หมัดเหมือนเช่นเคย แต่ทีมตัวแทนจากเกาหลีใต้ดันเปิดพื้นที่ว่างฝั่งซ้ายเอาไว้ ทำให้บิลล์เต็มขึ้นมาโล่งๆแบบไร้ตัวประกบ ก่อนจะได้บอลจากการเปิดข้ามฟากและแปรบอลลงพื้นเข้าไป กระทั่งจบเกมด้วยสกอร์ 2-1         สำหรับสถานการณ์ของเชียงราย ยูไนเต็ด อาจดูดีกว่าเมลเบิร์น วิคตอรี่ เพราะนัดหน้าตัวแทนจากไทยจะวัดกับทีมจากออสเตรเลียรายนี้ หากชนะจะได้ลุ้นยันเกมสุดท้าย ซึ่งจะพบกับปักกิ่ง กั๋วอัน ที่เข้ารอบไปแล้ว ส่วนเมลเบิรน์ วิคตอรี่ จะต้องไปตัดกับ เอฟซี โซล ที่สถานการณ์เข้ารอบยังไม่ปลอดภัย           สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีนักเตะมูลค่า 330 ล้านปอนด์ไม่พร้อมใช้งานอยู่ข้างสนาม

ลิเวอร์พูล มีนักเตะไม่พร้อมใช้งาน

เจมส์ มิลเนอร์กลายเป็นผู้เล่นคนล่าสุดของเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอไบรท์ตัน 1-1 เจมส์ มิลเนอร์นักเตะสารพัดประโยชน์เป็นคนที่มาช่วยเหลือเจอร์เก้น คล็อปป์เมื่อได้รับบาดเจ็บเขาลงไปพร้อมกับปัญหาเอ็นร้อยหวายในช่วงที่หงส์แดงเสมอกับไบรท์ตัน ปัญหาล่าสุดหมายความว่าตอนนี้ชาวเยอรมันไม่มีนักเตะจากทีมชุดแรกมากถึงแปดคนซึ่งมีมูลค่ารวม 330 ล้านปอนด์ อาการบาดเจ็บของหงส์แดงในการป้องกันได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดีและขณะนี้พวกเขาไม่มีแบ็คโฟร์ตัวเลือกแรกสามตัวเลือก เฟอร์จิล ฟานไดค์และ โจ โกเมซเซ็นเตอร์แบ็คต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ามาหลายเดือนขณะที่เทรนต์อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์แบ็คขวาหวังว่าจะกลับมาในเดือนธันวาคม คล็อปป์กังวลเกี่ยวกับความฟิตของนักเตะโดยแอนดี้ โรเบิร์ตสันมีสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตมากนัก โดยนักเตะที่เป็นตัวสำรองที่สามารถลงสนามได้ก็คือ คอสตาส ซิมิกาสที่ซื้อมาซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ตามในขณะที่พรีเมียร์ลีกยังไม่ได้ให้สัตยาบันในการแนะนำตัวเปลี่ยนตัวห้าตัว - เหมือนที่เกิดขึ้นใน EFL ตอนนี้คล็อปป์จึงเหลือทางเลือกน้อยกว่าที่จะให้สก็อตแลนด์นานาชาติอยู่ในสนาม แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ ลิเวอร์พูล ส่งนักเตะลงสนามได้ทั้งหมด 25 คน แต่คุณภาพของผู้เล่นในตารางการรักษาก็หมายความว่าพวกเขาอ่อนลงโดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลางเนื่องจากตารางการแข่งขันที่ชุกชุม ซึ่งจะรวมถึงการเตะตอนเย็นเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์สในวันที่ 16 ธันวาคมก่อนอีก 12.30 เกมสามวันต่อมาเมื่อพวกเขาพบกับคริสตัลพาเลซ เซอร์ดาน ชากิรี่ กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, นาบี้ เกต้า ทีมชาติกินีและการเซ็นสัญญาในช่วงฤดูร้อนของ ติอาโก้ อัลกานตาร่า ล้วนอยู่ในรายชื่อที่ได้รับบาดเจ็บโดยเข้าร่วมกับ ฟาน ไดค์ และ โกเมซ ในระยะยาวรวมถึงอเล็กซ์ อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน ในขณะที่มิลเนอร์กำลังได้รับการประเมินหลังจากลงเตะ ไบรท์ตัน. บางทีลิเวอร์พูลอาจจะเอาชนะไบรท์ตันได้ หากว่าพวกเขามีนักเตะตัวหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,โจ โกเมซ และติอาโก้ อัลกานตาร่า  สำหรับการไปเยือนไบรท์ตัน ทีมชายฝั่งทางใต้ คล็อปป์ได้ตั้งส่ง เนโก วิลเลียมส์เป็นนักเตะสำรองที่แบ๊กขวาโดยมีนาธาเนียล ฟิลลิปส์นักเตะดาวรุ่งเพื่อนร่วมทีมพร้อมกับฟาบินโญ่ในตำแหน่งแบ็ก และในขณะที่นักเตะบราซิลมีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่ชัดเจนว่าแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกยังต้องใช้บริการฟาบินโญ่หนักหน่อยในช่วงเวลานี้ กัปตันจอร์แดน เฮนเดอร์สันที่ลงสนามแทนที่เนโก้ วิลเลี่ยมในตำแหน่งแบ๊กขวาช่วงพักครึ่ง เขาก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ เพราะไม่ได้ลงสนามเกมแข่งกับเลสเตอร์และอตาลันต้า สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

