สรุปข่าวสารทุกประเด็นประจำวันที่ 19 เมษายน 2563

สรุปข่าวสารทุกประเด็นประจำวันที่ 19 เมษายน 2563 เรื่องราวในแวดวงฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมไปถึงเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะ และวงการบอลอื่นๆ 1.ก็องเต้ อาจโดน เชลซีปล่อยตัว ยังคงเป็นข่าว และหนักขึ้นทุกวันในเรื่องของ เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่ได้อยู่ในข้อเสนอของทางด้าน เชลซี ได้ยืนข้อเสนอนี้ให้กับทาง บาร์เซโลน่า เพื่อหวังคว้าตัวกองหน้าตัวเกินอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มาเสริมทัพ แต่ก็มีข่าวลื่อมาอีกว่าอย่าง ปารีส แซงค์ แชร์กแมง และยูเวนตุส ก็ต้องการคว้าตัวก็องเต้ ด้วยเช่นกัน 2.บาร์เซโลนา อยากได้ คันเซโล ทีมดังอย่าง บาร์โลนา กำลังตกเป็นข่าวถึงการคว้าตัวนักเตะในทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ตำแหน่งแบ็คขวาอย่าง ชูเอา คันเซโล ที่เจ้าตัวก็อยากกลับไปเล่นที่ ลาลีกาสเปน เหมือนที่เคยเล่นให้กับ บาเลนเซียอยู่ 3 ปี ทั้งนี้สื่อยังบอกอีกว่า ทางบาร์เซโลนา ก็พร้อมส่งตัว เนลสัน เซเมโด ในส่วนหนึ่งของข้อเสนอด้วยเช่นกัน 3.ยังคงต้องใช้เวลาต่อไปกับ มินามิโนะ นายเก่าอย่าง เจสซี มาร์ช ผู้จัดการทีม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ได้ออกมาพูดถึงลูกทีมเก่าอย่าง ทาคุมิ มินามิโนะ นักเตะชาวญี่ปุ่นที่ปัจจุบันย้ายมาอยู่ทีมสโมสร ลิเวอรพูล เมื่อช่วงซื้อชายเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทันได้โชว์ฝีมืออะไรมากก็ต้องมาหยุดพักกักตัวเสียก่อน “นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่ได้มาเล่นใน พรีเมียร์ลีก และยังเป็น แอนฟิลด์ ที่มีนักเตะเก่งๆมากมาย คงต้องให้เวลากับเขาอีกหน่อยเพื่อที่จะได้ให้เขาปรับตัว และเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ทาคุมิ จะมีดีมากกว่าที่คุณเห็น และยังขยับมาเล่นในตำแหน่งกองกลางเลยยังได้” นายเก่าทาคุมิกล่าว 4.สเปอร์ เปลี่ยนสนามให้เป็นศูนย์การแพทย์ช่วยวิกฤตการโควิด-19 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม กำลังจะกลายเป็นศูนย์การแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากที่ประชนส่วนใหญ่ได้รับวิกฤตการนี้ทางด้านสเปร์อจึงอย่างแบ่งเบาและช่วยเหลือทางโรงพยาบาลนอร์ธ มอเดิลเซ็ก โรงบาลประจำท้องถิ่น โดยจะใช้พื้นที่บริเวณลานชั้นใต้ดินนั้นเอง และยังปรับเปลี่ยนส่วนอื่นๆให้เหมาะในการใช้งานของเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน 5.ลิเวอร์พูล สนใจดาวรุ่งบราซิลอย่าง เตเต้ ตกเป็นข่าวอีกครั้งกับทางด้านทีม ลิเวอร์พูล ที่แสดงท่าที่สนใจในตัวดาวรุ่งอย่าง มาเธอุส คาร์โดโซ “เตเต้” ปัจจุบันอยู่สังกัดสโมสร ชัคตาร์ โดเน็ตสก์ ทีมดังในยูเครนนั้นเอง โดยเจ้าตัวได้ทำประตูไปแล้ว 5 ประตู และอีก 4 แอสซิสต์ และเจ้าตัวยังออกมาบอกอีกว่าเขานี้แหละก็เป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล อีกด้วย

