หลังเกม ลิเวอร์พูล ปะทะ บอร์นมัธ วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

on March 8th, 2020 in ข่าวกีฬาต่างประเทศ

           ลิเวอร์พูล กลับมาเก็บ 3 แต้มในบ้านหลังจากที่แฟ้มา 4 นัดทั้งพรีเมียร์ลีก ยูฟ่าและเอฟเอคัพ เปิดเกมลิเวอร์พูลโดนบอร์นมัธยิงนำก่อน 1 ลูก ก่อนที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ยิงคืนกันคนละลูก เก็บ 3 แต้ม หนีแมนซิตี้ 25 แต้มขอชนะอีกแค่ 3 นัด 9 แต้ม เพื่อเป็นแชมป์พลีเมียลีกในฤดูกาลนี้ปิดฉากการรอคอย 30 ปี ในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระหว่าง ลิเวอร์พูล อันดับหนึ่งของตาราง เปิดบ้าน พบกับ บอร์นมัธ อันดับที 18 ของตาราง ที่กำลังจะตกชั้น

            ก่อนเกม คล็อป ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล ได้จัดทีมที่ไม่มี 3 ตัวหลัก อลีสซง เบ็คเกอร์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน แล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ , อาเดรียน และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงแทนด้วยแผน 4-4-3

            ส่วนอีกฝั่ง บอร์มํธ ไม่ไม่ได้ส่ง โจชัว คิง เพราะมีอาการบาดเจ็บ และแฮร์รี่ วิลสัน ทียืมมาจากลิเวอร์พูล จึงส่ง จูเนียร์ สตานิ สลาส ลงมาเล่นริมแส้นแทนเพื่อช่วยแนวรุก และ คัลลัม วิลสัน ยืนหน้าเป้าด้วยแผนการ 4-1-4-1

รายชื่อนักเตะ

ลิเวอร์พูล : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

บอร์นมัธ : แอรอน แรมส์เดล, แจ็ค สเตซี่ย์, สตีฟ คุ้ก, นาธาน อาเก้, อดัม สมิธ, ฟิลิป บิลลิ่ง, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา, ลูอิส คุ้ก, จูเนียร์ สตานิสลาส, คัลลั่ม วิลสัน, ไรอัน เฟรเซอร์

            เริ่มเกม ลิเวอร์พูล ยังคงเล่นเกมไวบุกใส่อย่างเดิมเพื่อรีบจบสกอล์ จนนาทีที่ 9 บอร์นมัธใช้เกมส่วนกลับเร็วจากฟิลิปป์ บิลลิ่ง ส่งให้ เจฟเฟร์ซอน เลร์มา เลี้ยงไปยังริมเส้นหลังแล้วส่งตัดเข้ามากลาง ก่อนที่ คัลลั่ม วิลสัน ได้ยิงจ่อๆเข้าประตู นำไปก่อนเจ้าบ้าน 0 – 1 ต่อมาทางด้านบอร์นมัธยังมีโอกาสต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุมในนาทีที่ 14 นาธาน อาเก้ ได้ขึ้นโหม่งเต็มๆ แต่อาเดียนกระโดดปัดไว้ได้ ต่อมาในนาทีที่ 19 บอร์นมัธได้เปลี่นนตัวผู้เล่น แจ็ค ซิมพ์สัน แทน คัลลั่ม วิลสัน เพราะมีอาการบาดเจ็บ

            ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องจนในนาทีที่ 25 แจ็ค ซิมพ์สันที่เพิ่งเปลี่ยนลงมานั้นทำพลาดในกองหลัง ที่พยายามเลี้ยงล้ม ซาดิโอ มาเน่ แล้วไม่พ้น จนทำให้ ซาดิโอ มาเน่ แย่งบอลแล้วได้แล้วเลี้ยงเข้าเขตโทษก่อนส่งให้ โมหาเหม็ด ซาลาห์ จับหนึ่งจังหวะแล้วหักเข้าซ้ายยิงรอดขาผู้เล่น บอร์นมัธ ไปเฉียดเสาแรกเข้าประตู ตีเสมอ ให้ทีมลิเวอร์พูล แต่ลิเวอร์พูลยังต้องการอีกลูกเพื่อให้ได้ 3 แต้ม จึงบุกต่อไม่หยุด จนในนาทีที่ 33 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เก็บบอลได้ตรงกลางสนามแล้วจ่ายทะลุช่อง ให้ ซาดิโอ มาเน่ ใช้ความเร็ววิ่งหลุดไปเดียวๆกับผู้รักษาประตู ก่อนขึ้นนำเป็น 2-1 ขึ้นนำเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ลิเวอร์พูลลดความเร็วในการบุก จนจบครึ่งแรก

            ครึ่งหลังไม่มีประตูเพิ่มแต่ในนาทีที่ 60 ทางบอร์นมัธเกือบได้ลูกตีเสมอจาก ไรอัน เฟรเซอร์ วิ่งหลุดมารับบอลก่อนงัดบอลข้ามหัวอาเดียน บอลโด่งเกือบถึงเส้นประตู แต่ เจมส์ มิลเนอร์ ยังวิ่งมาสกัดออกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ช่วยให้ยังคงรักษาสกอล์เดิมที่ 2-1 และคล็อปป์ ก็เล่นเกมครองบอลจนจบเกม ทำให้ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธ 2-1 ไปได้อย่างสนุก