“ไวล์เดอร์” เผยจวก “คล็อปป์” เพราะรักษาผลประโยชน์ทีม

"ไวล์เดอร์" จวก "คล็อปป์"

คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม เชฟยู กล่าวว่าเขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะมองหาผลประโยชน์ของสโมสรหลังจากถูก เจอร์เก้น คล็อปป์ เฮดโค้ชลิเวอร์พูลอธิบายว่า "เห็นแก่ตัว" เนื่องจากต่อต้านการนำตัวสำรอง 5 ตัวกลับมาใช้ใหม่ต่อเกม คล็อปป์เรียกร้องให้พรีเมียร์ลีกหลายครั้งเพื่อทบทวนการตัดสินใจที่จะยึดตัวสำรองสูงสุดสามตัวต่อเกมและวิพากษ์วิจารณ์ผู้ออกอากาศเกี่ยวกับการจัดตารางการแข่งขันที่วุ่นวายซึ่งเขาคิดว่าจะนำไปสู่การบาดเจ็บของผู้เล่นมากขึ้น หัวหน้าทีมลิเวอร์พูลเพิ่มคำวิจารณ์ของเขาหลังจากที่เสมอกับไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบี้ยน 1-1 ในวันเสาร์และเล็งไปที่ไวล์เดอร์ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์คล็อปป์และผู้จัดการทีมใหญ่อื่น ๆ ในการเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นห้าคนในลีกอีกครั้ง ไวล์เดอร์ กล่าวว่า  "ทุกคนมีสิทธิ์ปกป้องทีมของตัวเอง" ทีมดาบคู่ เป็นหนึ่งในสโมสรเพียงไม่กี่แห่งที่ต่อต้านการเปลี่ยนตัวผู้เล่นห้าคนด้วยความกังวลว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทีมที่มีทีมใหญ่กว่า ไวล์เดอร์กล่าวว่า  ทุกคนมีสิทธิ์ปกป้องทีมของตัวเองมี 20 โหวตในลีกนี้และทุกคนดูแลตัวเองมาตลอด ไวล์เดอร์กล่าวหลังจากที่ทีมพ่าย WBA เมื่อวันเสาร์ 1-0  เราต้องดูแลตัวเอง ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่พูด ผมให้ความเคารพลิเวอร์พูลในฐานะสโมสรฟุตบอลมาโดยตลอดเพราะผมได้พูดและให้ความเคารพต่อ เจอร์เก้น ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสโมสรไม่ว่าจะเป็นการเห็นแก่ตัวก็มีผู้จัดการคนอื่น ๆ อีกสองสามคนที่ดูแลสโมสรของตัวเองเช่นกัน ผมจะดูแลสโมสรของตัวเองเสมอ” ทีมดาบคู่เป็นทีมบ๊วยของตารางคะแนน มีเพียง 1 แต้มจากการลงสนาม 10 เกมและต้องพบเลสเตอร์ ซิตี้ในสัปดาห์หน้า แฟนบอล เชฟยูบางคนในทวิตเตอร์ตอบโต้ความคิดเห็นของเจอร์เก้น คล็อปป์ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลหลังจากการแข่งขันกับไบรท์ตัน ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 กับไบรท์ตันนอกบ้านในพรีเมียร์ลีกเมื่อบ่ายวันเสาร์ คล็อปป์ต้องการให้เปลี่ยนตัวนักเตะได้ห้าคน แต่ไวล์เดอร์ต้องการให้เปลี่ยนตัวนักเตะแค่สามคน คล็อปป์กล่าวกับ BBC Sport โดยถาม คริส ไวล์เดอร์ว่าเราจะหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บนั้นได้อย่างไร เรามีการพูดคุยกันระหว่างผู้จัดการ - หนึ่งสัปดาห์ที่แล้วตอนนี้ผมคิดว่า - มันคือ 15-5 ถ้าไม่ใช่ 16-4 สำหรับสมาชิกห้าคน คริส ไวล์เดอร์พูดตลอดเวลาว่าผมเห็นแก่ตัว ผมคิดว่าสิ่งที่เขาพูดแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นแก่ตัว ผมอยู่ในตำแหน่งเดียวกันที่ไมนซ์ทุกอย่างเกี่ยวกับการอยู่ในลีก วันนี้ถ้าเรามีนักเตะให้เปลี่ยน 5 คน ผมจะเปลี่ยนแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันและเอาคอสตาส ซิมิกาสลงสนามแน่นอน ไม่ใช่เป็นเการเปลี่ยนตัวตามแท็กติกแต่เป็นการรักษาความสดของผู้เล่น สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