โอ้ยยยย จะเอายังไงกันแน่…

จากการรายงานของสื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก ออกมาระบุว่ามีสโมสรฟุตบอลบางส่วนใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษแสดงท่าทีต้องการลงมติโหวต ให้ฤดูกาลแข่งขัน 2019/2020 นี้เป็นโมฆะ และจะทำให้ทีม หงษ์แดง ลิเวอร์พูล อดชูถ้วยแชมป์ที่รอคอยมานานแสนนานถึง 30 ปี ถ้าผลโหวตส่วนมากออกมาเป็นโมฆะ สื่อดังกล่าวได้มีการอ้างอิงจากการสัมภาษณ์หนึ่งในผู้บริหารที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนว่า การที่ใด้มีการจัดการแข่งขันในแบบที่ปิดสนามไม่ให้ผู้ชมเข้าชมนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างงั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นได้มีการประชุมทั้ง 20 ทีมของพรีเมียร์ลีกแล้วว่า เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องการที่จะให้มีการแข่งขันในฤดูการนี้ใปจนจบไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม และทางออกที่ดีคือการแข่งในสนามปิดที่ไม่ให้ผู้ชมเข้าสนาม ความคิดที่จะให้เป็นโมฆะนั้นถูกปัดตกไปในที่ประชุม ดิ แอธเลติก ยังเผยอีกว่า หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของสโมสรหนึ่ง โดยสรุปว่าเขาหวังอยากให้สถานะการณ์ดีขึ้นก่อนจะมีการประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 3 เมษายนที่จะถึงนี้ แต่สถานการณ์ก็ยังคงแย่ลงทุกวัน จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีเพียงไม่กี่สโมสรที่จะเสียประโยชน์หากฤดูการนี้เป็นโมฆะ เพราะว่ามันไม่สำคัญเท่ากับการที่ต้องทุรักทุเรในการจัดการแข่งขัน และเสี่ยงต่อการติดโรคไปมากกว่าเดิม หากฤดูกาลนี้เป็นโมฆะก็จะได้ประกาศการแข่งขันของฤดูการใหม่ในเดือนกันยายน จะปลอดภัยและดูเป็นไปได้มากกว่า ทั้งนี้เหล่าบรรดากองเชียร์ให้โมฆะ อย่าง ริโอ เฟอร์ดินาน อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการให้การแข่งยุติลงทั้งหมด เพราะมองไม่เห็นทางที่จะกับมาเตะได้เลย จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ต่อมา สตีฟ นิโคล ตำนานหงส์แดง ก็ออกมาโต้จาการให้สัมภาษณ์ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ว่าทำไมต้องโมฆะด้วยล่ะ มันก็ถูกที่ นักเตะเองไม่ได้ลงฝึกซ้อม และก็ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ทั้งทีมไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันดูปลอดภัยแต่ถึงอย่างงั้นผมก็เชื่อว่าถ้าเข้าได้ฝึกซ้อมและลงเล่น พวกเขาก็ไม่ได้มีความเสี่ยงใดๆ และยังเหลืออีก 10 เกม อีกแค่ 10 เกม จะเตะ เสาร์ พุธ เสาร์ 3 วันต่อสัปดาห์ก็ยังทำได้ อาจใช้เวลา 3-4 สัปดาห์เพื่อเล่น 10 เกมที่เหลือให้จบ มันจะเกิดปัญปัญหาอะไรหรือเฟอร์ดินาน คุณจะยกเลิกทั้งหมดเพื่อเตะอีกแค่ 3-4 สัปดาห์เลยหรอ สตีฟ นิโคล กล่าว และผลเสียหากต้องยกเลิกการแข่งของพรีเมียร์ลีกในฤดูการณ์นี้ที่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขั้น ถึง 762 ล้านปอนด์ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 30,480 บาทเลยทีเดียว

สรุปข่าวในพรีเมียร์ลีก 20/03/63

กองเชียร์สำหรับแฟนบอลที่หวังว่าให้การแข่งพลีเมียร์ลีกครั้งนี้เป็นโมฆะนั้นถึงกับต้องผิดหวัง เมื่อวันที่19 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาที่ การประชุมของพรีเมียร์ลีก มีมติว่าการแข่งขันในฤดูกาล 19/20 จะกลับมาเตะอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน 2563 เป็นอย่างไวที่สุด เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 จากการแถลงจึงได้ข้อสรุปว่าจะต้องเล่นให้จบฤดูกาลนี้ ทำเอากองแช่งลิเวอร์พูลต้องผิดหวังตามๆกัน ในระหว่างการหยุดพักของบรรดาเหล่านักเตะเพื่อรอการกับมาแข่งนั้นก็มีเหตุการณ์แบะกิจกรรมต่างๆมาให้พวกเราได้ดูกัน อย่าง #StayAtHomeChallenge มีการเกิดกระแสขึ้นของเหล่านักเตะทั้งหลายในกระแสโลกออนไลน์ มันคือกิจกรรมที่ทำส่งต่อกัน คือการล้างมือพร้อมกับเดาะลูกฟุตบอล อย่าง บิลลี่ กิลมอร์ นักเตะดาวรุ่งจากเชลซี ต่อมา #StayAtHomeChallenge ได้ถูกเพิ่มความท้าทายมากขึ้นให้กับนักเตะคือการเดาะทิชชู่ เมื่อมีการนำทิชชูมาเดาะ ทำให้เกิดไวรัลทำตามกันเป็นจำนวนมาก อย่าง บรูโน่ แฟร์นั้นด์ส นักเตะในพรีมียร์ลีกก็ออกมาโชว์เดาะทิชชู่เช่นกัน นอกจากกิจกรรมยามว่างของเหล่านักเตะแล้ว ก็ยังมีข่าวการซื้อขายตัวนักเตะของแต่ละทีมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาเซนอลที่หวังทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะอย่าง คริส สมอลลิ่ง ผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบล็ก ของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่มีสัญญายืมตัวไปเล่นให้กับอาแอส โรม่า ที่ทำผลงานให้กับทีมโรม่าเป็นอย่างดี จนอยากเซ็นสัญญาด้วยซะเลย อาเซนอลเห็นอย่างงี้เลยสนใจยอมทุ่มเงินถึง 25 ล้านปอร์นเพื่อหวังถึงมาร่สมทีในฤดูกาลหน้า หรือจะเป็นอดีตนักเตะของลิเวอร์พูลเองอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ล่าสุดมีข่าวว่าทาง เชลซี กำลังติดต่อสอบถามไปทาง บาร์เซโลน่า ทีมดังจาก ลา ลีกา สเปน เพื่อขอซื้อ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ผู้เล่นตำแหน่งกลางตัวรุกแต่อาจต้องยอมจ่ายถึง 120 ล้านยูโรเลยทีเดียว ถึงอย่างงั้นก็ต้องรอดูกันไปว่าเชลลีจะยอมจ่ายหรือไม่ ในฝั่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็กำลังมีข่าว ที่กำลังจะโดดร่วมเข้าไปแจมให้การซื้อตัวนักเตะที่กำลังเนื้อหอม อย่าง ซานโดร โตนาลี่ ผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ของ เบรสชา สโมสรของ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เพื่อมาเสิรมทัพ ที่ต้องแย่งกับทีมยักษ์ใหญ่อีก 2 ทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และทีมร่วมเมือง อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นกัน นอกจาก 2 ทีมนี้ยังมีทีมที่สนใจด้วยเช่น ปารีส แซงต์แชร์กแมง และยูเวนตุส ต้องยอมรับเลยว่าเนื้อหอมสุดๆ