“มูรินโญ่” ขำ!? “แลมพาร์ด” ต่างหากที่กดดันหลังลงทุนกว่า 230 ลป.

"มูรินโญ่" ขำ!? "แลมพาร์ด"

โชเซ่ มูรินโญ่ เปิดตัวเกมในพรีเมียร์ลีกที่เชลซีจะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์รับการมาเยือนของแฟร้งค์ แลมพาร์ด โดยยืนยันว่าความกดดันในตำแหน่งควรอยู่ที่ผู้ใช้จ่ายรายใหญ่เช่นเชลซีไม่ใช่กับเขาที่สเปอร์ส มูรินโญ่กล่าวว่าเขารู้ดีว่าการทำงานภายใต้ความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่นั้นรู้สึกอย่างไรหลังจากเล่นสองคาถากับโรมันอับราโมวิชและงานระดับสูงที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รีล มาดริดและอินเตอร์ มิลาน "เมื่อคุณเป็นคนโปรดคุณก็รู้ว่าทำไมคุณถึงเป็นทีมเต็ง" กุนซือของสเปอร์สกล่าวก่อนเกมดาร์บี้วันอาทิตย์ซึ่งเป็นการกลับมาที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ครั้งล่าสุดของเขา ผมอยู่ที่สโมสรต่างๆสมมติว่า“ แชมป์ด้านการซื้อนักเตะ” เพราะการลงทุน ผมต้องรับมือกับความกดดันนั้น ตอนนี้มันไม่ใช่สำหรับผมที่จะรับมือกับความกดดันนั้น กดดันพวกเขาเล็กน้อย ปล่อยให้เราอยู่ในความสงบ เชลซีกลายเป็นทีมอังกฤษทีมแรกที่ใช้จ่ายเงิน 230 ล้านปอนด์ในกรอบการโอนเดียวในปีนี้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามคำสั่งห้ามโอนและการขายเอแด็ง อาซาร์ให้ รีล มาดริดในข้อตกลงมูลค่าสูงถึง 150 ล้านปอนด์ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา "แลมพาร์ด" ตอบกลับ "มูรินโญ่" โดยกล่าวว่า 'ถ้าคุณดูการใช้จ่ายในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาท็อตแน่มทำอะไรในช่วงซัมเมอร์ที่ผมมาเชลซีและสิ่งที่พวกเขาทำในช่วงพักนี้เมื่อเทียบกับเราคุณจะเห็นว่ามันมี คล้ายกันมาก สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จคือการทำงานหนัก ความกดดันก็มีมากอยู่ดี ความกดดันที่ท็อตแน่มจะยิ่งใหญ่เพราะโชเซ่สร้างทีมที่ยอดเยี่ยมและมีผู้เล่นที่เหลือเชื่อ มันเปรียบได้มากถ้าคุณมองไปที่การใช้จ่ายอย่างแน่นอนเนื่องจากผมอยู่ที่สโมสร' กุนซือโปรตุเกสกล่าวต่อว่า ผมเคยอยู่ที่เชลซีและผมรู้ถึงความแตกต่าง ผมสนุกกับตลาดแรกกับท็อตแน่ม ผมสนุกกับการตลาดที่ชาญฉลาดที่มีเงินน้อยลงคุณพยายามสร้างสมดุลให้กับทีมไม่ให้ผิดพลาดเลือกคนที่ใช่ และผมมีความสุขมากกับสิ่งที่เราได้รับ พวกเขาทุกคนตอบรับอย่างดีและทำให้ดีที่สุด สเปอร์ส ใช้เงินรวม 75 ล้านปอนด์กับ เซอร์จิโอ เรกูเลียน, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โจ โรดอน และ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถต่อรองราคาได้ที่ 20 ล้านปอนด์จาก เซาแธมป์ตัน พวกเขายังเปลี่ยนสัญญายืมตัวจากโจวานนี่ โล เซลโซ่ให้เป็นสัญญาถาวร และเซ็นสัญญายืมตัว แกเร๊ธ เบล และคาร์ลอส วินิซิอุส สเปอร์สเริ่มต้นสุดสัปดาห์ในตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกและหลังจากชัยชนะเหนือแมน ซิตี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนบอลต่างคาดหวังการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 60 ปี สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