เป็นที่ถกเถียงในพรีเมียร์ลีก โมฆะหรือไม่ควรโมฆะ

ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องสำหรับไวรัสโควิด-19 ในพรีเมียร์ลีกที่ส่งผลเป็นอย่างมากให้ทีมต่างๆต้องงดเตะในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้มีการถกเถียงกันเกิดขึ้นว่าควรจะโมฆะหรือไม่ถ้ายังต้องงดแตะต่อไปอย่างงี้เรื่อยๆ เพราะมองแล้วว่ายังเหลืออีกหลายนัดที่ต้องเตะในพรีเมียร์ลีก เหลืออีกเพียงแค่ 6 แต้มสำหรับลิเวอร์พูลที่จะได้คว้าแชมป์ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แชมป์ที่รอคอยมานานถึง 30 ปีแต่ดันมาเกินเหตุการณ์โรคระบาดจนได้ ทำให้การเตะในพรีเมียร์ลีก ต้องหยุดชะงักลงไป จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นว่าควรโมฆะหรือไม่อย่างไร ทีมที่กำลังจะตกชั้นอย่าง นอริชซิตี้ ก็หวังที่อยากจะให้โมฆะ แต่ทีมอย่างลิเวอร์พูลที่กำลังจะได้แชมป์ และรอมานาน 30 ปี ก็ไม่อยากที่จะให้โมฆะแน่ๆ จึงทำให้เกิดการแบ่งฝั่งกันวิจารณ์กันเกิดขึ้น ทางฝั่งที่อยากให้โมฆะและคิดว่าลิเวอร์พูลไม่ควรได้แชมป์ อย่าง อลัน เชียเรอร์ ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ หรือจะเป็นทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ออกมาพูดถึงการแพร่ระบาดของโรคที่ต้องควรระวังในเรืองของการแตะต้องโดนกัน และบอกอีกว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครจะตกชั้นหรือไม่ตกชั้น หากการแข่งยังไม่จบ ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งของทางฝั่งที่อยากให้โมฆะ ทางฝั่งที่อยากให้แข่งจนจบ และไม่ควรโมฆะ อย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตนักเตะของลิเวอร์พูลเอง ที่มองว่าหากมีการโมฆะจะนั้นจะไม่ยุติธรรมกับลิเวอร์พูลเลย เช่นเดียวกับ กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องมาโมฆะ และจะเป็นการไม่ยุติธรรมกับทีมลิเวอร์พูล และยังมีทีมต่างๆที่อยากให้แข่งต่อเพราะด้วยฟอร์มการเล่นของทีมตัวเองอย่าง เลสเตอร์ ที่กำลังจะลุ่นได้ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรืออย่างทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ได้จะมีลุ้นโควต้าฟุตถ้วยยุโรป หรือแม้แต่ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นทีมรักทีมแค้นกับลิเวอร์พูล ก็กำลังมีลุ้นได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเช่นกัน ทั้งนี้ก็ยังหาข้อสรุปกันต่อไปว่าจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ถ้าให้คาดการณ์การโมฆะอาจจะเป็นไปได้ยากกว่า เพราะด้วยอะไรหลายๆอย่างหากได้โมฆะ แต่ทางออกสำหรับเรื่องนี้จะเป็นไปทางไหน บ้างก็ว่าให้หยุดรักษาการแพร่ระบาดก่อน แล้วค่อยกลับมาเตะกันต่อก็ไม่สายเพราะการรักษาใช้เวลาน่าจะแค่ 1 เดือนอย่างที่จีนได้ทำ หรือจะตัดจบเลยด้วยตารางคะแนนในปัจจุบันแต่ถึงอย่างงั้นคงไม่ดีแน่ถ้าได้ชูถ้วยแชมป์โดยไม่มีกองเชียร์เลยในสนาม

รวมสถานการณ์โควิด-19 ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 13 มีนาคม 2563

จากเหตุการณ์ที่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ “ ปืนใหญ่ ” อาเซนอล นั้นได้ออกมาประกาศตัวว่าตนได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ทำให้ทางพรีเมียร์ลีกเร่งจัดการประชุมเพื่อหามาตราการรับมือและหาทางออก               มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ “ ปืนใหญ่ ” อาเซนอล ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังจริงๆ แต่ผมได้เข้ารับการตรวจหลังจากที่รู้สึกไม่ค่อยดี ผมจะกลับมาทำงานให้เร็วที่สุดทันทีที่ได้รับอนุญาต” และทางสโมสรเองก็ได้ทำการปิดศูนร์ฝึกซ้อม ลอนดอนโคลนี่ย์ แล้ว และเฝ้าดูอาการทั้งโค๊ชและสตาฟที่ใกล้ชิดอีกด้วย     ล่าสุดทางด้าน “ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ” เอฟเวอร์ตัน ก็ได้ออกมาประกาศให้ทางนักเตะและทีมงานสตาฟโค๊ชกักตัวแล้ว ซึ้งมีผลทำให้เกมที่จะเจอกับลิเวอร์พูลในศึกเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมต ที่ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในวันจันทร์ที่16 มีนาคม 2563 นี้ อาจมีอันจำเป็นต้องเลื่อนการเตะออกไป     ต่อมาทางเชลซี ได้ออกมาประกาศว่านักเตะดาวรุ่งตำแหน่งปีกอย่าง ฮัดสัน โอดอย ก็ได้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกันหลังแพทย์ด้วยพบ จากการมีอาการตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมานี้ ทั้งนี้ทางเซลซีจึงเริ่มมีมาตราการกักตัวทั้งนักเตะและสตาฟโค๊ชต่างๆ และปิดพื้นที่ศูนย์ฝึกซ้อมแล้วเช่นกัน   ทางด้านฮัดสัน โอดอย หลังจากที่ทราบอาการว่าตนได้รับเชื้อโควิด-19 ได้ออกมาเปิดใจหลังจากนั้นผ่านทางทวิตเตอร์ของตัวเองว่า “ ทุกคน อย่างที่พวกคุณคงทราบกันแล้วว่า ผมติดไวรัสในช่วง 2 วันที่ผ่านมาซึ่งผมได้พักฟื้นแล้ว ผมได้ทำตามคำแนะนำ และจะกักตัวเองเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ผมหวังว่า จะได้เจอกับทุกๆ คนในเร็วๆ นี้ และหวังว่า พวกเราะจะกลับมาลงสนามได้ในเร็วๆ นี้ ดูแลตัวเองกันด้วย ”  และโพสข้อความว่า “ ขอขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีและทั้งหมดที่ผมพูดอยู่ในวิดีโอนี้ ผมยังรู้สึกดีและหวังว่าจะได้พบกันเร็ว ๆ นี้ !! ”   ก่อนหน้านี้กับทางทีมเลสเตอร์ ซิตี้ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ก็ได้ออกมาประกาศว่ามีนักเตะภายในทีม มีอาการไข้หวัดถึง 3 คนและมีคำสั่งให้นักเตะดังกล่าวนั้นแยกตัวออกจากทีมก่อนเป็นเวลา 7 วันเพื่อเฝ้าดูอาการและป้องกันการแพร่กระจายของเชื่อไวรัสโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีมและทีมงานต่างๆอีกด้วย   ถึงอย่างไรก็ตามเบื้องต้นในแต่ละทีมเริ่มมีมาตรการในการต้องกักตัวเองออกมากันแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายไปมากกว่าเดิม ในระหว่างรอผลของการประชุมจากพรีเมียร์ลีก