“มัลดินี่” บอก ใครรักฟุตบอลก็ต้องรัก “มาราโดน่า” ด้วยเช่นกัน

มัลดินี่ รัก มาราโดน่า

เปาโล มัลดินี่ อดีตกองหลังชื่อดังทีมชาติอิตาลี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกีฬาสโมสร เอซี มิลาน ออกมาแสดงความเสียใจ ในการจากไปแบบไม่มีวันกลับของ ดิเอโก้ มาราโดน่า พร้อมทั้งบอกว่า ใครรักฟุตบอลก็ต้องรัก ดิเอโก้ มาราโดน่า ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานหัตถ์พระเจ้า ผู้พาทีมชาติอาเจนติน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 1986 เสียชีวิตด้วยวัย 60 ปี ในประเทศอาเจนติน่า เป็นการสูญเสียครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ซึ่งทาง เปาโล มัลดินี่ ได้กล่าวว่า “เมื่ิอไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของผม ดิเอโก้ มาราโดน่า พึ่งจะส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดให้กับผมอยู่เลย มันเหมือนพึ่งผ่านไปไม่นาน ผมไม่เคยมองเขาเป็นศัตรูในสนามฟุตบอล เพราะต่อให้คุณไล่เตะเขาตลอดทั้งเกม เขาไม่มีทางที่จะตอบโต้คุณ เขาได้แต่ก้มหน้าก้มตาเล่นในเกมของเขา ยามที่เขาอยู่ในสนาม เขามอบความสุข ความสนุกสนานให้กับผู้คนทั่วโลก และความจริงก็คือทุกอย่างที่เขาทำ มักจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพูดถึงอยู่เสมอ เขาคือสุดยอดนักเตะ เป็นไอคอนของวงการฟุตบอล ที่ไม่ว่าใครที่รักฟุตบอล ก็ต้องรักในความเป็นเขาด้วย” "เปาโล มัลดินี่" กองหลังในตำนานของ เอซี มิลาน วัย 52 ปี อยู่กับทีมปีศาจแดงดำ มาตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน ถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในปี 1984 ผ่านการลงสนามให้ทีมมากถึง 902 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 33 ประตู แบ่งเป็นการลงเล่นในกัลโช ซีเรียอา 647 นัด ยิงได้ 29 ประตู ได้แชมป์กัลโช ซีเรียอา 7 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก 5 สมัย แชมป์โคปา อิตาเลีย 1 สมัย ติดทีมชาติอิตาลี 126 นัด ยิงได้ 7 ประตู อยู่ในทีมชาติอิตาลี ชุดอันดับสามฟุตบอลโลก ในปี 1990 และรองแชมป์โลก ในปี 1994 รวมถึงชุดรองแชมป์ฟุตบอลยูโร ในปี 2000 สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

ส่งกำลังใจตำนานหมาป่า “ไบลี่ย์” ต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์

"ไบลี่ย์" ต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์

ไมค์ ไบลี่ย์ กัปตันในตำนานของ วูลฟ์ กำลังทุกข์ทรมานจากการต่อสู้ที่สะเทือนใจกับโรคอัลไซเมอร์และครอบครัวของเขาเชื่อว่าเขาเป็นเหยื่อรายล่าสุดของการบาดเจ็บที่ศีรษะในวงการฟุตบอล "ไบลี่ย์" คว้าโทรฟี่ลีกคัพ ให้หมาป่า วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่เวมบลีย์ในปี 1974 รวมถึงการเล่นในถ้วยยูฟ่าคัพรอบชิงชนะเลิศปี 1972 ตอนนี้กำลังต่อสู้กับภาวะสมองเสื่อม วิคตอเรีย ไทเลอร์ ลูกสาวของเขาบอกกับ Express & Star ว่าที่ปรึกษาวินิจฉัยว่าเด็กอายุ 78 ปีเป็นโรคอัลไซเมอร์ในปี 2017 โดยการสแกนเผยให้เห็นว่าเขากำลังทุกข์ทรมานกับภาวะเสื่อม คุณไทเลอร์ผู้ช่วยแม่ของเธอบาร์บาร่าและแอนดรูว์พี่ชายของเธอด้วยการดูแลที่จำเป็นสำหรับโมลีนิลักซ์ที่บ้านของเขาในเซอร์เรย์เรียกร้องให้ PFA เข้าใจโอกาสของการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำเพื่อทำอะไรให้กับอดีตนักฟุตบอลที่มีภาวะสมองเสื่อมได้มากขึ้นตามข่าวที่หัวหน้า กอร์ดอนเทย์เลอร์ผู้บริหารจะก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เธอกล่าวว่า พ่อของฉันได้รับการวินิจฉัยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ตอนนี้เขาอายุ 78 ปีแล้ว แต่มันเริ่มต้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 70 ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราพยายามจัดการกับมันในฐานะครอบครัวพยายามดูแลเขา  เราไม่เคยก้าวไปข้างหน้าเพราะเราแค่จัดการกับพ่อและสุขภาพจิตของเขา เมื่อมีเรื่องราวต่างๆเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ เรามีการสแกน CT Scan ของพ่อซึ่งยืนยันว่าเป็นอัลไซเมอร์  เรากำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้ไม่สามารถซ่อนได้อีกต่อไปและพยายามกระตุ้นให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ออกมาข้างหน้าที่ต้องทนทุกข์กับสิ่งเดียวกัน จากภาพทั้งหมดที่คุณเห็นเขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งและตอนนี้เขาก็เป็นเงาของตัวเอง  มันยากมากและไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ เลยในแง่ของการดูแล แม่คอยดูแลพ่อของฉันตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเขาต้องถูกเฝ้าดูตลอดเวลาเราทิ้งเขาไปไม่ได้ดังนั้นมันจึงเป็นการเข้าใจว่าเราต้องการผู้เล่นมากขึ้นไม่ว่าจะเล่นในระดับใดเพื่อช่วยให้ยืนหยัด . เห็นได้ชัดว่าพ่อเล่นให้ทีมชาติอังกฤษและวูลฟ์แฮมป์ตัน ช่วงปี 1970 แต่ผู้เล่นทุกคนต้องก้าวต่อไปเพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องทำบางอย่างและ PFA ต้องรับผิดชอบและรับทราบปัญหาและวางชุดการดูแลบางอย่างไว้ ไม่ใช่แค่สำหรับอดีตนักฟุตบอล แต่สำหรับภรรยาและครอบครัวของพวกเขา แม่เหนื่อยล้าในฐานะครอบครัวที่เราพยายามสนับสนุนเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พ่อของฉันเล่นให้อังกฤษในปี 1964 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทั้งกลุ่มในทีมมีผู้เล่นเหล่านี้มากมาย มันไม่ใช่แค่น้ำหนักของลูกบอล แต่มันเป็นความเร็วของลูกบอลในตอนนี้และฉันรู้สึกว่าไม่มีใครอยากสังเกตว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปและในไม่ช้าที่ผู้เล่นผ่านเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเรื่องน่าปวดใจสำหรับภรรยาของนักฟุตบอลเหล่านี้ สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี

เดอะ ไลท์บลูส์ เรนเจอร์ส ทิ้งห่าง 2-0 จบเกมแค่เจ๊าแต่กุมความได้เปรียบในยูโรป้า

เรนเจอร์ส เจ๊า เบนฟิก้า

รายงานการแข่งขันเมื่อ เบนฟิก้า ทำประตูสองประตูที่ อิบร๊อกซ์ หลังจากสก๊อต อาร์ฟิลด์ และ เคมาร์ รูฟ ให้ เรนเจอร์ส เป็นผู้นำ 2-0 ในเกม ยูโรป้า ลีก กลุ่ม D เรนเจอร์สยังคงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยนั่งอันดับสูงสุดและห้าคะแนนจากเลชพอซนานในอันดับสามโดยเหลืออีกสองเกม เรนเจอร์สทิ้งประตูนำสองประตูในครึ่งหลังเพื่อเสมอกับเบนฟิก้า 2-2 ที่อิบร็อกซ์ แต่ยังคงนั่งในตำแหน่งที่ดีเพื่อผ่านเข้ารอบจากยูโรป้าลีกกลุ่มดี สโมสร เรนเจอร์สจำเป็นต้องเอาชนะเบนฟิก้า และหวังว่า เลช พอซนันแพ้ที่ สตองดาร์ด ลีแอช เพื่อผ่านเข้ารอบและสก๊อตต์ อาร์ฟิลด์ เริ่มต้นได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับทีมของสตีเว่น เจอร์ร์ด โดยยิงบอลจากระยะ 10 หลาหลังจาก เคมาร์ รูฟ เซฟส่วนหัวได้และ เจมส์ ทาเวอร์เนียร์ ยิงเข้าประตู เรนเจอร์ส กดดันเบนฟิก้าอย่างยอดเยี่ยมและเลือกช่วงเวลาที่จะโจมตี รูฟ เพิ่มวินาทีที่ยอดเยี่ยมโดยเตะเข้าที่มุมบนจากขอบกล่องโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในเกมโดยใช้เศษวัสดุและพยายามจับบอลขึ้น (69) แต่เจ้าบ้านล้มเหลวในช่วงเวลาสามนาทีเนื่องจากการทำประตูของตัวเองของเจมส์ ทาเวอร์เนียร์นาที 78  และการประตูของปิซซี่ นาที 81 ทำให้ทีมเยือนจากโปรตุเกสตามตีเสมอได้ อย่างไรก็ตามการชนะครั้งสุดท้ายของ สตองดาร์ ลีแอช 2-1 ใน เลช พอซนัน หมายความว่า เดอะ ไลท์บลูส์ ยังคงสามารถควบคุมคุณสมบัติจากกลุ่ม D โดยนั่งอันดับสูงสุดและห้าคะแนนจากพอซนานในอันดับสามโดยเหลืออีกสองเกม เรนเจอร์สจินตนาการถึงโอกาสของพวกเขาในการเผชิญหน้ากับทีมเบนฟิก้าที่หมดลงซึ่งขาดผู้เล่นทีมแรกไปแปดคนเนื่องจากส่วนผสมของโควิด -19 การบาดเจ็บและการระงับและเป็นผู้นำในนาทีที่เจ็ด หลังจากเฮลตัน ไลต์ส่วนหัวของรูฟเซฟไว้ได้ดีทาแวร์นิเยร์ก็กระโจนขึ้นเพื่อป้องกันประตูแต่ดันโชคร้ายทำเข้าประตูตัวเอง แผนการเล่นของเรนเจอร์สนั้นชัดเจนและมีประสิทธิภาพรูฟ และ อัลเฟรโด้ โมเรลอส จับบอลได้อย่างยอดเยี่ยมในขณะที่ ไรอันเคนท์ ทำผลงานสกปรกโดยไม่มีบอลเนื่องจากกำแพงสีฟ้าทึบทำให้ เบนฟิก้า มีโอกาสครึ่งหนึ่งในครึ่งแรก ราฟา ซิลวาเข้ามาใกล้ที่สุดโดยเปลี่ยนลีออน บาโลกุนอย่างยอดเยี่ยมในกรอบ แต่ความพยายามของเขาในมุมเฉียบพลันถูกสกัดกั้นได้ดีโดยกองหลังเรนเจอร์ส ทีมจากสก๊อตแลนด์ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการป้องกัน เบนฟิก้าซึ่งรอ 78 นาทีสำหรับการยิงประตูครั้งแรกและเจ้าภาพเชื่อว่าพวกเขาควรได้จุดโทษเมื่อ แยน แฟร์ต็องเก้นจัดการครอสของรูฟ เจอร์ราร์กล่าวว่า มันเป็นจุดโทษ เพราะผมมองเห็นได้และผมก็อยู่ห่างจากทางการมากขึ้นมันเป็นจุดโทษที่ชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น สามารถติดตามข่าวกีฬาทั่วโลก ข่าวฟุตบอล ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อีกมากมายในเว็ปไซต์เพิ่มเติมได้ “อาร์เตต้า” ยันชัด “เปเป้” ยังมีอนาคตในทัพปืนใหญ่ อาเซน่อล!!วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 8 พาเลซ ถล่มลีดส์ เละเทะ 4-1วงการฟุตบอลช็อค “มาราโดน่า” หัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันปิดตำนานแข้งวัย 60 ปี